วันที่สอง สัมมนาพรรคร่วมรัฐบาลรับมือศึกซักฟอก ‘ไพบูลย์’ ขู่ฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิงสถาบัน เจอยุบพรรคแน่ ยกเคส ‘ไทยรักษาชาติ’ เป็นอุทาหรณ์ ‘จุรินทร์’เชื่อลงมติราบรื่น-ปัดตอบทุกคนได้คะแนนเท่ากัน ‘นิกร’ ยัน ชทพ.พร้อมลงมติเป็นเอกภาพ
..................................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2564 วันที่สองของการสัมมนาของพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเตรียมความก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในวันที่ 16-19 ก.พ. สำหรับกำหนดการวันนี้มีรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายฯเดินทางเข้าชี้แจงประเด็น รวม 4 คน ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ , นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย , พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณียื่นญัตติให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเรื่องอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาญัตติที่พรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอ ซึ่งมีข้อความที่นำสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการเมืองว่าจะทำได้หรือไม่ ว่า สัปดาห์นี้มีการพิจารณาเพียงญัตติเดียวคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งต้องยอมให้มีการพิจารณาเรื่องนี้ไปก่อน แต่หาก นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้มีการอ่านข้อความที่มีเนื้อหาต้องห้ามตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ก็จะลุกขึ้นทักท้วงขึ้นพอสมควร แต่ถ้านำเสนอและข้ามข้อความไปได้ก็จะไม่มีประเด็น เรื่องนี้จะเป็นประวัติศาสตร์เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการเสนอญัตติลักษณะแบบนี้ จึงหวังว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหลีกเลี่ยง และถือเป็นเรื่องดีของพรรคร่วมฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า เป็นการประท้วงยังไม่นำไปสู่ยุบพรรคใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า การประท้วงเป็นจุดแรก แต่ถ้าท่านยังจะดำเนินการก็ถือว่าเป็นการกระทำอันต้องห้ามตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตนก็เป็นห่วง เพราะนายสมพงษ์ ก็เป็นหัวหน้าพรรค และเรื่องนี้เป็นมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค ดังนั้นการยุบพรรคไทยรักษาชาติก็เป็นอุทาหรณ์ที่ดี
"ผมขอเรียนก่อน ผมเป็นผู้ยื่นคำร้องพรรคไทยรักษาชาติไปที่ กกต. โดยเหตุเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีขัดต่อระเบียบการหาเสียงของ กกต.เท่านั้น ยังเป็นเรื่องเลยมาถึงขนาดนี้ แต่กรณีนี้ผมท้วงว่าขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 3/2562 กรณีกกต.ยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งคำวินิจฉัยมีผลผูกพันทุกองค์กร ดังนั้นผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านรวมทั้งผู้อภิปราย หากนำประเด็นต้องห้ามมาอภิปราย ผมว่าเป็นผลที่ทำให้เรื่องไปศาล ซึ่งเรื่องไปได้หลายทาง ไม่จำเป็นต้องไปด้วยญัตติของตน หากมีการอภิปรายด้วยข้อความต้องห้าม มั่นใจว่าไปแน่” นายไพบูลย์ กล่าว
@ ‘จุรินทร์’เชื่อลงมติซักฟอกราบรื่น-ปัดตอบทุกคนได้คะแนนเท่ากัน
ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยืนยันว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคยังมีความเป็นเอกภาพ ไม่มีการแบ่งพรรคใหญ่พรรคเล็ก ทุกพรรคมีความสำคัญเท่ากัน รัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกพรรค และทุกพรรคก็มาร่วมหารือกัน พร้อมที่จะสนับสนุนรัฐบาล จึงไม่มีอะไรน่ากังวล และเชื่อว่าการลงมติครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
เมื่อถามว่า เสียงของรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายจะต้องเท่ากันทั้งหมดเลยหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการคุยกัน เป็นเรื่องที่วิปรัฐบาลเป็นผู้ทำหน้าที่ และไม่ขอพูดถึงว่าโดยหลักรัฐมนตรีทุกคนจะต้องคะแนนเท่ากันหรือไม่ เพราะอยู่ที่การอภิปรายและการชี้แจง ซึ่งเป็นสาระที่มีความสำคัญมากที่สุด ส่วนตัวพร้อมที่จะมีการชี้แจง และที่ผ่านมามีการชี้แจงมาตลอดว่าหากไม่มีการทุจริตก็ไม่มีสิ่งใดที่ต้องกังวล การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลของระบบรัฐสภาปกติ มั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น
@ ‘นิกร’ ยัน ชทพ.พร้อมลงมติเป็นเอกภาพ
ส่วน นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า สาระสำคัญของการสัมมนาเตรียมความพร้อมของพรรคร่วมรัฐบาล คือการที่รัฐมนตรีมาพูดคุยกัน ทำความเข้าใจกันในวิปรัฐบาลเพราะเราไม่สามารถคุยกับ ส.ส.ทุกคนได้ หากไม่พบหรือพูดคุยกันเลยแล้วอยู่ๆ ไปลงมติคงไม่เหมาะสม การมาพบปะพูดคุยน่าจะดีกว่า ในส่วนรัฐมนตรีของ ชทพ.ที่ไม่ได้ถูกอภิปราย แต่พร้อมที่จะให้กำลังใจ
เมื่อถามถึงแนวทางการลงมติของ ชทพ.จะเป็นเอกภาพไปในแนวทางเดียวกันใช่หรือไม่ นายนิกรกล่าวว่า ชทพ.จะเป็นอย่างนั้น คราวที่แล้วเราไม่เห็นด้วยกับเรื่องการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ลงแนวทางไปในแนวทางเดียวกัน ส่วนการอภิปราย เรายังไม่ได้ฟังแล้วจะบอกว่าลงคะแนนเป็นอย่างนั้นอย่างนี้คงไม่ได้ ดังนั้นการมาพบปะกันวันนี้จึงเป็นกลไกที่ดี
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/