'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสม 23.3 ล. - 'อินเดีย'ติดเชื้อทะลุ 3 ล.-'ทรัมป์'โทษ FDA ทำทดลองวัคซีนล่าช้า-ล่าสุด ส.ส.เพนซิลวาเซียติดเชื้อด้วย-'อาร์เจนตินา-โมร๊อกโก-เปรู-ยูเออี' เคาะข้อตกลงความร่วมมือให้ บ.จีน ทดลองวัคซีนระยะ 3 ในประเทศได้-'ญี่ปุ่น'ผ่อนปรนมาตรการให้ นร.ต่างชาติเข้าประเทศได้ เคาะ 1 ก.ย. เปิดเส้นทางการบิน 'ญี่ปุ่น-กัมพูชา'-ล่าสุด'พม่า'เจอผู้ติดเชื้อรัฐยะไข่อีก 22 ราย
---------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 23 ส.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 23,361,489 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 252,201 ราย เสียชีวิต 807,735 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,135 ราย
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 5,841,176 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 43,577 ราย เสียชีวิต 180,174 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 974 ราย ทำให้สหรัฐฯยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 5,156ราย
ขณะที่ทางด้านของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯก็ได้ทวิตเตอร์โจมตีผู้บริหารหรือผู้ที่มีอำนาจในองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือเอฟดีเอว่ามีส่วนทำให้การทดลองวัคซีนในขั้นตอนการทดลองการรักษา ที่ขณะนี้กำลังดำเนินการโดยบริษัทต่างๆประสบความล่าช้า
นายทรัมป์ยังกล่าวหาต่อไปด้วยว่าเอฟดีเอนั้นหวังผลที่จะทำให้การทดลองวัคซีนล่าช้าเกินกว่าวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งในวันดังกล่าวนั้นเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งๆที่สิ่งที่ควรจะทำตอนนี้ก็คือการเร่งการทดลองวัคซีนโดยเร็วและการช่วยชีวิตผู้คน
แต่อย่างไรก็ตามจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีหลังฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาของประธานาธิบดีสหรัฐฯแต่อย่างใด
ทวิตเตอร์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ส่วนสถานการณ์อื่นๆในประเทศสหรัฐฯล่าสุดมีรายงานว่านายแดน มิวเซอร์ ส.ส.พรรครีพับลิกันจากรัฐเพนซิลวาเนียได้ออกมาเปิดเผยว่าตัวเขาถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 เช่นกัน และจะทำงานอยู่ที่บ้านจนกล่าผลการตรวจเชื้อจะออกมาเป็นลบ
นายแดน มิวเซอร์ ส.ส.พรรครีพับลิกันจากรัฐเพนซิลวาเนีย (อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.wesa.fm/post/pennsylvania-congressman-tests-positive-covid-19#stream/0)
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 3,582,698 ราย ติดเชื้อใหม่ 46,210 ราย เสียชีวิต 114,277 ราย เสียชีวิตใหม่ 823 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในอเมริกาใต้ มีรายงนว่าประเทศอาร์เจนติน่าได้ประกาศความร่วมมือกับประเทศเปรู ประเทศโมร๊อกโก และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยประเทศทั้งหมดจะอนุมัติให้บริษัท China National Biotec Group ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยวัคซีนดำเนินการทดลองวัคซีนในระยะที่ 3 หรือระยะทดลองอย่างมีประสิทธิภาพในประเทศของตัวเองได้
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 951,897 ราย ติดเชื้อใหม่ 4,921 ราย เสียชีวิต 16,310 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 121 ราย
ส่วนที่ประเทศฝรั่งเศสซึ่งมีผู้ติดเชื้อใหม่ 3,602 ราย ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,071 ราย และประเทศเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 836 ราย
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 3,043,436 ราย ติดเชื้อใหม่ 70,068 ราย เสียชีวิตสะสม 56,846 ราย เสียชีวิตใหม่ 918 ราย จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก และอินเดียยังเป็นประเทศลำดับ 3 ของโลกต่อจากสหรัฐฯและบราซิลที่ติดเชื้อเกิน 3 ล้านราย
ขณะที่ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 26 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
ส่วนที่ประเทศเกาหลีใต้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 332 ราย
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 983 ราย เสียชีวิตใหม่ 2 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 256 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
แต่อย่างไรก็ตามประเทศญี่ปุ่นก็ได้เริ่มผ่อนปรนมาตรการให้นักเรียนต่างประเทศสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศญี่ปุ่นได้โดยต้องผ่านกระบวนการตรวจเชื้อและกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆ ล่าสุดมีรายงานว่าเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ประเทศญี่ปุ่นได้บรรลุข้อตกลงกับประเทศกัมพูชาในการเปิดพรมแดนการบินระหว่างประเทศ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นไป ซึ่งผู้ที่โดยสารบนเครื่องบินเพื่อเดินทางระหว่าง 2 ประเทศจะต้องผ่านกระบวนการตรวจเชื้อและกักตัว 14 วันตามกระบวนการขออนุญาตเข้าประเทศ
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 187,249 ราย ติดเชื้อใหม่ 4,884 ราย เสียชีวิตสะสม 2,966 ราย เสียชีวิตใหม่ 26 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 6,594 ราย เสียชีวิตใหม่ 94 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสมและผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 8 ราย พม่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 22 ราย โดยการระบาดใหม่ที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่ประเทศพม่านั้นเกิดขึ้นในรัฐยะไข่ โดยมีกลุ่มผู้ติดเชื้อที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 15 -74 ปี
โดยขณะนี้เมืองสิตหวีซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐยะไข่ได้ออกมาตรกรเคอร์ฟิวนับตั้งแต่เวลา 21.00 น.-4.00 น. ซึ่งจะมีผลเป็นระยะเวลา 2 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.
ขณะที่ประเทศเวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย เสียชีวิต 1 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 607,045 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,707 ราย เสียชีวิต 12,987 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 144ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 200 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่อีก 13 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 182 ราย รัฐควีนส์แลนด์ 9 รายและในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 9 ราย
ส่วนที่ประเทศนิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 6 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak,https://mainichi.jp/english/
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage