'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสม 26.7 ล. -'WHO'คาดวัคซีนแพร่หลายแน่ในช่วงกลางปีหน้า แนะต้องทดลองระยะ 3 นานกว่านี้-'บราซิล'เล็งผลิตวัคซีน 'รัสเซีย' หมื่นโดสก่อนทดสอบต้นปีหน้า- 'นิตยสารการแพทย์อังกฤษ'เผยวัคซีนรัสเซียสร้างภูมิคุ้มกันได้- 'มหาวิทยาลัยออสเตรเลีย' ชี้สูบบุหรี่ส่งผลเปลี่ยนแปลงตัวรับเชื้อโควิดเข้าร่างกายมนุษย์
-------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 26,772,196ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 288,824ราย เสียชีวิต 878,065ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,545ราย
ขณะที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO นางมากาเร็ต แฮร์ริส โฆษก WHO ได้ออกมาเปิดเผยว่าทาง WHO ได้ประมาณการไว้ว่าจะยังไม่มีวัคซีนใช้อย่างแพร่หลายจนกว่าจะถึงช่วงกลางปี 2564 โดยการทดลองวัคซีนเพื่อใช้ในการรักษาระยะที่ 3 หรือระยะทดลองอย่างมีประสิทธิภาพจะต้องมีระยะทดลองที่ยาวนานกว่านี้ เพื่อที่จะให้ได้ผลที่แน่ชัดว่าวัคซีนจะสามารถใช้ในการป้องกันโรคได้ดีเท่าไร
อ้างอิงวิดีโอจากสำนักข่าวซีเอ็นบีซี
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 6,386,496 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 51,252 ราย เสียชีวิต 192,032 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 974 ราย
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐเท็กซัส มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 5,151ราย
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 4,091,801 ราย ติดเชื้อใหม่ 45,651 ราย เสียชีวิต 125,584 ราย เสียชีวิตใหม่ 855 ราย
ล่าสุดมีรายงานจากสถาบันเทคโนโลยีพารานาระบุว่าทางสถาบันได้บรรลุข้อตกลงในการผลิตวัคซีนสปุ๊ตนิก 5 ของประเทศรัสเซียเพื่อจะใช้ในการทดลองระยะ 3 กับชาวบราซิลจำนวนกว่า 10,000 รายในช่วงต้นปี 2564
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 1,015,105ราย ติดเชื้อใหม่ 5,110ราย เสียชีวิต 17,649 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 121 ราย
ส่วนที่ประเทศฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อใหม่ 8,975ราย ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,733 ราย
ประเทศสเปนมีผู้ติดเชื้อใหม่ 4,503 ราย อังกฤษมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,740 ราย
และล่าสุดมีรายงานจากนักวิทยาศาสตร์ของหน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษว่าอาการท้องเสียและอาเจียนซึ่งพบในเด็กนั้นอาจจะเป็นสัญญาณว่าเด็กคนนั้นติดเชื้อโควิด 19
ส่วนนิตยสารทางการแพทย์แลนเซ็ตก็ได้รายงานผลการทดลองวัคซีนสปุ๊ตนิก 5 ของรัสเซียในกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 38 คนซึ่งมีช่วงอายุระหว่าง 18-60 ปี โดยได้รับวัคซีนเป็นโดสแรก และโดสที่ 2 เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ในภายหลัง พบว่าผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนนั้นสามารถผลิตสารภูมิคุ้มกันได้ในระยะเวลา 3 สัปดาห์ โดยมีอาการของผลข้างเคียงได้แก่ปวดศรีษะและปวดตามผิวหนัง
ส่วนที่ประเทศเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,467 ราย
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 4,020,239ราย ติดเชื้อใหม่ 87,115ราย เสียชีวิตสะสม 69,635ราย เสียชีวิตใหม่ 1,066 ราย จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 591 ราย เสียชีวิตใหม่ 5 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 136 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
ขณะที่ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 12 ราย ส่วนที่ประเทศเกาหลีใต้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 198 ราย เสียชีวิตใหม่ 2 ราย
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 232,072 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,714 ราย เสียชีวิตสะสม3,737 ราย เสียชีวิตใหม่ 49 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 187,537 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,269 รายมีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 7,832 ราย เสียชีวิตใหม่ 82 ราย ทำให้อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสมและผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 11 ราย พม่าไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ และประเทศเวียดนามมีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 635,078 ราย ติดเชื้อใหม่ 2,063 ราย เสียชีวิต 14,678 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 115ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ประเทศออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 89 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่อีก 59 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่รัฐวิกตอเรีย 81 ราย และที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ 8ราย
ล่าสุดมีผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ระบุว่าการสูบบุหรี่รวมไปถึงการรับควันบุหรี่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเอมไซน์ ACE2 ซึ่งเป็นอวัยวะตัวรับของเซลล์มนุษย์ในการรับเอาเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่เข้าสู่เซลล์
โดยในปอดของผู้ใหญ่พบว่าการสูบหรี่เพียงแค่ 3 มวนจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของยีนในการสร้างอวัยวะ ACE2 ขณะที่ผู้ซึ่งหยุดสุบบุหรี่มานานกว่า 1 เดือน ก็พบว่ามีจำนวนเอมไซน์ ACE2 ที่ว่านี้น้อยกว่าผู้ที่สูบบุหรี่
ขณะที่ประเทศนิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย และประเทศปาปัวนิวกินีพบผู้ติดเชื้อใหม่ 8 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak,https://mainichi.jp/english/
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage