อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อใกล้ทะลุ 42 ล.-'ทรัมป์'โต้'ไบเด้น' จัดการไวรัสได้ไม่งั้นคงมีชาวสหรัฐฯตายถึง 2 ล้าน- FDA อนุมัติยาเรมเดซิเวียร์ ใช้ลดเวลาฟื้นตัวโควิด-'อินเดีย' เผยงานวิจัย ชี้ พลาสมาได้ผลน้อยมากในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19
-----------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 41,967,206 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 477,751 ราย เสียชีวิต 1,142,161 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 6,464 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 9,647,683 ราย
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 8,661,651 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 74,301 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ ราย เสียชีวิต 228,381 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 973 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 2,777,969 ราย ทำให้สหรัฐฯกลับไปเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในโลก
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในประเทศสหรัฐฯ มีรายงานว่าในช่วงค่ำของวันที่ 22 ต.ค. มีการโต้วาทีกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับนายโจ ไบเด้น ผู้สมัครชิงคำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต โดยเมื่อนางคริสเท็น เวลเกอร์ พิธีกรผู้ดำเนินรายการได้ถามว่าทั้งนายทรัมป์และนายไบเด้นจะมีวิธีการรับมือกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 นั้นขั้นถัดไปอย่างไรจากว่าจะมีจำนวนผู้ป่วยที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
นายทรัมป์กล่าวว่าเพราะวิธีการรับมือของเขา ทำให้จำนวนชาวสหรัฐฯที่เสียชีวิตนั้นไม่มากตามที่ได้เคยมีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนถึง 2 ล้านราย ส่วนเรื่องจำนวนไวรัสโควิด-19 ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอยู่นั้น ขอเรียนว่ามีการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อในสถานที่อื่นๆอยู่จริง และการเพิ่มขึ้นเหล่านั้นจะหายไปในที่สุด
นายทรัมป์ยังได้กล่าวต่อว่าจากข้อมูลจำนวนผู้ที่หายป่วยซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 99 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าสหรัฐฯน่าจะผ่านช่วงฤดูหนาวนี้ไปได้
ขณะที่นายไบเด้นกล่าวโต้นายทรัมป์ว่า ผู้ที่ทำให้ชาวสหรัฐฯต้องเสียชีวิตไปมากกว่า 2 แสนคนไม่สมควรที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯต่อไป และตัวเขามีแผนการที่จัดการกับไวรัสโควิด-19 แล้ว
ส่วนทางด้านของนายทรัมป์โต้นายไบเด้นต่อว่าแผนการของนายไบเด้นนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากการกลับไปปิดประเทศ
อ้างอิงวิดีโอจาก TIME
ส่วนสถานการณ์อื่นๆในสหรัฐฯ มีรายงานว่าสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติเมื่อให้มีการใช้ยาต้านไวรัส Veklury หรือชื่อเป็นทางการของยาเรมเดซิเวียร์ ซึ่งผลิตโดยบริษัทกิลเลียด ไซแอนเซส เพื่อรักษาโรคโควิด-19 ได้โดยทั่วไปแล้ว
กิลเลียด ระบุในแถลงการณ์ว่า ก่อนหน้านี้เอฟดีเอ อนุมัติให้มีการใช้ยาดังกล่าวในการรักษาโรคโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น และในขณะนี้ ยา Veklury ถือเป็นยาตัวแรกและตัวเดียวที่ เอฟดีเออนุมัติให้ใช้รักษาผู้ป่วยโควิดได้ทั่วไปในสหรัฐ
ยา Veklury สามารถใช้รักษาผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วสหรัฐ โดยใช้ได้กับผู้ใหญ่และเด็ก (อายุ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวอย่างน้อย 40 กิโลกรัม)
ทั้งนี้ ผลการทดลองทางคลินิกพบว่า ยา Veklury ช่วยให้ผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลฟื้นตัวเร็วขึ้น 5 วัน
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีป จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 5,332,634 ราย ติดเชื้อใหม่ 31,985 ราย เสียชีวิต 155,962 ราย เสียชีวิตใหม่ 503 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 421,777 ราย
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 1,447,335 ราย ติดเชื้อใหม่ 15,700 ราย เสียชีวิต 24,952 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 317 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 391,375 ราย
ส่วนที่ ประเทศฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อใหม่ 41,622 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 856,234 ราย ประเทศสเปนมีผู้ติดเชื้อใหม่ 20,986 ราย ขณะที่ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อใหม่16,079 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 169,302 ราย
ที่ประเทศอังกฤษมีผู้ติดเชื้อใหม่ 21,242 ราย และที่ประเทศเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อ 12,519 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 87,730 ราย
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 7,759,640 ราย ติดเชื้อใหม่ 54,482 ราย เสียชีวิตสะสม 117,336 ราย เสียชีวิตใหม่ 683 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 695,979 ราย
และล่าสุดมีรายงานจากวารสารการแพทย์ BMJ ระบุว่าการศึกษาพบว่าการฉีดพลาสมาจากเลือดที่มีโปรตีนภูมิคุ้มกัน (Convalescent Plasma) ไม่ได้ลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 หรือสามารถป้องกันอาการป่วยไม่ให้อยู่ในขั้นวิกฤติได้ โดย ณ เวลานี้การศึกษาได้ข้อสรุปว่าการใช้พลาสมานั้นให้ประสิทธิภาพในการรักษาที่ค่อนข้างจะจำกัด
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 617 ราย เสียชีวิตใหม่ 11 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 5,762 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 185 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 119 ราย เสียชีวิตใหม่ 3 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 1,443 ราย
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศอินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 377,541 ราย ติดเชื้อใหม่ 4,432 รายมีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 12,959 ราย เสียชีวิตใหม่ 102 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 63,576 ราย
ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 363,888 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,664 ราย เสียชีวิตสะสม 6,783 ราย เสียชีวิตใหม่ 38ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 44,772 ราย
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 847 ราย เสียชีวิตใหม่ 5 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 8,183 ราย ขณะที่พม่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,312 ราย เสียชีวิตใหม่ 33 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 18,859 ราย เวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 4 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 64 ราย
ทวีปแอฟริกา ประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 710,515 ราย ติดเชื้อใหม่ 2,156 ราย เสียชีวิต 18,843 ราย เสียชีวิตใหม่ 102 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 49,112 ราย
ภูมิภาคโอเชียเนีย ประเทศออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 1,402 ราย ประเทศนิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 2 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 58 ราย และประเทศปาปัวนิวกินีมีผู้ติดเชื่อใหม่ 2 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 31 ราย และหมู่เกาะโซโลมอนมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการ 4 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage