'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสม 36.3 ล.-ยูนิเซฟหวั่นเด็กเกือบ 2 แสนรายเสียชีวิตระหว่างช่วงตั้งครรภ์-ทำคลอด หลังโควิดซ้ำเติมระบบสุขภาพประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง - 'ทรัมป์'ยันติดโควิดเป็นเหมือนพรแผงจากพระเจ้า รับวัคซีนคงมาหลังเลือกตั้ง เผยยอดติดโควิดที่ทำเนียบขาวทะลุ 34 ราย-ผู้ช่วย ผบ.นาวิกฯสหรัฐฯ พบติดโควิดด้วย-'บราซิล'ยอดติดเชื้อสะสมทะลุ 5 ล้าน- 'ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้' เปิดพรมแดนเดินทางธุรกิจวันแรก
-----------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 36,380,978 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 342,704 ราย เสียชีวิต 1,059,975 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,882ราย
นอกจากนี้ยังมีรายงานจากองค์การยูนิเซฟ และธนาคารโลกระบุว่า อัตราการเกิดของเด็กแรกเกิดในทุกปีนั้นจะอยู่ที่ประมาณเกือบ 2 ล้านราย และจำนวนการเกิดของเด็กทารกคิดเป็น 84 เปอร์เซ็นต์เป็นการเกิดที่ประเทศซึ่งมีรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางซึ่งมีระบบสุขภาพที่ไม่ค่อยดี และสถานการณการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ซ้ำเติมสถานการณ์ในประเทศเหล่านี้ และอาจจะส่งผลทำให้ต้องมีเด็กจำนวนอย่างน้อย 2 แสนรายเสียชีวิตในระหว่างที่อยู่ในครรภ์ หรือในช่วงเวลาระหว่างการทำคลอด
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 7,719,402 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 40,316 ราย เสียชีวิต 215,780 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 748 ราย
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐเท็กซัส มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 3,970 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดมีรายงานว่านายทรัมป์ได้แถลงด้วยวิดีโอผ่านช่องทวิตเตอร์ของตัวเองโดยระบุว่า ค๊อกเทลยาจากบริษัทเรเจเนอรอน ฟาร์มาซูติคัล เป็นยาตัวสำคัญที่ทำให้เขาฟื้นตัวจากการติดเชื้อ และการใช้ยาดังกล่าวนั้นก็มาจากคำแนะนำของตัวเขาเองที่ให้ใช้ยาดังกล่าวซึ่งถูกใช้น้อยมาก นอกเหนือจากการใช้งานในกระบวนการทดลองการรักษา
"ผมรู้สึกดี รู้สึกเหมือนว่ายอดเยี่ยน ผมคิดว่ามันเป็นพรจากพระเจ้าในการที่ผมติดเชื้อไวรัสนี้ มันเป็นพรที่แฝงมา ผมติดเชื้อ ผมได้ยินเกี่ยวกับยา ผมบอกว่าให้ผมใช้ยาตัวนี้เลย นี่เป็นการแนะนำ และการอนุมัติของผม" นายทรัมป์กล่าว
ประธานาธิบดีสหรัฐฯยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่าจากการตัดสินใจขององค์การอาหารและยาของสหรัฐฯหรือ FDA ที่ให้มีการเก็บข้อมูลความปลอดภัยของวัคซีนหลังจากการฉีดวัคซีนด้วยเข็มที่ 2 ทำให้การอนุมัติวัคซีน จะเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ตัวเขาก็ยังเชื่อว่า วัคซีนจะออกมาภายในเร็วๆนี้ และเมื่อวัคซีนได้รับการอนุมัติ กองทัพสหรัฐฯซึ่งมีประสบการณ์ในการส่งกองกำลังลงพื้นที่ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้วัคซีนนั้นกระจายแพร่หลายไปทั่วสหรัฐฯ
อ้างอิงวิดีโอจากช่อง NBC NEWS
อนึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานเกี่ยวกับการรักษานายทรัมปไปแล้วว่าเขาไม่ได้รับยาจากบริษัทเรเจเนอรอนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องรับยาเรมเดซิเวียร์ และยาสเตียรอยด์เดกซาเมทาโซนประกอบกับการรักษาด้วย โดยยาเดกซาเมทาโซนนั้นเป็นยาที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO และสถาบันสุขภาพของสหรัฐฯได้ออกคำแนะนำว่าควรจะใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงเท่านั้น
ขณะที่ทางด้านของสำนักข่าวเอบีซีของสหรัฐฯได้เปิดเผยตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ได้มาจากหน่วยงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของสหรัฐฯหรือ FEMA ระบุว่า ณ เวลานี้มีผู้ที่ติดเชื้อจากทำเนียบขาวไปแล้วจำนวนกว่า 34 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในสหรัฐฯ ล่าสุดมีรายงานว่า พล.อ.แกรี่ แอล โทมัส ผู้ช่วยผู้บัญชาการเหล่าทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นกัน
พล.อ.แกรี่ แอล โทมัส ผู้ช่วยผู้บัญชาการเหล่าทัพนาวิกโยธินสหรัฐ (อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.fox5dc.com/news/marine-general-tests-positive-for-covid-19-after-pentagon-meeting)
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีป จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 5,002,357 ราย ติดเชื้อใหม่ 31,404 ราย เสียชีวิต 148,304 ราย เสียชีวิตใหม่ 733 ราย
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 1,248,619ราย ติดเชื้อใหม่ 11,115 ราย เสียชีวิต 21,865 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 202 ราย
ส่วนที่ ประเทศฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อใหม่ 18,746 ราย ขณะที่ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 3,678 ราย
ที่ประเทศอังกฤษมีผู้ติดเชื้อใหม่ 14,162 ราย ส่วนที่ประเทศเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 3,994 ราย ซึ่งทางกรุงเบอร์ลินได้ออกประกาศให้ ผับ บาร์ และสถานบันเทิงนั้นปิดทำการไม่เกินเวลา 23.00 น. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 70 ปี ที่กรุงเบอร์ลินได้ออกประกาศให้จำกัดเวลาการทำงานของสถานบันเทิงในเมืองหลวงของเยอรมนี
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 6,832,988 ราย ติดเชื้อใหม่ 78,809 ราย เสียชีวิตสะสม 105,554 ราย เสียชีวิตใหม่ 963 ราย จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 509 ราย เสียชีวิตใหม่ 5 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 142 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว และมีรายงานว่าในวันที่ 8 ต.ค.นี้จะเป็นวันแรกที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะเริ่มเปิดเส้นทางการบินไปมาหาสู่กันสำหรับผู้ที่ต้องการจะเดินทางเข้าประเทศด้วยเหตุผลทางธุรกิจ
ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 114 ราย เสียชีวิตใหม่ 3 ราย
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 329,637 ราย ติดเชื้อใหม่ 2,825 ราย เสียชีวิตสะสม 5,925 ราย เสียชีวิตใหม่ 60 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 315,714 ราย ติดเชื้อใหม่ 4,538 รายมีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 11,472 ราย เสียชีวิตใหม่ 98ราย
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 489 ราย ขณะที่พม่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,400 ราย เสียชีวิตใหม่ 39 ราย เวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย และกัมพูชามีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย
ทวีปแอฟริกา ประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 685,155 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,913 ราย เสียชีวิต 17,248 ราย เสียชีวิตใหม่ 145 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ประเทศออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 ราย เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้ป่วยใหม่ที่รัฐวิกตอเรีย 6 ราย รัฐนิวเซาท์เวลส์ 3 รายประเทศนิวซีแลนด์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ราย และหมู่เกาะเฟรนช์โปลินีเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 130 ราย เสียชีวิตใหม่ 1 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage