'ก้องศักดิ์ ยอดมณี' ผู้ว่าฯ กกท. เผยผลสอบคดี บิ๊ก กกท.เบิกเงินค่าข้าวกล่องจัดประชุม โดนแค่ผิดวินัยไม่ร้ายแรง หลัง ป.ป.ช.แจ้งให้เอาผิดตามอำนาจหน้าที่ ด้าน จนท.ผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนโดนฟ้องหมิ่นประมาท แต่ศาลฯ ยก ชี้เป็นการแจ้งตามความเชื่อโดยสุจริต ไม่ใช่ความเท็จ
................................
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นำเสนอข่าวกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้พิจารณาข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อํานวยการกองแข่งขันกีฬาอาชีพ และนายสกล วรรณพงษ์ อดีตผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เกี่ยวกับการจัดประชุมการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนการใช้จ่ายงบประมาณสรุปผล การดําเนินงานปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น และแนวทางการแก้ไขภายในกองแข่งขันกีฬาอาชีพฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ไตรมาส 1 ซึ่งมีการจัดซื้ออาหารข้าวกล่องในการประชุมแล้วมีการนำสำเนาบัตรประชาชนของบุคคลคนหนึ่งมาเพื่อมาใช้เบิกค่าอาหารประมาณหมื่นกว่าบาท ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงปี 2557
ขณะที่ ป.ป.ช. ได้มีมติเห็นควรส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนสํานักงานตํารวจแห่งชาติดําเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และส่งเรื่องให้ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยในฐานะผู้บังคับบัญชาดําเนินการทางวินัยกับนายทนุเกียรติ และนายสกลเมื่อครั้งดํารงตําแหน่งผู้ว่า กกท.ในข้อหาว่าช่วยเหลือนายทนุเกียรติ จากกรณีถูก กกท. ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีเบิกเงินในโครงการดังกล่าว และ ป.ป.ช.ยังมีมติเห็นควรส่งเรื่อง ให้ประธานกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยในฐานะผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอํานาจแต่งตั้งถอดถอนดําเนินการทางวินัย หรือดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ต่อไปด้วยนั้น
(อ่านประกอบ:บิ๊กกกท.งานเข้า! ป.ป.ช.แจ้งเอาผิดวินัยเบิกค่าข้าวกล่องเท็จ- 'สกล' ยันเรื่องเก่าจบไปแล้ว)
ล่าสุด นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยสำนักข่าวอิศราเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า เห็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ส่งมาให้แล้ว ซึ่งเป็นกรณีการกระทำความผิดวินัยไม่ร้ายแรง และกกท.ได้มีการพิจารณาไปแล้ว ปัจจุบันอยู่ในกระบวนการขั้นสุดท้ายก่อนที่จะมีการออกคำสั่งตามความเหมาะสม
นายก้องศักดิ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี กรณีนี้ มีปัญหาส่วนตัวเกิดขึ้นด้วย จากการที่นายทนุเกียรติ ไปฟ้องเจ้าหน้าที่ของ กกท.ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วย แต่ศาลได้ยกฟ้องไปแล้ว ซึ่งมีการทำเรื่องมาถึง กกท.เพื่อสอบถามข้อสรุปการดำเนินการทางวินัยเช่นกัน
เมื่อถามว่า บทสรุปของเรื่องนี้จะมีการลงโทษผู้เกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะ ป.ป.ช.แจ้งมติมานานแล้ว นายก้องศักดิ์ กล่าวว่า "คือเรื่องของโทษนั้นต้องเรียนว่าไม่ใช่โทษวินัยร้ายแรง มันจะมีระเบียบของ กกท.ว่าจะมีระดับอย่างไรบ้าง มีโทษอะไรที่เจตนาทุจริตอะไรต่างๆเป็นต้น แต่ในกรณีนี้ทางคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงสรุปมาว่าเป็นวินัยไม่ร้ายแรง ก็คงต้องดำเนินการระเบียบข้อบังคับของ กกท."
เมื่อถามว่า คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้พิจารณาโทษมาด้วยหรือไม่ นายก้องศักดิ์ กล่าวว่า "พิจารณาเสนอมา แล้วผมก็จะใช้อำนาจระเบียบตามข้อบังคับของการกีฬาแล้วจะใช้ดุลยพินิจ วินิจฉัยว่าเมื่อข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้ เห็นว่าเป็นวินัยไม่ร้ายแรงแล้วเราจะลงโทษแบบไหน จะทัณฑ์บน ลงโทษว่ากล่าวตักเตือนก็ว่าไป"
"เรื่องนี้ต้องมีการลงโทษแน่นอน แต่ย้ำว่าเป็นเรื่องของวินัยธรรมดา โดยเรื่องนี้ถือว่ามีความชัดเจนและต้องดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย ตามข้อบังคับของ กกท."
สำนักข่าวอิศรา รายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีการฟ้องคดีหมิ่นประมาท ระหว่าง นายทนุเกียรติ กับเจ้าหน้าที่ของ กกท.นั้น สาเหตุมาจากที่เจ้าหน้าที่ กกท. 2 รายไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า นายทนุเกียรติปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยศาลแขวงนนทบุรี มีคำพิพากษาว่าการที่โจทก์ใช้จ่ายเงินไม่ตรงตามที่ได้รับอนุมัติย่อมเป็นช่องทางในการทุจริตได้ พฤติกรรมของโจทก์ที่เป็นผู้มีอํานาจ เบิกจ่ายเงิน ใช้จ่ายเงิน นอกเหนือคําสั่งอนุมัติ ลงลายมือชื่อจ่ายเงินในใบสําคัญรับเงินที่มีลายมือชื่อปลอมของผู้รับเงิน ย่อม ทําให้บุคคลทั่วไปและจําเลยทั้งสองเคลือบแคลงสงสัยถึงความโปร่งใสในการเบิกจ่ายเงินของโจทก์และเคลือบแคลงสงสัยถึงความถูกต้องแท้จริงของเอกสารการจ่ายเงินของโจทก์
การที่จําเลยทั้งสองร่วมกันแจ้งว่า โจทก์ทุจริตแสวงประโยชน์อันมิชอบ โจทก์สั่งให้มีการปลอมใบสําคัญรับเงิน จึงเป็น การแจ้งข้อความตามความเชื่อโดยสุจริตจากการตรวจสอบพยานหลักฐานประกอบพฤติกรรมของ โจทก์ มิใช่คํากล่าวอ้างใส่ความเลื่อนลอยโดยปราศจากพยานหลักฐาน การกระทําของจําเลยทั้งสองเป็นการแจ้งข้อความตามที่ตนรับรู้และเคลือบแคลงสงสัยความไม่สุจริตในการเบิกจ่ายเงินของผู้มี อํานาจรัฐ เป็นการแจ้งตามความเชื่อโดยสุจริต ไม่ใช่ความเท็จ และเป็นการสอดส่องตรวจสอบการ กระทําที่ส่อทุจริตประพฤติมิชอบในหน่วยงานรัฐอันเป็นการป้องกันส่วนได้เสียของตนในฐานะ ประชาชน เป็นการติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทําได้ คดีไม่มีมูล
ขณะที่ นายสมพร วรรณศิริ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ กกท. หนึ่งในจำเลยที่ถูกนายทนุเกียรติ ฟ้องร้องในคดีหมิ่นประมาท ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า หลังจากนี้จะไปยื่นเรื่องต่อหลายหน่วยงาน อาทิ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและประธาน กกท.,นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้กดดัน กกท. เร่งรัดดำเนินการทางวินัยกับนายทนุเกียรติต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/