อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสม 37.7 ล.-'สหรัฐฯ' ติดเชื้อใกล้ทะลุ 8 ล้าน -'ทรัมป์' อ้างตัวเองมีภูมิคุ้มกันแล้ว-ทวิตเตอร์ ปักธง ทวิต ปธน.สหรัฐฯส่อเข้าข่ายข้อมูลเท็จ-'ชิลี' คาดโควิดส่อกลายพันธุ์ในจังหวัดติดขั้วโลกใต้ หลังพบจำนวนติดเชื้อสูง แม้มีประชากรน้อย- 'จีน'เล็งผลักดัน 'อินโดนีเซีย' เป็นศูนย์กลางผลิตวัคซีนอาเซียน-'สถาบันวิทย์ฯออสเตรเลีย'เผย ไวรัสอยู่ได้บนพื้นผิวสิ่งของนานสูงสุด 28 วัน -ล่าสุด พบ ปธน.เฟรนช์โปลินีเซีย ติดเชื้อด้วย
--------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 37,736,120 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 277,330 ราย เสียชีวิต 1,081,246 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 3,868 ราย
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 7,991,999 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 41,936 ราย เสียชีวิต 219,695 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 325 ราย
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐเท็กซัส มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 2,789 ราย
ขณะที่ทางด้านของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ออกมาปกป้องการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยกล่าวกับทางสำนักข่างฟอกซ์นิวส์ว่าตัวเขาเชื่อว่าเขามีภูมิคุ้มกันสำหรับไวรัสโควิด-19 แล้ว และคาดว่าภูมิคุ้มกันที่ว่านี้จะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต ซึ่งการกล่าวข่าวนายทรัมป์นั้นไม่มีหลักฐานสนับสนุนแต่อย่างใด
และในเวลาต่อมาทางทวิตเตอร์ได้จัดให้เนื้อหาบนทวิตเตอร์ของนายทรัมป์ที่อ้างว่าตัวเองมีภูมิคุ้มกันโดยไม่มีหลักฐาน เป็นเนื้อหาที่ต้องเฝ้าระวังในแง่ของความน่าเชื้อถือของข้อมูล
อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.cbc.ca/news/world/trump-claim-covid-19-recovery-immunity-twitter-flagged-1.5759158
ส่วนความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบขาว มีการออกแถลงการณ์จากสมาคมผู้สื่อข่าวทำเนียบขาวว่าพบนักข่าวรายที่ 4 ติดไวรัสโควิด-19 หลังจากที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อทางแล็บ หรือที่เรียกกันว่าการตรวจแบบ PCR โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่านักข่าวคนดังกล่าวนั้นเข้ารับการตรวจด้วยชุดตรวจแบบง่ายของทางทำเนียบขาว และพบผลการตรวจว่าเป็นลบ
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีป จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 5,094,979 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,139 ราย เสียชีวิต 150,506 ราย เสียชีวิตใหม่ 270 ราย
ขณะที่ประเทศชิลี นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมากายาเนส จังหวัดมากายาเนสกำลังสืบสวนความเป็นไปได้ที่ไวรัสโควิด-19 อาจจะเกิดการกลายพันธุ์ในพื้นที่พาทาโกเนียตอนใต้ เนื่องจากพบรูปแบบการแพร่เชื้ออันไม่ปกติในช่วงการระบาดในระยะที่ 2 ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้
โดยรายละเอียดของการติดเชื้อดังกล่าวนั้นก็คือการติดเชื้อในจังหวัดมากายาเนส ซึ่งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศชิลี ซึ่งอยู่ทางตอนใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ และยังถือว่าเป็นดินแดนที่ติดกับทวีปแอนตาร์กติกามากที่สุดในโลก ซึ่งจังหวัดนี้ประชากรคิดเป็น 1 เปอร์เซ็นต์ของประเทศชิลี แต่กลับมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 20 เปอร์เซ็นต์ของการระบาดทั้งหมดในประเทศชิลี ซึ่ง ณ เวลานี้นักวิทยาศาสตร์คาดว่าอุณหภูมิน่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ไวรัสเกิดการกลายพันธุ์
จังหวัดแมกายาเนส (สีแดงด้านบน) และทวีตแอนตาร์ติกา (สีแดงด้านล่าง)
อ้างอิงวิดีโอจากช่องอัลจาซีร่า
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 1,298,718 ราย ติดเชื้อใหม่ 13,634 ราย เสียชีวิต 22,597 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 143 ราย
ส่วนที่ ประเทศฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อใหม่ 16,101 ราย ขณะที่ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 5,456 ราย
ที่ประเทศอังกฤษมีผู้ติดเชื้อใหม่ 12,872 ราย
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 7,119,300 ราย ติดเชื้อใหม่ 67,757 ราย เสียชีวิตสะสม 109,184 ราย เสียชีวิตใหม่ 813 ราย จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 437 ราย เสียชีวิตใหม่ 1 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 146 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 58 ราย เสียชีวิตใหม่ 2 ราย
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 339,341 ราย ติดเชื้อใหม่ 2,502 ราย เสียชีวิตสะสม 6,321 ราย เสียชีวิตใหม่ 83 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 333,449 ราย ติดเชื้อใหม่ 4,497 รายมีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 11,844 ราย เสียชีวิตใหม่ 79 ราย และล่าสุดมีรายงานว่านายหวางยี รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนได้เข้าหารือกับนาย Luhut Pandjaitan รัฐมนตรีว่าด้วยกิจการทางทะเลและการลงทุนของประเทศอินโดนีเซีย โดยหลังจากการหารือ นายหวางได้เปิดเผยข้อสรุปว่าประเทศจีนจะผลักดันให้อินโดนีเซียเป็นฮับ หรือศูนย์กลางด้านวัคซีนไวรัสโควิด-19 ในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตวัคซีนได้สูงที่สุดในอาเซียน โดนตัวเขาจะสนับสนุนให้มีความร่วมมือของบริษัทผลิตวัคซีนในประเทศนี้ให้มากขึ้นไปอีก
ซึ่ง ณ เวลานี้มีรายงานความคืบหน้าวัคซีนว่า บริษัทซีโน่แว็ค ไบโอเทค ได้ดำเนินการทดลองการรักษาด้วยวัคซีนในพื้นที่เมืองบันดุง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัดจาวาแล้ว.
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 561 ราย เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ขณะที่พม่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,910 ราย เสียชีวิตใหม่ 48 ราย เวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 2 ราย
ทวีปแอฟริกา ประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 692,471 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,575 ราย เสียชีวิต 17,780 ราย เสียชีวิตใหม่ 107 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ประเทศออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21 ราย เสียชีวิตใหม่ 1 ราย และล่าสุดมีรายงานจากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ของประเทศออสเตรเลียระบุว่า ไวรัส Sars-Cov-2 หรือโควิด-19 สามารถมีชีวิตอยู่ได้บนพื้นผิวของสิ่งของต่างๆอาทิ หน้าจอโทรศัพท์มือถือ เหล็ก แผ่นป่ายไวนิล และธนบัตรได้นานถึง 28 วัน โดยอุณหภูมิที่ต่ำนั้นจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการที่ไวรัสสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น โดยไวรัสจะสามารถอยู่บนพื้นผิวธนบัตรพลาสติกได้นานกว่าธนบัตรกระดาษ และสามารถอยู่บนพื้นผิวของสิ่งที่มีความอ่อนนุ่ม เช่นผ้าคอตต้อน ได้นานกว่าพื้นผิวที่มีรูพรุน
ประเทศนิวซีแลนด์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย ประเทศปาปัวนิวกินีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย และล่าสุดมีการรายงานข้อมูลของวันที่ 12 ต.ค. ระบุว่านายเอดูอาร์ ฟริตช์ ประธานาธิบดีหมู่เกาะเฟรนช์โปลินีเซีย ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกาะตาฮิติ หลังจากที่เดินทางกลับมาจากประเทศฝรั่งเศส
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage