'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสมใกล้ทะลุ 35 ล.-'WHO' อนุมัติ วิธีการตรวจหาโควิดอย่างเร็วด้วยการตรวจหาสารภูมิคุ้มกัน-'โดนัลด์ ทรัมป์'เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลประจำตัว ปธน. 'แพทย์'เผยสั่งจ่ายยาต้านโควิดขั้นทดลองให้ ปธน.สหรัฐฯ - ล่าสุดพบ ส.ว. รีพับลิกันติดเชื้อด้วย-'เดนมาร์ก' จ่อฆ่ามิงก์นับล้านหลังเจอติดโควิดในฟาร์ม-'ญี่ปุ่น' เผยผลวิจัย ผู้ประสบภาวะโรคอ้วนส่อมีอาการแทรกซ้อนโควิด พบโรคหัวใจ-ปอด เพิ่มอัตราเสียชีวิตถึง 40 เปอร์เซ็นต์
-------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 34,812,828 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 309,556 ราย เสียชีวิต 1,032,605 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,467ราย
ส่วนที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้มีการอนุมัติให้ใช้วิธีการตรวจหาไวรัสโควิด 19 ด้วยชุดตรวจแบบง่าย ซึ่งใช้วิธีการตรวจหาสารภูมิคุ้มกัน หรือแอนติเจน
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 7,547,935 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 50,015 ราย เสียชีวิต 213,494 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 834 ราย
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 3,994 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดมีรายงานจากทำเนียบขาวว่า นายทรัมป์ได้เข้ารักษาตัวที่ศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติ วอลเตอร์ รีด ในรัฐแมรี่แลนด์ ซึ่งศูนย์การแพทย์ดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นโรงพยาบาลส่วนตัวสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดย ณ เวลานี้มีรายงานว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯมีอาการป่วยที่ไม่รุนแรง อันได้แก่ อาการเหนื่อยล้า และมีไข้
ศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติ วอลเตอร์ รีด (อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.army.mil/article/61878/walter_reed_bethesda_on_track_for_brac_realignment)
โดย นพ.ฌอน คอนลีย์ นพ.ประจำตัว ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ทำเนียบขาว ได้เปิดเผยถึงยาที่ได้มีการสั่งจ่ายเพื่อใช้ในการรักษาประธานาธิบดีสหรัฐฯว่าเป็นยา REGN-COV2 จำนวน 8 กรัม ซึ่งยาดังกล่าวเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 ที่กำลังอยู่ในขั้นทดลองโดยบริษัท เรเจเนอรอน ฟาร์มาซูติคัล (Regeneron Pharmaceuticals) โดยยาดังกล่าวนั้นจะประกอบไปด้วยสารภูมิคุ้มกันสังเคราะห์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อต้านโคโรน่าไวรัส
อ้างอิงวิดีโอจากช่อง CBS Philly
และล่าสุดมีรายงานว่านายทอม ทิลลิส ส.ว.จากพรรครีพับลิกัน ถูกตรวจพบว่าติดไวรัสโควิด-19 ด้วยเช่นกัน
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีป จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 4,882,231 ราย ติดเชื้อใหม่ 33,002 ราย เสียชีวิต 145,431 ราย เสียชีวิตใหม่ 664 ราย
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 1,194,643 ราย ติดเชื้อใหม่ 9,412 ราย เสียชีวิต 21,077 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 186 ราย
ส่วนที่ ประเทศฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อใหม่ 12,148 ราย ประเทศสเปนมีผู้ติดเชื้อใหม่ 3,722 ราย ขณะที่ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 2,499 ราย
ที่ประเทศอังกฤษมีผู้ติดเชื้อใหม่ 6,968 ราย ส่วนที่ประเทศเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 2,833 ราย
ขณะที่ประเทศเดนมาร์ก มีรายงานว่าจะมีการฆ่าตัวมิงก์จำนวนกว่า 1 ล้านตัว หลังจากที่พบการติดเชื้อในตัวมิงก์ ในพื้นที่ฟาร์มเพาะมิงก์สำหรับขนสัตว์สำหรับเสื้อโค้ทและผ้าพันคอ
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 6,471,734 ราย ติดเชื้อใหม่ 79,774 ราย เสียชีวิตสะสม 100,873 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,069 ราย จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 542 ราย เสียชีวิตใหม่ 11 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 196 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว ขณะที่ทางด้านของศูนย์สาธารณสุขโลกและเวชศาสตร์แห่งชาติ ในกรุงโตเกียว หรือ National Center for Global Health and Medicine (NCGM) ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดเผยผลการศึกษาอ้างอิงจากคนไข้ที่รักษาตัวในญี่ปุ่นด้วยอาการป่วยจากไวรัสโควิด-19 จำนวนกว่า 2,600 ราย พบว่า คนไข้ที่มีภาวะอ้วน มีไขมันมาก จากการใช้ชีวิต และการป่วยด้วยโรคประจำตัว รวมไปถึงภาวะความดันเลือดสูง จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะมีอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติม และจะมีอัตราเสียชีวิตอยู่ที่ 10-16 เปอร์เซ็นต์ แต่อัตราการเสียชีวิตดังกล่าวยังคงน้อยกว่าผู้ที่ติดไวรัสโควิด 19 ที่มีอาการป่วยด้วยโรคหัวใจ โรคที่เรื้อรังเกี่ยวกับปอด โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะความผิดปกติเกี่ยวกับไต ซึ่งจะมีอัตราการเสียชีวิตสูงโดยอยู่ที่ 30-40 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 63 ราย เสียชีวิตใหม่ 1 ราย
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 316,678 ราย ติดเชื้อใหม่ 2,611 ราย เสียชีวิตสะสม 5,616 ราย เสียชีวิตใหม่ 56 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 295,499 ราย ติดเชื้อใหม่ 10,972 รายมีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 10,856 ราย เสียชีวิตใหม่ 116 ราย
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 287 ราย เวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย ขณะที่พม่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,142 ราย เสียชีวิตใหม่ 32 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 677,833 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,749 ราย เสียชีวิต 16,909 ราย เสียชีวิตใหม่ 43ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ประเทศออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยรัฐวิกตอเรียมีผู้ติดเชื้อใหม่อีก 7 ราย รัฐนิวเซาท์เวลส์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 4 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage