‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ แจงแล้ว! จี้ รบ.ขอให้เปิดหลักฐาน 3 อย่าง ทั้งสัญญาจ้างผลิต-งบประมาณ-บันทึกการประชุม กก.วัคซีนฯ หลังถูก ‘พุทธิพงษ์’ รมว.ดีอี ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความกับ บก.ปอท. กล่าวหากระทำผิดตาม ป.อาญา ม.112 ปมไลฟ์สดประเด็นการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ตั้งคำถาม-พาดพิงสถาบันฯ
.............................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2564 เมื่อเวลาประมาณ 16.40 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงภายหลังถูกแจ้งความต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมและเทคโนโลยี (บก.ปอท.) กล่าวหาว่ากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 กรณีไลฟ์สดถึงการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 เมื่อคืนวันที่ 19 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา ว่า ต่อให้ดิสเครดิตหรือเอาคดีความมาก่อกวนมากแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้ข้อสงสัยที่ตนตั้งไว้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น ทำไมรัฐต้องรับหน้าแทนบริษัทเอกชนมากขนาดนี้ ยอมรับแล้วหรือไม่ว่ให้สิทธิพิเศษแก่บริษัทเอกชนนี้จริง ๆ ถ้าอยากจบเรื่องนี้ก็ต้องชี้แจงด้วยเอกสาร หลักฐานให้กระจ่าง โดยขอให้เปิดเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น 1.สัญญาจ้างผลิตระหว่าง AstraZeneca กับ Siam Bioscince ว่าตกลงแล้วจะรับผลิตกี่โดส ราคาต้นทุนการผลิตของบริษัทเท่าไหร่ ราคาขายให้ AstraZeneca เท่าไหร่ มีรายละเอียดในสัญญาอย่างไรบ้าง 2.สัญญารับงบประมาณระหว่างสถาบันวัคซีนแห่งชาติกับ Siam Bioscience ว่ามีรายละเอียดเงื่อนไขอย่างไร มีมูลค่าเท่าไหร่กันแน่ และเอาไปใช้ทำอะไร ตรงตามที่เคยแถลงไว้หรือไม่ 3.บันทึกการประชุมของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติและเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการวางเงื่อนไข คุณสมบัติ และรายละเอียดของเอกชนที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐในการผลิตวัคซีน เพื่อให้ประชาชนแน่ใจว่าการเลือกสนับสนุน Siam Bioscience เป็นไปอย่างโปร่งใส ถูกต้องตามหลักการ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ยิ่งเปิดเผยมากยิ่งโปร่งใส
"ขอยืนยันอีกครั้งว่าผมเห็นด้วยทุกประการที่รัฐหรือเอกชนไทยจะได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อผลิตวัคซีน แต่ผมตั้งคำถามถึงกระบวนการคัดเลือกเอกชน การใช้ประเด็นเรื่องวัคซีนมาสร้างความนิยมทางการเมือง และวิธีการบริหารจัดการที่ไม่มีการกระจายความเสี่ยง ทำให้ประชาชนได้รับวัคซีนช้าและครอบคลุมประชากรน้อยกว่าประเทศอื่น ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า หากยึดตามไทม์ไลน์ของรัฐบาล กว่าเราจะกลับทำมาหากินได้ตามปกติไม่ต้องเปิดๆ ปิดๆ แบบนี้ ก็อย่างน้อยปี 2565 ซึ่งประชาชนรอไม่ไหว" นายธนาธร ระบุ (อ้างอิงข้อมูลจาก : https://www.facebook.com/382592748811072/posts/1028381764232164/?d=n)
@พรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์หนุน 'ธนาธร'ตรวจสอบการจัดซื้อวัคซีน-ชี้เพื่อความโปร่งใส ไม่ใช่ใช้ ม.112 มาปิดปาก
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 15.00 น. พรรคก้าวไกล โดยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวถึงกรณีรัฐบาลมอบหมายตัวแทนไปแจ้งความ บก.ปอท. กล่าวหานายธนาธร ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ว่า การออกมาแสดงความคิดเห็นของนายธนาธร ถือเป็นการตรวจสอบรัฐบาลในการจัดการวัคซีนโควิดของรัฐบาล เป็นเรื่องที่จะกระทบประชาชนเป็นวงกว้าง นี่เป็นการตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใส ให้การดำเนินการของรัฐบาลเป็นประโยชน์กับประชาชนให้มากสุด ไม่ใช่การชี้นำให้เกิดการดูถูกเกลียดชังตามข้อกล่าวหา เรื่องนี้ ทาง กมธ.การสาธารณสุข เคยตั้งคำถามว่า เหตุใดเลือก บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นผู้รับเทคโนโลยีโดยรัฐบาลให้การสนับสนุน นี่เป็นการตั้งคำถาม และตรวจสอบตามปกติ นายกรัฐมนตรีเองเป็นคนแรกที่เปิดเผยเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ในพิธีเซ็นสัญญา โดยเป็นประธานและเปิดเผยเองว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงพระราชทานให้ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัดรับการถ่ายทอด กลายเป็นที่สนใจจนปัจจุบัน
"เรายืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการตรวจสอบ เป็นหน้าที่ และเป็นความชอบธรรมของประชาชนทุกคนไม่เฉพาะนายธนาธรเท่านั้น ดังนั้น หน้าที่ของรัฐบาลคือต้องออกมาชี้แจงโดยละเอียด เพื่อให้เกิดความโปร่งใส การใช้งบประมาณ การทำสัญญากับเอกชนต่างๆ เป็นอย่างไร ต้องเปิดเผยสัญญากับเอกชนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องเรื่องวัคซีนให้สาธารณชนหายสงสัย ซึ่งนี่จะเป็นการตอบคำถามดีที่สุด ไม่ใช่การใข้ ป.อาญา ม.112 มาปิดปากไม่ให้เกิดการตรวจสอบจากสาธาiณชน" นายชัยธวัช กล่าว
