กลุ่มนักเรียนเลวยุติชุมนุม ยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องเดิม – 'พ่อค้าหมูสะเต๊ะ'กางหลักฐานแถลงด่วนยันไม่ใช่มือปืนแยกเกียกกายเหตุชุมนุมหน้ารัฐสภา – ตร.กำหนด 5 เงื่อนไข ควบคุมการชุมนุม หลังนักเรียนเลวขออนุญาตจัดกิจกรรมตามกฎหมาย
-------------------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2563 กลุ่มนักเรียนเลวจัดกิจกรรมการชุมนุมในชื่อ 'บ๊ายบายไดโนเสาร์ โดยได้รวมตัวกันและตั้งเวทีปราศรัยที่บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าสยาม ตั้งแต่เวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา ซึ่งชุมนุมตลอดทั้งวันนี้ กลุ่มนักเรียนเลวยังยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องเช่นเดียวกับม็อบราษฎร คือ นายกรัฐมนตรีต้องลาออก , แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ ปฏิรูปสถาบัน
โดยเมื่อเวลา 21.40 น. กลุ่มนักเรียนเลว ได้ร่วมกันร้องเพลง Do you hear the people sing ก่อนที่จะประกาศยุติการชุมนุม พร้อมกันนี้ได้มีการนัดหมายที่จะเข้าร่วมชุมนุมกับม็อบราษฎรในวันที่ 25 พ.ย.อีกด้วย
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมามีผู้ร่วมชุมนุมสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสะท้อนปัญหาและเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องต่างๆ อาทิ ปัญหาเกี่ยวกับระบบการศึกษา การคมนาคมที่ไม่มีประสิทธิภาพ การเรียกร้องให้เลิกเกณฑ์ทหาร รวมถึงการแสดงดนตรีเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในหลากหลายประเด็น
ทั้งนี้บริเวณพื้นที่ปราศรัยยังมีการจัดกิจกรรมอื่นๆ ร่วมอยู่ด้วย เช่น การจัดกิจกรรมให้ผู้ชุมนุมเขียนข้อความใส่กระดาษ เพื่อสื่อสารถึง รมว.ศึกษาธิการ โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับการยกเลิกชุดนักเรียน ที่มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
@พ่อค้าหมูสะเต๊ะกางหลักฐานยันไม่ใช่มือปืนแยกเกียกกาย
ทั้งนี้เมื่อเวลา 18.00 น. นายอนุชา จันทร์ศรี อายุ 47 ปี พ่อค้าขายหมูสะเต๊ะ ได้นัดแถลงข่าวด่วนกับสื่อมวลชน เพื่อชี้แจงกรณีที่มีการแชร์ภาพของตนเองในโซเชียลมีเดียและสื่อต่างๆ จนทำให้คนเข้าใจว่า ตนเป็นชายที่สวมชุดสีชมพูที่ทำท่าเหมือนใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มคนสวมเสื้อสีเหลืองเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา
นายอนุชา ยืนยันว่า ในวันดังกล่าวได้นำหมูสะเต๊ะมาส่ง และเข้าร่วมการชุมนุมกับม็อบราษฎรจริง แต่ตนไม่ได้เป็นชายสวมชุดสีชมพูอย่างที่ปรากฏคลิป เนื่องจากตนสวมรองเท้าผ้าใบสีแดงไม่ใช่สีขาวตามภาพที่ปรากฎ ขณะเดียวกัน ตนเคยทำงานที่กงอทัพอากาศ แต่ได้ลาออกมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว อาจทำให้มีคนเข้าใจว่า ตนเป็นเจ้าหน้าที่ปลอมตัวมาร่วมชุมนุมด้วย โดยการแถลงข่าวครั้งนี้ ต้องการชี้แจงข้อเท็จจริง และขอให้ทุกเพจที่นำรูปตนไปกล่าวหาจนเกิดความเข้าใจผิด ลบรูปภายใน 3 วัน และขอให้ขอโทษที่ทำให้ตนเสียหาย ซึ่งตนได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานีแล้ว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หากครบกำหนดเวลายังไม่มีการลบรูปของตน ก็จะขอดำเนินขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
@ตร.กำหนด 5 เงื่อนไขควบคุมม็อบชุมนุมโดยสงบ
รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2563 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แถลงถึงแนวทางการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย กรณีที่กลุ่มนักเรียนเลวนัดชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป ว่า ตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลว ได้ขออนุญาตจัดการชุมนุมกับผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีแล้ว โดยกำหนดเวลาไว้ตั้งแต่ 11.00 – 22.30 น. โดยจะใช้พื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ มาจนถึงห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีราชดำริ มีวัตถุประสงค์การชุมนุมเพื่อเรียกร้องการแก้ไขปัญหาทางสังคม โดยเฉพาะปัญหาความเหลื่อมล้ำของเด็กและสตรี
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า เจ้าพนักงานได้กำหนดเงื่อนไขในการชุมนุม รวม 5 ข้อ คือ 1.ควบคุมให้ผู้ชุมนุมอยู่บริเวณแยกราชประสงค์ไม่ให้เคลื่อนขบวนไปจุดอื่น 2.ห้ามใช้ป้ายข้อความหมิ่นประมาท ดูหมิ่น ยุยง หรือปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวาย 3.ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมหรือใช้เส้นทางอื่นที่ไม่ได้แจ้งไว้ 4.ให้ใช้เครื่องขยายเสียงตามที่กฎหมายกำหนด คือ ระดับเสียงไม่เกิน 115 เดซิเบล และมีค่าเฉลี่ยไม่เกิน 70 เดซิเบลตลอดการชุมนุม และ 5.ต้องเป็นการชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย และไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ทั้งนี้ตำรวจได้แบ่งพื้นที่ความรับผาดชอบเป็น 2 ส่วน คือ บริเวณแยกราชประสงค์ ถนนราชดำริ และแยกเพลินจิต อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจนครบาล 5 ส่วนถนนพระราม 1 มาถึงฝั่งห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ครอบคลุมถึงโรงพยาบาลตำรวจ ให้อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจนครบาล 6
พล.ต.ต.ปิยะ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการออกหมายจับผู้ชุมนุมเกี่ยวกับการทำความผิดตามมาตรา 112 ว่า หากมีการกระทำความผิดเข้าข่ายองค์ประกอบกฎหมายข้อใด พนักงานสอบสวนก็จะออกหมายเรียก หากมีพฤติกรรมหลบหนีก็จะขอหมายจับ ทั้งนี้ตำรวจยืนยันว่าจะปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย ยึดหลักนิติรัฐ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ควบคู่กันไป อะไรที่จะลุกลามบานปลายเราจะถอย 1 ก้าว หากใครทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี แม้ไม่จำเป็นต้องเข้าจับกุมในที่เกิดเหตุ แต่จะออกหมายเรียกหรือหมายจับภายหลังได้
ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวชายสวมเสื้อสีชมพูที่ปรากฎภาพในลักษณะเหมือนกับการใช้อาวุธในการชุมนุมเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างสืบสวนหาข้อเท็จจริง โดยภาพที่ปรากฏตามสื่อ พบว่าชายคนดังกล่าวอยู่ในกลุ่มการ์ดคณะราษฎร แต่จะเป็นใครยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ต่อไป ทั้งนี้ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ชี้นำ เพราะข้อเท็จจริงที่ปรากฎตามภาพเป็นเช่นนั้น
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงการใช้สารเคมีฉีดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมด้วยว่า อุปกรณ์ที่ใช้ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีและยึดตามมาตรฐานสากล อย่างการผสมสารเคมีก็ดำเนินการโดยระบบเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำสารไปใส่ตามอำเภอใจได้ ต้องผสมตามสัดส่วน ทั้งนี้ตำรวจซึ่งเป็นต้นทาง นักข่าว รวมถึงกลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นปลายทางก็ได้รับอันตรายไม่แตกต่างกัน
ขณะที่กลุ่มนักเรียนเลว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นักเรียนเลว ยืนยันว่า การชุมนุมวันนี้จะตั้งอยู่ที่ถนนราชดำริ ระหว่างเกษรพลาซ่าและห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยปลายแถวปัดไปทางประตูน้ำ และจะไม่มีการปิดการจราจรแยกราชประสงค์แต่อย่างใด
ต่อมาเวลาประมาณ 13.10 น. กลุ่มนักเรียนเลวได้ประกาศย้ายสถานที่จัดการชุมนุมจากถนนราชดำริ เป็นบริเวณด้านใต้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยามแทน เนื่องจากจุดเดิมเป็นที่กลางแจ้ง และไม่สามารถจัดการชุมนุมได้เนื่องจากมีฝนตก
(ภาพจาก : นักเรียนเลว , ไทยโพสต์)
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage