พนักงานไต่สวนระดับสูง ป.ป.ช. ถูกสอบเรียกรับเงิน 3 หมื่นแลกวิ่งเต้นเคลียร์คดี อ้าง ‘ไลน์โดนแฮ็ก’ โดนวิจารณ์สนั่นหวั่นมวยล้มต้มคนดู หลังถูกไต่สวนเบื้องต้น-เตรียมเอาผิดอาญาข้อหานำข้อมูลทางคดีมาเปิดเผยตาม ม.36 ด้วย
..............................
จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติแต่งตั้งคณะไต่สวนเบื้องต้น กล่าวหาพนักงานไต่สวนระดับสูงรายหนึ่ง ที่ถูกแต่งตั้งเป็นคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องร้องเรียนกล่าวหาประจำสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับสินบนจากผู้ถูกกล่าวหาเพื่อช่วยเหลือเรื่องคดี โดยปรากฏพฤติการณ์ร่วมกับครูรายหนึ่งใน จ.ลพบุรี เรียกรับเงินจากผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จ.ลพบุรี มีหลักฐานเป็นการโอนเงินเข้าบัญชี จำนวน 30,000 บาทนั้น (อ่านประกอบ : โอนเข้าบัญชี 3 หมื่น! พฤติการณ์‘พนง.ไต่สวนระดับสูง’เรียกรับเงินอ้างวิ่งเต้นเคลียร์คดี)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ พนักงานไต่สวนระดับสูงรายนี้ ได้โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ อ้างว่า ไลน์โดนแฮ็ก (Hack) ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักภายในสำนักงาน ป.ป.ช. อย่างมาก เนื่องจากข้อความสนทนาของพนักงานไต่สวนระดับสูงรายนี้ กับครู และผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จ.ลพบุรี ปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการเรียกรับเงิน 30,000 บาท อ้างว่าเพื่อช่วยเหลือทางด้านคดี ทำให้คนภายในสำนักงาน ป.ป.ช. กังวลว่าหากไม่มีการนำหลักฐานบทสนทนาจากไลน์ดังกล่าวมาใช้เป็นหลักฐานในการไต่สวนเรื่องนี้ อาจไม่สามารถเอาผิดได้
มีรายงานว่า ภายในสำนักงาน ป.ป.ช. มีการตั้งข้อสังเกตถึงการถูกแฮ็กไลน์ได้หากเคยทำสิ่งเหล่านี้ 1.ให้ข้อมูลการเข้าถึงบัญชีหรือรหัสผ่านแก่บุคคลอื่นอย่างไม่ตั้งใจ เช่น นำโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือคอมพิวเตอร์ให้บุคคลอื่นซ่อมแซม 2.เกิดจากเจ้าของบัญชีตั้งค่ารหัสผ่านล็อกอินอัตโนมัติในอุปกรณ์นั้น ๆ โดยไม่ลงชื่อออก (Log Out) หรือมีข้อมูลรหัสผ่านชุดเดียวกันหมด อาจมีความเสี่ยงสูงหากมิจฉาชีพล่วงรู้ 3.การกดเข้าร่วมโหวต ชิงโชค เล่นเกมต่าง ๆ ด้วยลิงค์ หรือ URL ที่มีความเสี่ยง อาจเป็นไวรัสหรือกับดักของมิจฉาชีพที่ล่วงรู้รหัสผ่านได้ อย่างไรก็ดีหากพนักงานไต่สวนระดับสูงข้างต้นไม่เคยกระทำสิ่งเหล่านี้ ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวอาจฟังไม่ขึ้น
เมื่อเร็ว ๆ นี้ แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า ประเด็นนี้ ป.ป.ช. แบ่งการไต่สวนออกเป็น 2 กรณี กรณีแรกการเรียกรับสินบน อยู่ระหว่างดำเนินการไต่สวนเบื้องต้นทางอาญา มี ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช.ลพบุรี เป็นหัวหน้าพนักงานไต่สวน ส่วนกรณีการนำข้อมูลทางคดีมาเปิดเผย ตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 นั้น มีการสอบทางวินัย รวมถึงอาจมีความผิดทางอาญาด้วย
อ่านประกอบ :
โอนเข้าบัญชี 3 หมื่น! พฤติการณ์‘พนง.ไต่สวนระดับสูง’เรียกรับเงินอ้างวิ่งเต้นเคลียร์คดี
ป.ป.ช.ตั้งอนุฯสอบ‘พนักงานไต่สวนระดับสูง’ถูกกล่าวหาเรียกรับเงินอ้างวิ่งเต้นเคลียร์คดี
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage