ศาลพิพากษาคดีชุมนุม กปปส. 56-57 สั่งคุกจริง 15 ราย 'สุเทพ เทือกสุบรรณ' 5 ปี ไม่รอลงอาญา 'พุทธิพงษ์' 7 ปี 'ณัฏฐพล' 6 ปี 16 เดือน 'ถาวร เสนเนียม' 5 ปี 'สุริยะใส' 2 ปี - รอลงอาญา 12 ราย ยกฟ้อง 12 ราย 'สาทิตย์-ไพบูลย์-รังสิมา'รอด - เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 6 ราย 'ตั้น-ชุมพล-อิสสระ-ทยา-อดีตพุทธะอิสระ-สำราญ รอดเพชร' - จำหน่ายเสียชีวิต 1 ราย
...........................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2564 ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กับพวกรวม 39 ราย เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และข้อหาอื่น ๆ กรณีม็อบ กปปส. ชุมนุมทางการเมืองระหว่างปี 2556-2557
โดยกรณีนี้ศาลพิจารณาฐานความผิดหลายกรรมหลายวาระ จึงให้ลงโทษแต่ละกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วย วาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ ฐานร่วมกันยุยงให้เกิดการร่วมกันหยุดงานเพื่อบังคับรัฐบาล ฐานร่วมกันบุกรุกสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่น ฐานร่วมกันบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น รวมถึงฐานร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนผู้ร่วมกระทำความผิด ฐานร่วมกันยุยง และฐานร่วมกันบุกรุก อย่างไรก็ดีทางพิจารณาจำเลยดังกล่าวนำสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง เห็นสมควรลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลงโทษให้กระทงละ 1 ใน 3
ศาลพิพากษาจำคุก โดยไม่รอลงอาญา 15 ราย ได้แก่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จำคุก 5 ปี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จำคุก 7 ปี นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ จำคุก 6 ปี 16 เดือน นายถาวร เสนเนียม จำคุก 5 ปี นายชุมพล จุลใส จำคุก 9 ปี 24 เดือน นายสุริยะใส กตะศิลา 2 ปี เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ จำคุก 4 ปี 16 เดือน นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ (อดีตพระพุทธะอิสระ) จำคุก 4 ปี 8 เดือน นายอิสสระ สมชัย จำคุก 7 ปี 16 เดือน นายสมศักดิ์ โกศัยสุข จำคุก 3 ปี นายสาวิทย์ แก้วหวาน จำคุก 2 ปี นายสุริยะใส กตะศิลา จำคุก 2 ปี นายคมสัน ทองศิริ จำคุก 2 ปี นายสำราญ รอดเพชร จำคุก 2 ปี 16 เดือน และนายอมร อมรรัตนานนท์ จำคุก 20 เดือน
ส่วนจำเลยที่ศาลพิพากษาจำคุก แต่ให้รอลงอาญา จำนวน 12 ราย ได้แก่ นายวิทยา แก้วภราดัย จำคุก 1 ปี เเละปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี, นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี, น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำเลยที่ 12 จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี, นายถนอม อ่อนเกตุพล จำคุก 1 ปีปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี, นายสาธิต เซกัลป์ จำคุก 2 ปี ปรับ 26,666 รอลงอาญา 2 ปี, พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี, พลเรือเอกชัย สุวรรณภาพ จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี, นายมั่นแม่น กะการดี จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี, นายพิเชษฐ พัฒนโชติ จำคุก 1 ปี ปรับ 13,333 บาท รอลงอาญา 2 ปี, นายกิตติชัย ใสสะอาด จำคุก 4 เดือน ปรับ 6,666 บาท รอลงอาญา 2 ปี และนางทยา ทีปสุวรรณ จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 26,666 บาทรอลงอาญา 2 ปี
ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยจำนวน 12 ราย ได้แก่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย,นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์, นางสาวรังสิมา รอดรัศมี, นายแก้วสรร อติโพธิ, นายไพบูลย์ นิติตะวัน, นายถวิล เปลี่ยนศรี, พล.อ.ปฐมพงษ์ เกสรศุกร์, นายนายพิภพ ธงไชย, นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด, พ.ต.ท.ภัทรพงศ์ สุปิยะพาณิชย์, นายสมบูรณ์ ทองบุราณ, นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เนื่องจากบางรายเป็นเพียงผู้ร่วมชุมนุมเท่านั้น เเม้บางรายจะเป็นเเกนนำในการชุมนุมด้วยก็ตาม เเต่ความผิดที่จำเลยเเต่ละรายกระทำนั้น น้อยกว่าจำเลยอื่น อีกทั้งไม่ปรากฎว่า มีพฤติการณ์อุกอาจ หรือรุนเเรงจากการชุมนุม ประกอบกับไม่ปรากฎว่าจำเลยดังกล่าวเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยดังกล่าวกลับตัวเป็นพลเมืองดี
นอกจากนี้ยังให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 6 ราย ได้แก่ นายชุมพล จุลใส, นายอิสสระ สมชัย, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ, นายสำราญ รอดเพชร และนางทยา ทีปสุวรรณ นอกจากนี้ให้นับโทษของนายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายมั่นแม้น กะการดี และนายสุริยะใส กตะศิลา ต่อตามท้ายฟ้องด้วย
จำหน่ายคดี 1 ราย เนื่องจากเสียชีวิต ได้แก่ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ
ส่วนในความผิดข้อหากบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 นั้น ศาลพิจารณาแล้วพบว่า จำเลยทั้งหมดไม่เข้าข่าย
@'สุเทพ-พวก' รวม 8 รายนอนคุกรออุทธรณ์พิจารณาให้ประกันหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา18.40 น.ทนายความจำเลยได้ยื่นประกันเเกนนำ กปปส.ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกไม่รอลงอาญา โดยมีหลักทรัพย์เป็นกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทวิริยะ ฉลากออมสิน เงินสด จำนวนรายละ 6 เเสนบาท โดยเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. ศาลพิเคราะห์คำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้ว อนุญาตให้ประกันตัว นายสมศักดิ์ นายคมสัน นายสาวิทย์ นายสุริยะใส นายสำราญ นายอมร โดยตีราคาประกันรายละ 6 แสนบาท
ส่วนนายสุเทพ นายชุมพล นายพุทธิพงษ์ นายอิสสระ นายถาวร นายณัฏฐพล นายสุวิทย์ เรือตรีแซมดิน ศาลอาญาเห็นควรให้ส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป ทำให้นายสุเทพ กับพวกรวม 8 ราย ต้องถูกควบคุมตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างรอคำสั่งศาลอุทธรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จำเลยคดีนี้ทั้ง 39 ราย ได้แก่ 1. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. และผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) 2. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ 3. นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ 4. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 5. นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ 6. นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ 7. นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม 8. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ 9. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ 10. นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก ผู้ประกาศข่าวช่อง TOP News
11. พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ 12. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 13. นายยศศักดิ์ โกไศยกานนท์ 14นายถนอม อ่อนเกตุพล 15. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 16. นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ 17. นายสาธิต เซกัล 18. นางสาวรังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ 19. พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี 20.พลเรือเอกชัย สุวรรณ ภาพ
21. นายแก้วสรร อติโพธิ 22. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ 23. นายถวิล เปลี่ยนศรี 24. เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ 25. นายมั่นแม้น กะการดี 26. นายคมสัน ทองศิริ 27. พลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ 28. นายพิภพ ธงไชย 29. นายสาวิทย์ แก้วหวาน 30.นายสุริยะใส กตะศิลา 31. นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด 32.นายสุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์ 33.นายสำราญ รอดเพชร 34.นายอมร อมรรัตนานนท์ 35. นายพิเชฐ พัฒนโชติ 36. นายสมบูรณ์ ทองบุราณ 37.นายกิตติชัย ใสสะอาด 38.นางทยา ทีปสุวรรณ 39 นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
คดีนี้อัยการ ฝ่ายโจทก์ บรรยายฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 2556-1 พ.ค. 2557 ต่อเนื่องกัน นายสุเทพ จำเลยที่ 1 ได้จัดตั้งคณะบุคคลชื่อ กปปส. มีนายสุเทพเป็นเลขาธิการ โดยร่วมกันมั่วสุมเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร กองกำลังแบ่งหน้าที่กันกระทำก่อความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรฐานเป็นกบฏเพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองทั้งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ โดยร่วมกันยุยง ปลุกระดมให้ประชาชนทั่วประเทศกระด้างกระเดื่องร่วมชุมนุมขับไล่ ก่อความไม่สงบเพื่อขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ให้ออกจากตำแหน่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป เพื่อมิให้นายกรัฐมนตรี และ ครม.ชุดใหม่เข้าบริหารประเทศ ให้ข้าราชการระดับสูงรายงานตัวกับกลุ่ม กปปส.
ต่อมา กปปส.จะแต่งตั้งคณะบุคคลเข้าบริหารประเทศเป็นรัฐบาลประชาชน เป็นรัฏฐาธิปัตย์ จะออกคำสั่งแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และ ครม. โดยจะนำรายชื่อขึ้นกราบบังคมทูลเกล้าถวายฯเอง รวมทั้งจัดตั้งกองกำลังส่วนหนึ่งพร้อมอาวุธเข้าไปบุกยึดสถานที่ราชการและหน่วยงานสำคัญต่าง ๆ หลายแห่ง เช่น ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) สำนักงานเขตหลักสี่ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เพื่อไม่ให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินได้ รวมทั้งการปิดกั้นขัดขวางเส้นทางคมนาคมขนส่งเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
นอกจากนี้ ช่วงระหว่างวันที่ 13 ม.ค. 2557-2 มี.ค. 2557 พวกจำเลยได้บังอาจปิดกรุงเทพมหานครด้วยการตั้งเวทีปราศรัยทั่วกรุงเทพมหานคร รวม 7 จุด ปิดกั้นเส้นทางการจราจร จัดตั้งกองกำลังรักษาพื้นที่ วางเครื่องกีดขวาง ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง การกระทำของพวกจำเลยล้วนไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงอำนาจบริหารตามรัฐธรรมนูญ เหตุเกิดในกรุงเทพมหานคร และอีกหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน
โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยด้วย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 116, 117, 135/1, 209, 210, 215, 216, 362, 364 และมาตรา 365 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 76 และมาตรา 152
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจากกรณีจำเลยทั้ง 39 รายแล้ว ยังมีคดีกบฏ กปปส. อีกสำนวนในชั้นศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำที่ อ.1191/2557, อ.1298/2557 และ อ.1328/2557 ที่มีพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้บริหารสำนักข่าว TOP News นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดี ม.วลัยลักษณ์ และนายเสรี วงศ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อ เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมเป็นกบฏ และข้อหาอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 กรณีจำเลยกับพวกร่วมกันชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. ขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2556-2557 โดยเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2564 วันกำหนดฟังคำพิพากษา ศาลระบุว่ายังทำคำพิพากษาไม่แล้วเสร็จ จึงเลื่อนการอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ไปในวันที่ 6 พ.ค. 2564 โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 4 ราย
อ่านประกอบ : ทำคำพิพากษาไม่เสร็จ! เลื่อนอ่านอุทธรณ์คดี 4 กบฏ กปปส.ไป 6 พ.ค.-ลอตใหญ่นัด 24 ก.พ.
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก https://www.thaipost.net/
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/