@รมว.ดีอี ส่งตัวแทนแจ้งความ บก.ปอท.กล่าวหา'ธนาธร' ผิด ม.112
วันเดียวกัน เวลาประมาณ 13.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมและเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มอบหมายให้นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับนายทศพล เพ็งส้ม กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 กับ บก.ปอท. จากกรณีนายธนาธร ไลฟ์สดกล่าวถึงประเด็นการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาล มีการตั้งคำถาม และพูดพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยนายทศพล กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายพุทธิพงษ์ ให้มาแจ้งความเอาผิดนายธนาธร จากการวิจารณ์รัฐบาลเรื่องการนำเข้าการผลิตวัคซีน โดยได้แกะคลิปวีดิโอไลฟ์กว่า 30 นาที ไล่ตั้งแต่นาทีที่ 03.20น. รวมแล้ว 11 ช่วงตอน ที่กล่าวหารัฐบาลเรื่องประสิทธิภาพ การผลิตล่าช้า และนำสถาบันฯเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องการถือหุ้นบริษัท เป็นการนำประชาชนมาเป็นตัวประกัน จึงแจ้งความผิดในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เนื่องจากเป็นการสร้างความบิดเบือนเข้าใจผิดต่อสังคม โดยภาครัฐได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ ไปแล้ว
นายทศพล กล่าวอีกว่า หากพบว่ามีใครเกี่ยวข้องอีก จะดำเนินคดีทั้งหมด โดยจะติดตามการทำงานของพนักงานสอบสวนอย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามเรื่องงบประมาณเกี่ยวกับวัคซีนนั้น ตนมองว่าการชี้นำกับการตั้งคำถามนั้นต่างกัน กรณีนี้เป็นการชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด
ส่วนนายสุภรณ์ กล่าวว่า ผิดหวังในตัวนายธนาธร ที่พยายามบิดเบือนคำพูดทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เน้นย้ำหากมีใครบิดเบือนนำข่าวเท็จมากล่าวหาดูหมิ่น คงไม่ปล่อยไว้ ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
@'พิธา'ออกโรงป้อง-ยันทุกคนมีสิทธิตั้งคำถาม เนื่องจากเป็นภาษีประชาชน-สำคัญต่อชีวิตและเศรษฐกิจ
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งให้ดำเนินคดี ผู้ที่ให้ข้อมูลเรื่องการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ที่มองว่าบิดเบือน ว่า ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่สังคมมีความสับสนและความเครียด ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีวุฒิภาวะความเป็นผู้นำ เพราะสังคมไม่ต้องการคนที่หัวร้อน โดยย้ำว่าประชาชนทุกคนไม่ว่าตนเอง หรือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มีสิทธิ์ตั้งคำถามถึงงบประมาณในการจัดหาวันซีนกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน และสำคัญต่อชีวิต และเศรษฐกิจ เมื่อประชาชนตั้งคำถาม พล.อ.ประยุทธ์ ก็เพียงแค่ตอบมาเท่านั้น
นายพิธา กล่าวอีกว่า วัคซีนมีหลายรูปแบบ หลักการสำคัญในการบริหารจัดการวัคซีนคือความโปร่งใสและการกระจายความเสี่ยง ในขณะที่หลายประเทศกระจายความเสี่ยงโดยจัดหาวัคซีนจากหลากหลายบริษัท แต่ประเทศไทยผูกขาด กับบริษัท แอสตร้า เซนเนก้า ถึง 90 เปอร์เซนต์ และหากสามารถจัดการกับเชื้อโควิด-19 ได้ไวจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นในช่วงแรก และหวังว่า 3-4 เดือนจะจัดการได้แต่ถ้าจัดการไม่ได้จีดีพีก็จะติดลบ
“รัฐบาลควรนำเวลาไปจัดการและแก้ไขปัญหาขจัดความสิ้นหวังที่กัดกินประชาชนรวมถึงหาต้นตอการแพร่ระบาด ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวข้ามมาจากชายแดน รวมถึงการลักลอบเปิดบ่อนพนันด้วย” นายพิธา กล่าว
อนึ่ง เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนำเข้าวัคซีนที่มีการเชื่อมโยงบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ว่า การนำเข้าวัคซีนที่มีการเชื่อมโยงบริษัทเหล่านี้ ถือว่าเป็นการบิดเบือน บิดเบือนทุกเรื่อง ทุกอย่าง ไม่ใช่ข้อเท็จจริงเลย ขอให้ระมัดระวังในการเสนอข่าวเหล่านี้ เรื่องใดก็ตามที่บิดเบือนไม่ใช่ข้อเท็จจริง หากนำไปเผยแพร่ในสื่อหรือโซเชียลฯ ได้สั่งให้มีการดำเนินคดีทุกรายการ ทุกเรื่อง ดังนั้นขอให้ระมัดระวัง อย่าหาว่าเอากฎหมายมาขู่ แต่ต้องรักษาความเชื่อมั่นของรัฐบาลไปด้วย ไม่อย่างนั้นต่างคนก็เขียนกันไป ไม่รับผิดชอบไม่ได้ทั้งสิ้น กฎหมายมีทุกตัว (อ่านประกอบ : บิดเบือนทุกเรื่อง!'บิ๊กตู่'สวน'ธนาธร'โยงนำเข้าวัคซีนกับ'สยามไบโอไซเอนซ์')
อ่านประกอบ : ผ่าปมร้อนวัคซีนโควิดไทย! ทำไม ออกซ์ฟอร์ด เลือกบ.สยามไบโอไซเอนซ์ ร่วมกระบวนการผลิต
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage