โควิดไทยสะสมทะลุ 2 หมื่นราย ป่วยรายใหม่ 836 ราย มีทารกอายุ 26 วันด้วย ด้าน ศบค.ย้ำเคสนักเรียนติดโควิดวันเปิดเทอม สถานศึกษาไม่ใช่ต้นตอโรค-สั่งปิดโรงเรียนไม่ใช่ทางออก
...................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2564 เวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 836 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 819 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบริการฯ 109 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 710 ราย และอีก 17 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 20,454 ราย หายป่วยเพิ่ม 703 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 7,158 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวมสะสมผู้เสียชีวิต 79 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นหญิงไทย อายุ 75 ปี มีภูมิลำเนาอยู่สมุทรสาคร มีโรคประจำตัวคือ ความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง และมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าคือสามี โดยในวันที่ 25 ม.ค.2564 ได้เข้าไปตรวจหาเชื้อ ผู้ป่วยไม่มีอาการป่วยใดๆ กระทั่งวันที่ 28 ม.ค.2564 ได้รับผลตรวจพบว่าติดเชื้อ ซึ่งขณะนั้นผู้ป่วยเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย หายใจเหนื่อย ซึมลง ก่อนจะเข้ารับการรักษาในสมุทรสาครและเสียชีวิตในวันที่ 30 ม.ค.2564
ขณะที่ผู้เสียชีวิตอีกราย เป็นผู้ชายไทย อายุ 68 ปี ประกอบอาชีพค้าขาย มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวานและไตวายระยะสุดท้าย และเคยมีประวัติผ่าตัดปลูกถ่ายไต ซึ่งผู้ป่วยคนดังกล่าวมีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงสมุทรสาครและไปร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งที่ปิ่นเกล้า ก่อนวันที่ 30 ธ.ค.2564 จะมีอาการไอ มีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ กระทั่งวันที่ 7 ม.ค.2564 ตรวจหาและพบเชื้อ และเข้ารักษาภายในโรงพยาบาลเป็นเวลา 1 เดือน ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 1 ก.พ.2564
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 819 รายกระจายอยู่ในพื้นที่คงเดิม 63 จังหวัด มีประวัติไปสถานที่เสี่ยงหรือมีอาชีพเสี่ยง 109 ราย ประกอบด้วย สมุทรสงคราม 2 ราย นนทบุรี 1 ราย กทม. 7 ราย และสมุทรสาคร 99 ราย
ขณะที่พบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 710 ราย ประกอบด้วย สมุทรสาคร 688 ราย และกทม. 22 ราย
ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย ประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ 3 ราย อินเดีย 1 ราย ไนจีเรีย 1 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย ฝรั่งเศส 1 ราย สหราชอาณาจักร 3 ราย เดนมาร์ก 1 ราย แคนาดา 2 ราย และมาเลเซีย 3 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 จังหวัดสะสมสูงสุด ระหว่างวันที่ 18 ธ.ค.2563 – 2 ก.พ.2564 ประกอบด้วย สมุทรสาคร 11,969 ราย กทม. 795 ราย ชลบุรี 649 ราย ระยอง 580 ราย สมุทรปราการ 360 ราย จันทบุรี 221 ราย นนทบุรี 166 ราย อ่างทอง 113 ราย ปทุมธานี 87 ราย และนครปฐม 78 ราย
@สมุทรสาครยังน่าห่วง หลังพบทารก อายุ 26 วัน ติดโควิด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เหตุการณ์ในสมุทรสาครยังต้องเฝ้าติดตามกันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากพบผู้ติดเชื้ออายุน้อยที่สุด คือ 26 วัน และอายุมากที่สุด 81 ปี ซึ่งนอกจากเคสที่เข้าไปตรวจและนำมารายงานแล้ว เคสที่มาตรวจเองที่โรงพยาบาลยังคงต้องมีการตรวจสอบเช่นกัน
ทั้งนี้ในพื้นที่สมุทรสาครและกทม.ยังพบผู้ติดเชื้อโควิดรายวันเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการคุมเข้มเรื่องสุขลักษณะส่วนตัว ทั้งกิจการและกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมาตราการต่างๆจะต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ จึงขอความร่วมมือให้คนที่ข้ามเขตสแกนแอปพลิเชันไทยชนะ-หมอชนะ และส่งใบอนุญาตเข้าพื้นที่ด้วย
@ศบค.ย้ำสถานศึกษาไม่ใช่ต้นตอ-ปิดโรงเรียนไม่ใช่ทางออก หลังเด็กติดโควิดวันเปิดเทอม
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการติดเชื้อโควิดของนักเรียน-นักศึกษาในวันแรกของการเปิดเรียน โดยเฉพาะในพื้นที่ของ อ.แม่สอด จ.ตากว่า สิ่งที่เราอยากจะเห็นภาพคือการที่เด็กได้รับการดูแลในเรื่องของการศึกษาให้กลับมาเป็นปกติให้ได้ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้มาพร้อมกับความห่วงใย ซึ่งในกรณีดังกล่าวมีสื่อได้นำเสนอหรือพาดหัวข่าวกลัวว่าเด็กจะติด ทั้งนี้สาเหตุดังกล่าวอาจจะไม่ได้ติดมาจากโรงเรียน โดยเฉพาะยิ่งติดมาตั้งแต่เปิดเรียนวันแรกแสดงให้เห็นว่าอาจจะติดมาจากที่บ้าน ที่ชุมชน หรือพื้นที่อื่นๆ
ส่วนโอกาสในการติดภายในโรงเรียนนั้น เด็กสามารถติดได้ แต่หากจะบอกให้เด็กหยุดเรียนกันไปตลอด คงไม่มีทางเป็นได้ได้ เพราะฉะนั้นการปฏิบัติตามมาตราการป้องกันโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศไว้สำคัญที่สุด ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือของผู้ปกครอง ทั้งนี้หากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์โรงเรียนหรือสถานศึกษาสามารถปิดได้ แต่ขอเน้นย้ำว่าการปิดสถานศึกษาไม่ใช่มาตราการที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ประเทศไทยเราเคยประสบปัญหาจากเชื้อไวรัสเช่นเดียวกัน คือโรคมือเท้าปากที่ทำให้ตุ่มใสๆ เกิดขึ้นที่มือ เท้า และปากของเด็ก ซึ่งในสถานการณ์ดังกล่าวเราเพียงเสนอแนวทางให้ปิดห้องเรียนเพื่อทำความสะอาดอีกไม่กี่วันก็สามารถเปิดเรียนได้ ไม่เคยเป็นประเด็นร้อนข่าวใหญ่จนถึงขั้นต้องปิดกันทั้งโรงเรียนหรือจังหวัด ดังนั้นสิ่งต่างๆเหล่านี้เราเรียนรู้ได้ เราอยู่กับเขาได้ เหมือนกับโรคมือเท้าปาก ขณะเดียวกันกับโรคโควิดนี้ ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงกับเด็กมากนัก เพราะฉะนั้นขอให้ประชาชนคลายกังวล ความตระหนักต้องสมดุลกับตวามตระหนกอยู่เสมอ และขอให้ความเชื่อมั่นว่าบุตรหลานของท่านจะได้รับการศึกษาและการดูแลอย่างดี
@ทั่วโลกป่วย 392,565 ราย สะสม 103.92 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 392,565 ราย รวม 103,921,813 ราย อาการหนัก 107,613 ราย หายป่วย 75,712,775 ราย เสียชีวิต 2,247,018 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 125,454 ราย รวม 26,911,375 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,904 ราย รวม 454,213 ราย อินเดียเพิ่ม 8,587 ราย รวม 10,767,206 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 94 ราย รวม 154,522 ราย บราซิล พบเพิ่ม 25,285 ราย รวม 9,230,016 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 609 ราย รวม 225,143 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 115 ของโลก
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า วันนี้จะมีคนเดินทางกลับเข้าไทยอีก 85 ราย รวม 16 เที่ยวบิน ประกอบด้วย กาตาร์ 2 เที่ยวบิน 27 ราย เฮลซิงกิ 2 ราย สิงคโปร์ 3 เที่ยวบิน 6 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 เที่ยวบิน 9 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย จีน 1 ราย ญี่ปุ่น 2 เที่ยวบิน 9 ราย และเกาหลีใต้ 2 เที่ยวบิน 33
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage