ไม่มีข้อเท็จจริงทางคดีที่เปลี่ยนแปลง! ศาลยังไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ‘เพนกวิน’ หลัง ‘แม่’ หอบหลักทรัพย์ 1 ล้านยื่นประกันตัว เผยเคยยื่นร้องหลายครั้ง ศาลชั้นต้น-อุทธรณ์เคยมีคำสั่งมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผล หากจะเปลี่ยนโดยไม่มีเหตุ ย่อมเป็นการวินิจฉัยคดีตามอำเภอใจ ชี้ยังไม่ปรากฏชัดว่ามีผลต่อการเรียน-สุขภาพ-การดูแลครอบครัว
....................................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิน) หนึ่งในแกนนำม็อบราษฎร หลังจากนางสุรีรัตน์ ชิวารักษ์ มารดา มายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเป็นครั้งที่ 4 (ก่อนหน้านี้ทีมทนายความเคยยื่น 5 ครั้ง) กรณีถูกพนักงานสอบสวนฝากขังในคดีถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ 116 ในการจัดการชุมนุมทางการเมือง
โดยนางสุรีรัตน์ นำหลักทรัพย์มายื่นขอประกันตัวนายพริษฐ์ แบ่งเป็น 2 คดี คดีละ 500,000 บาท รวมหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท และใช้ตนเองเป็นนายประกัน
อย่างไรก็ดีศาลเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว และศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ร้องอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้เหตุผลเกรงว่าจำเลยจะไปก่อเหตุร้ายอีก หลังจากนั้นผู้ร้องยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและอุทธรณ์คำสั่งขอปล่อยชั่วคราวอีกหลายครั้ง ศาลเห็นว่า การที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวและได้ให้เหตุผลไว้แล้ว ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้น ย่อมเป็นการยุติว่าคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวของศาลชั้นต้นนั้นถูกต้องแล้ว
แม้กฎหมายจะอนุญาตให้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่ได้ แต่การยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่ จะมีผลให้ศาลเปลี่ยนแปลงคำสั่งได้นั้น ต้องปรากฏว่าเป็นกรณีที่มีพฤติการณ์แห่งคดีได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าในเหตุลักษณะคดี เช่น มีการรวบรวมพยานหลักฐานแล้วปรากฏพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108 อนุสอง หรือมีพฤติการณ์เกี่ยวกับจำเลยอันแสดงว่าจำเลยนั้นจะไม่หลบหนี หรือไม่สามารถไปก่อเหตุร้ายอื่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หากไม่มีข้อเท็จจริงในทางคดีที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุที่ศาลจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ทั้งนี้ ศาลหาจำต้องระบุเหตุผลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108/1 ใหม่ไม่ เพราะเท่ากับจะเป็นการคัดลอกข้อความที่ศาลนี้และศาลอุทธรณ์ได้เคยมีคำสั่งไว้แล้ว ยิ่งเมื่อศาลนี้ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามต่อเนื่องกันมาหลายครั้ง หากศาลจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งโดยไม่มีเหตุ ย่อมเป็นการวินิจฉัยคดีตามอำเภอใจ ไม่เป็นแนวทางที่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่าจำเลยที่ 1 อาจเจ็บป่วยเพราะมีโรคประจำตัวนั้น ขณะนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 มีอาการเจ็บป่วยจริงจนถึงขนาดไม่สามารถรักษาพยาบาลภายในเรือนจำได้
ส่วนที่จำเลยที่ 1 เป็นนักศึกษานั้น มีเพียงเหตุผลให้คาดคะเนได้ว่าจะไม่สะดวกในการศึกษาเล่าเรียนเท่านั้น ยังไม่มีข้อเท็จจริงชัดเจนว่าจะกระทบต่อการเรียนของจำเลยที่ 1 อย่างชัดเจนร้ายแรงอย่างไร
ส่วนการดูแลครอบครัวและการประกอบอาชีพของจำเลยอื่น เป็นเหตุความขัดข้องทั่วไปของบุคคลซึ่งต้องคดี ยังไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นรูปธรรมว่าจำเลยทั้งหมดได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ จนถึงขนาดที่จะมีผลเพราะให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ศาลสั่งไว้โดยชอบแล้ว ยกคำร้อง
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายพริษฐ์ จาก https://static.thairath.co.th/
อ่านประกอบ :
4 แกนนำม็อบราษฎรนอนคุกต่อ! ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวครั้งที่ 5
ศาลไม่อนุญาตประกันตัว 4 แกนนำม็อบราษฎร หลังยื่นคำร้องครั้งที่ 4
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage