'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสมทะลุ 28 ล.-เผยคลิปเสียงสัมภาษณ์ 'ทรัมป์-วู้ดเวิร์ด'ลงหนังสือ ยอมรับ ไวรัสโควิดร้ายแรงจริง-'ทรัมป์'รับ ไม่ต้องการให้ ปชช.ตื่นตระหนก-'เซาโปโล' เคาะทดลองวัคซีนจีนระยะ 3 ธ.ค.นี้ - 'บ.แอสตร้า เซนเนก้า'เผย ผู้ป่วยหญิง จากการทดลองวัคซีน อาการดีขึ้น หลังป่วยด้วยอาการทางระบบประสาท-'โตเกียว' เล็งยกเลิกมาตรการจำกัดเวลาร้านเหล้าสัปดาห์หน้า-'ผู้ว่าฯกรุงโตเกียว'ลั่น ยังไงก็ต้องจัดโอลิมปิก
---------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 28,011,870 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 283,570 ราย เสียชีวิต 907,248ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 6,171ราย
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 6,548,737 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 34,506 ราย เสียชีวิต 195,196ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,181 ราย ทำให้สหรัฐฯกลับมาเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในโลกอีกครั้งหนึ่ง
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐเท็กซัส มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 5,082ราย
ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นและสำนักข่าววอชิงตันโพสต์ได้เปิดเผยไฟล์เสียงบันทึกการสัมภาษณ์นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งสัมภาษณ์โดยนายบ็อบ วู้ดเวิร์ด ผู้สื่อข่าว เพื่อจะใช้ในการเขียนหนังสือชื่อว่า “Rage” ที่จะวางแผงในวันที่ 15 ก.ย. โดยเป็นการสัมภาษณ์ประธานาธิบดีสหรัฐฯในหลายช่วงเวลา ซึ่งมีรายละเอียดว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯรับรู้เกี่ยวกับปัญหาการระบาดไวรัสโควิด-19 และพยายามที่จะปกปิดมันมาโดยตลาด
อาทิการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายทรัมป์ได้เคยกล่าวว่าเขารับรู้ว่าไวรัสโควิด-19 มีขีดความสามารถในการแพร่เชื้อผ่านอากาศ โดยผุ้ติดเชื้อไม่จำเป็นต้องสัมผัสสิ่งของ แค่หายใจเข้าไปก็ติดเชื้อได้แล้ว และเป็นไวรัสนี้ยังร้ายแรงกับทุกคนแม้แต่ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงก็ตาม โดยอาจจะมีความร้ายแรงมากกว่าไข้หวัดทั่วไปถึง 5 เท่า
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายทรัมป์เล่าให้นายวู้ดเวิร์ดฟังว่าเขาต้องการลดความสำคัญเกี่ยวกับไวรัสลงเพราะไม่อยากสร้างความตื่นตระหนก
นายทรัมป์ยังได้เคยบอกกับนายวู้ดเวิร์ดครึ้งหนึ่งด้วยว่าเขารู้ด้วยว่าคนหนุ่มสาวในประเทศก็ตกเป็นกลุ่มเสี่ยงของไวรัสโควิด-19 เช่นกัน
อ้างอิงรูปภาพจาก https://edition.cnn.com/2020/09/09/politics/bob-woodward-rage-book-trump-coronavirus/index.html
อ้างอิงวิดีโอจาก Global News
ขณะที่เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น นายทรัมป์ก็ได้ให้สัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าวว่าเขายอมรับว่าไม่ต้องการที่จะสร้างความตื่นตระหนกขึ้นในหมู่ประชาชนและไม่ต้องการที่จะนำพาประเทศหรือว่าโลกนี้ไปสู่ภาวะความบ้าคลั่ง
นายทรัมป์ยังกล่าวต่อไปด้วยว่าหนังสือเล่มดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นการหวังผลดิสเครดิตทางการเมือง
ขณะที่นางเคย์ลีห์ แมคอีแนนีย์ โฆษกประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะไม่มีทางประเมินภัยจากไวรัสผิดพลาดอีก โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯนั้นมีความจริงจังกับสถานการณ์ไวรัสมาโดยตลอด
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 4,199,332 ราย ติดเชื้อใหม่ 34,208 ราย เสียชีวิต 128,653 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,136ราย
ล่าสุดมีรายงานจากนาย Joao Doria ผู้ว่าการรัฐเซาโปโล ประเทศบราซิล ว่าจะมีการเริ่มกระบวนการทดลองวัคซีนสำหรับการรักษาในระยะที่ 3 หรือระยะทดลองอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวัคซีนที่พัฒนาจากบริษัทซีโน่แว็ค ซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศจีน โดยจะเริ่มกระบวนการทดลองในระยะ 3 ในช่วงเดือน ก.ย.
นาย Doria ได้กล่าวต่อไปด้วยว่ากระบวนการทดลองการรักษาในระยะที่ 2 หรือระยะทดลองขยายแสดงให้เห็นว่าวัคซีนสามารถกระตุ้มระบบภูมิคุ้มกันในกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 98 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุได้
โดย ณ เวลานี้ มีชาวบราซิลในรัฐเซาโปโลจำนวนอย่างน้อย 9,000 ราย ได้เข้าเป็นอาสาสมัครกับสถาบัน Butantan เพื่อที่จะรับการทดลองการรักษาด้วยวัคซีนจากบริษัทซีโน่แว็คแล้ว
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 1,041,007 ราย ติดเชื้อใหม่ 5,218ราย เสียชีวิต 18,135 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 142 ราย
ส่วนที่ประเทศสเปนมีผู้ติดเชื้อใหม่ 8,866 ราย ประเทศฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อใหม่ 8,577ราย
ขณะที่ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,434 ราย อังกฤษมีผู้ติดเชื้อใหม่ 2,659ราย
ขณะที่ทางด้านของนายปาสคาล โซริออท ผู้บริหารของบริษัทแอสตร้า เซนเนก้า ได้กล่าวถึงผลการทดลองวัคซีนระยะ 3 ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดซึ่งต้องชะลอไว้ชั่วคราวเนื่องจากมีอาสาสมัครรายหนึ่งที่มีอาการป่วยว่า ผู้ป่วยเป็นผู้หญิงชาวอังกฤษซึ่งมีอาการเกี่ยวกับระบบประสาทควบคู่กับภาวะไขสันหลังอักเสบ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก
แต่อย่างไรก็ตามคนไข้หญิงคนดังกล่าวนั้นมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ และอาจจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อช่วงวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนที่ประเทศเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,393 ราย
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 4,462,965 ราย ติดเชื้อใหม่ 95,529 ราย เสียชีวิตสะสม 75,091 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,168 ราย จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 508 ราย เสียชีวิตใหม่ 13 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 149 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
โดยในสัปดาห์หน้า ทางการกรุงโตเกียวเตรียมที่จะยกเลิกมาตรการการจำกัดช่วงเวลาเปิดทำการของร้านค้าซึ่งให้บริการเครื่องดื่มสุราไม่เกินเวลา 22.00 น. ซึ่งสาเหตุยกเลิกมาตรการจำกัดเวลาดังกล่าวก็เนื่องมาจากว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลง
ส่วนทางด้านของนางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเคียวโดะว่า การจัดการแข่งขันโอลิมปิกซึ่งถูกเลื่อนไปปี 2564 นั้นจะต้องเกิดขึ้นให้ได้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีไวรัสโควิด 19 ก็ตาม
ขณะที่ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 6 ราย
ส่วนที่ประเทศเกาหลีใต้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 156 ราย เสียชีวิตใหม่ 3 ราย
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 245,143 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,176 ราย เสียชีวิตสะสม3,986 ราย เสียชีวิตใหม่ 70 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 203,342 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,307 รายมีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 8,336 ราย เสียชีวิตใหม่ 106 ราย ทำให้อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสมและผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 24 ราย ขณะที่พม่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 180 ราย เสียชีวิตใหม่ 2 ราย และเวียดนามมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 642,431 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,990 ราย เสียชีวิต 15,168 ราย เสียชีวิตใหม่ 82ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ประเทศออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 73 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่อีก 11 ราย โดยรัฐวิกตอเรียมีผู้ติดเชื้อใหม่อีก 76 ราย รัฐนิวเซาธ์เวลส์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 9 ราย และรัฐควีนส์แลนด์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 8 ราย
ขณะที่ประเทศนิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 6 ราย เฟรนช์ โพลีเนเซียมีผู้ติดเชื้อใหม่ 22 ราย และประเทศฟิจิมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak,https://mainichi.jp/english/
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage