คืบแล้ว! ป.ป.ช.ส่งพนักงานสอบสวน - การรถไฟฯ สอบเอื้อเอกชน บ.เจ เจ เซ็นเตอร์ เช่าที่ดินย่านจตุจักร หลังผู้เสียหายยื่นร้องตั้งแต่ปี 2557 ดีเอสไอสอบ พบการบริหารสัญญามีปัญหาลักษณะส่อละเว้น ส่งเรื่องให้ดำเนินการ ปี 2558
..........................................
กรณีการรถไฟแห่งประเทศไทยให้เอกชนเช่าที่ดินทำโครงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (โครงการอินสแควร์) จตุจักร ถูกร้องเรียนว่าเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชน และร่วมกันฉ้อโกงผู้เสียหายโดยผู้เสียหายร้องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อปี 2557 แต่ไม่มีความคืบหน้าในการสอบสวนนั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2563 นายสุพจน์ ศรีงามเมือง ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐวิสาหกิจ 1 ปฏิบัติราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งหนังสือแจ้งผู้ร้องว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้ว มีมติให้ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และส่งให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 63 และ 64 แล้วแต่กรณี และสำนักงาน ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องกล่าวหาดังกล่าวไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติและ การรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินการแล้ว (ดูเอกสาร)
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา นางจารุวรรณ จาติเสถียร และกลุ่มผู้เสียหาย ร้องเรียนต่อสำนักข่าวอิศราว่า ตามที่กลุ่มผู้เสียหายได้ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำความผิดต่อเจ้าพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการกับเจ้าพนักงานของรัฐหรือบุคคลอื่นใดในข้อหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนกรณีโครงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (โครงการอินสแควร์ จตุจักร) และพนักงานสอบสวนได้แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) 2 คดีคือคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนกรณี โครงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย(โครงการอินสแควร์ จตุจักร) และคดีทำสัญญาเอื้อเอกชน และร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.โดยตรงเมื่อปี 2557 มีการติดตามความคืบหน้า รวม 13 ครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้าในการสอบสวน จึงเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
โครงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท เจ เจ เซ็นเตอร์ จำกัด (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ดีดี มอลล์ จำกัด) เป็นผู้ได้รับสิทธิการเช่าที่ดินของการรถไฟฯ ตามสัญญา 2 ฉบับ คือ 1) สัญญาเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคาร เลขที่ 902520965 ลงวันที่ 24 ส.ค.2552 อายุสัญญา 4 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2552 ถึงวันที่31 ส.ค.2556 และ 2 ) สัญญาเช่าที่ดินเพื่อดำเนินการจัดประโยชน์ เลขที่ 907520966 ลงวันที่ 24 ส.ค.2552 อายุสัญญาเช่า 30 ปี ตั้งแต่ 1 ก.ย.2556 -31 ส.ค.2586
ต่อมาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ระหว่างดำเนินการก่อสร้างอาคาร บริษัทฯ ได้ประกาศเสนอขายสิทธิการเช่าพื้นที่อาคารตึก 8 ชั้น (ให้เช่าช่วง)ให้ประชาชนทั่วไป ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าบริษัทฯ ได้รับสิทธิการเช่าดังกล่าวจากการรถไฟฯ แล้ว จึงได้เข้าทำสัญญาตอบแทนสิทธิการเช่าและชำระเงินให้แก่บริษัทฯ และบริษัทฯ ได้ดำเนินการขายพื้นที่โดยตรงและผ่านตัวแทนซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ พบว่า มีการขายพื้นที่ซ้ำซ้อนกันเป็นจำนวนมากผ่านตัวแทนดังกล่าว และบริษัทฯ ไม่สามารถจดทะเบียนโอนสิทธิการเช่าให้แก่ผู้ซื้อได้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ก่อนหน้านี้มีผู้ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ตรวจสอบการทำสัญญาเช่าที่ดินรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)ของ บริษัท เจ.เจ.เซ็นเตอร์ จำกัด (ต่อมา บริษัท อินสแควร์ ช้อปปิ้ง มอลล์ และ บริษัท อินสแควร์ จำกัด) และนำไปกู้เงินจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยกว่า 1,600 ล้านบาท ต่อมา วันที่ 5 ม.ค.59 พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 2 ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำหนังสือแจ้งผู้ร้องเรียน ว่า การจากการสืบสวนปรากฎพยานหลักฐานน่าเชื่อว่า ในขั้นตอนการบริหารสัญญาของการรถไฟแห่งประเทศไทย มีลักษณะการกระทำอาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ) ยังมิใช่คดีความผิดทางอาญาที่เป็นคดีพิเศษที่จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 เป็นกรณีที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงยุติเรื่อง และส่งเรื่องให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการต่ ตั้งแต่ต้นปี 2558
เรื่องนี้เคยมีการร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผ่านศูนย์บริการประชาชน 1111 ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 10 ก.ค.58 เพื่อให้ตรวจสอบการให้เอกชนเช่าที่ดินโครงการดังกล่าวด้วย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage