‘บอร์ดกสทช.’ มีมติลดเงินนำส่ง ‘USO Fee’ เหลือ 0.125-1.5% จากเดิม 0.50-2% พร้อมปรับอัตราเงินนำส่งเป็น 7 ขั้นบันได จากเดิม 5 ขั้นบันได ช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล เผยช่วยลดภาระลง 2 ใน 3 ขณะที่ ‘ฐากร’ ควง 4 ค่ายโทรคมนาคม ประกาศความพร้อม ‘เพิ่มเน็ตมือถือ-อัพสปีดเน็ตบ้าน’ 10 เม.ย.นี้
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) ที่ประชุม กสทช. มีมติปรับลดอัตราการนำส่งเงินรายปีเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ USO Fee สำหรับผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิตอลและผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงเป็นแบบขั้นบันได เหลือ 0.125-1.5% ต่อปี ดังนี้
ขั้นที่ 1 รายได้ 0 - 100 ล้านบาทแรก อัตราเก็บร้อยละ 0.125
ขั้นที่ 2 รายได้ต่อปีเกิน 100 - 500 ล้านบาท อัตราเก็บร้อยละ 0.25
ขั้นที่ 3 รายได้ต่อปีเกิน 500 - 1,000 ล้านบาท อัตราเก็บร้อยละ 0.50
ขั้นที่ 4 รายได้ต่อปีเกิน 1,000 - 10,000 ล้านบาท อัตราเก็บร้อยละ 0.75
ขั้นที่ 5 รายได้ต่อปีเกิน 10,000 - 25,000 ล้านบาท อัตราเก็บร้อยละ 1.00
ขั้นที่ 6 รายได้ต่อปีเกิน 25,000 - 50,000 ล้านบาท อัตราเก็บร้อยละ 1.25
ขั้นที่ 7 รายได้ต่อปีที่เกิน 50,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราเก็บร้อยละ 1.50
ก่อนหน้านี้ กสทช.ได้กำหนดเรียกอัตราการนำส่งเงินรายปีเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ USO Fee โดยแบ่เป็น 5 ขั้น และเรียกเก็บเงินนำส่งรายปี 0.50-2% ได้แก่
ขั้นที่ 1 รายได้ต่อปี 0-5 ล้านบาทแรก อัตราเก็บร้อยละ 0.50
ขั้นที่ 2 รายได้ต่อปีส่วนที่เกินกว่า 5 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 50 ล้านบาทแรก อัตราเก็บร้อยละ 0.75
ขั้นที่ 3 รายได้ต่อปีส่วนที่เกินกว่า 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 500 ล้านบาท อัตราเก็บร้อยละ 1.00
ขั้นที่ 4 รายได้ต่อปีส่วนที่เกินกว่า 500 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท อัตราเก็บร้อยละ 1.75
ขั้นที่ 5 รายได้ส่วนที่เกิน 1,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราเก็บร้อยละ 2.00
ทั้งนี้ กสทช.จะมีการนำร่างประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บเงินรายปีเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ (ฉบับที่ 2) และผนวกอัตราการนำส่งเงินรายปีเข้ากองทุนฯ และร่างประกาศ กสทช. เรื่อง ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ (ฉบับที่ 3) ไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
“จากการศึกษาของสำนักงาน กสทช. พบว่า อัตราเงินนำส่งเข้ากองทุน กทปส. (USO Fee) ใหม่ที่จะประกาศใช้ดังกล่าว จะลดภาระการนำส่งเงินเข้ากองทุนฯของผู้ประกอบการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ลงจากเดิมประมาณ 2 ใน 3 และเป็นอีกหนึ่งในแนวทางที่ กสทช. จะช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิตอล” นายฐากร กล่าว
วันเดียวกัน นายฐากร และผู้ให้บริการโทรคมนาคม ได้แถลงความพร้อมการเพิ่มดาต้าเน็ตมือถือ 10 GB และอัพสปีดเน็ตบ้านเป็น 100 Mbps โดยนายฐากร ระบุว่า ผู้ให้บริการโทรคมนาคมทุกรายมีพร้อม 100% ในการเพิ่มเน็ตมือ และอัพสปีดเน็ตบ้าน เพื่อสนับสนุนการทำงานที่บ้าน และการอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ซึ่งจะทำให้คนไทยผ่านพ้นวิกฤตไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน
สำหรับการอัพสปีดเน็ตบ้านเป็น 100 Mbps นั้น ผู้ให้บริการจะทำการอัฟสปีดเน็ตบ้านให้กับผู้ใช้งานทั้งสิ้น 1.2 ล้านครัวเรือน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 10 เม.ย.2563 ส่วนการเพิ่มดาต้าเน็ตมือถือ 10 GB จะเปิดให้ผู้ใช้งานลงทะเบียนใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่เวลา 8.00 น. ของวันที่ 10 เม.ย.2563 ไปจนถึงเวลา 00.00 น. ของวันที่ 30 เม.ย.2563 และเพื่อให้ผู้ใช้งานใช้สิทธิได้อย่างคุ้มค่าขอแนะนำว่า ควรใช้สิทธิ์ตามแพ็คเกจที่มีอยู่แล้วให้หมดก่อน จึงค่อยกดรับสิทธิ์
“เรามีความพร้อม 100% ที่จะเพิ่มเน็ตมือถือให้ผู้ใช้งาน 10 GB และเพิ่มความเร็วเน็ตบ้านเป็น 100 Mbps ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ และเป็นเจตนาดีของกสทช.และผู้ประกอบการ ในการหยุดการแพร่เชื้อโควิด-19 โดยขอให้อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ เราจะได้ผ่านวิกฤตไปด้วยกัน” นายฐากร กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์บ้าน 4 ราย ได้ส่งตัวแทนร่วมแถลงข่าวครั้งนี้ โดยผู้แทนจากค่ายเอไอเอส ระบุว่า ได้เสริมทีมวิศวกรเข้าไปดูแลโครงข่ายโทรคมนาคมให้พร้อมรองรับการใช้งานเน็ตมือถือที่เพิ่มมากขึ้น และดูแลโครงข่ายฯให้พร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนตัวแทนบริษัทผู้ให้อินเตอร์บ้าน 3BB กล่าวว่า จะมีการอัพสปีดเน็ตบ้านให้กับลูกค้าที่มีสปีดต่ำกว่า 100 Mbps เป็น 100 Mbps พร้อมทั้งตั้งทีมงานดูแลโครงข่ายอินเตอร์เน็ตบ้านตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านประกอบ :
องค์กรผู้บริโภคเเนะกสทช.ลดค่าบริการเน็ตเเทนเเจกฟรี ตอบโจทย์เยียวยาโควิดฯ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/