ศาลอุทธรณ์คดีทุจริตฯพิพากษายืนจำคุก 10 ปี ตำรวจ 3 นาย ยัดเฮโรอีน 5 ถุง แก่ผู้เสียหาย แถมเรียกรับเงิน 5 แสน
..........................................
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2564 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง โฆษกสำนักงานอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 กล่าวถึงกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาจำคุกตำรวจ 3 นาย สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส คดียัดยาเสพติดและเรียกรับเงิน 5 แสนบาท เป็นเวลา 10 ปี ไม่รอลงอาญา
นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวพนักงานอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายตำรวจทั้ง 3 นาย เป็นจำเลย กรณีเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2562 จำเลยทั้ง 3 รายร่วมกันตั้งด่านตรวจค้นบริเวณตรงข้ามกับโรงพยาบาลสุไหงปาดี จ.นราธิวาส โดยผู้เสียหายกับพวกขับรถยนต์กระบะ ภายในบรรทุกสะตอดอง มะนาว และผ้าปาเต๊ะ 40 ผืน ผืนละ 400 บาท จากประเทศมาเลเซีย เมื่อขับมาถึงบริเวณดังกล่าว จำเลยทั้ง 3 ราย ร่วมกันทำการตรวจค้นแล้วเชิญผู้เสียหายกับพวกไปที่ สภ.สุไหงปาดี พร้อมกับยึดรถยนต์ไปด้วย ขณะที่จำเลยทั้ง 3 รายควบคุมผู้เสียหายกับพวกในห้องสืบสวนนั้น จำเลยทั้ง 3 อ้างว่าค้นพบเฮโรอีน 5 ถุงที่ฝากระโปรงรถ โดยจำเลยทั้ง 3 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ใช้อำนาจข่มขืนใจหรือจูงใจให้ผู้เสียหายมอบเงิน 5 แสนบาทแก่จำเลยทั้ง 3 ราย ทั้งที่ความเป็นจริงการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ต่อมาจำเลยทั้ง 3 ราย ร่วมกันควบคุมตัวผู้เสียหายไว้ในห้องสืบสวน เป็นการกักขังหน่วงเหนี่ยว กักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย จากนั้นจำเลยทั้ง 3 ราย ให้ผู้เสียหายโทรศัพท์ติดต่อมารดาผู้เสียหาย เพื่อขอเงิน โดยมารดาของผู้เสียหายโทรศัพท์ไปหาเพื่อนให้นำทองคำรูปพรรณมามอบให้ผู้เสียหายเพื่อนำไปขาย และนำเงินมา 236,000 บาท และมารดาของผู้เสียหายให้เพื่อนนำเงินสด 130,000 บาท มามอบให้ผู้เสียหาย รวมทั้งมารดาผู้เสียหายยังโอนเงินสดอีก 43,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารผู้เสียหาย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 400,000 บาท เพื่อมอบให้แก่จำเลยทั้ง 3 ราย แลกกับการปล่อยตัวผู้เสียหายไป
คดีดังกล่าว ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 3 ราย ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 148 ประกอบมาตรา 83 จำคุกรายละ 10 ปี ส่วนข้อหาอื่นนอกเหนือจากนี้ให้ยก อย่างไรก็ดีจำเลยทั้ง 3 ราย อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2564 ศาลอุทธรณ์ แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกจำเลยรายละ 10 ปี อย่างไรก็ดีจำเลยทั้ง 3 ยังมีสิทธิ์ยื่นฎีกาตามกฎหมายต่อไป
“คดีนี้เริ่มต้นจาก ญาติของผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อฝ่ายปกครอง ขอความเป็นธรรม ที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี และนำผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี จึงขอให้เป็นตัวอย่างในการใช้สิทธิโดยชอบ หรือร้องเรียน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิด ตำรวจที่ดียังมีและพึ่งได้ หลายคดีก็เกิดจากตำรวจรับแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจที่ประพฤติมิชอบ ประชาชนต้องช่วยกันเพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น เช่นคดีนี้” นายโกศลวัฒน์ กล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage