อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า หรือโรคโควิด 19 ยอดสะสม 22.8 ล. -ส.ว.หลุยส์เซียน่าติดโควิดด้วย ขณะยอดตัวเลขว่างงานสหรัฐฯทะลุ 1.1 ล้าน-'รัฐสภา'บราซิลเห็นชอบข้อบังคับใส่หน้ากาก แม้ ปธน.โหวตวีโต้ - 'รัสเซีย'เคาะสัปดาห์หน้าทดลองวัคซีนระยะที่ 3 ที่ประเทศเม็กซิโก-รมต.เกษตรฯไอร์แลนด์ขอโทษ ปชช. หลังฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโควิด เข้าร่วมงานเลี้ยงพร้อมผู้แทนการค้าอียู-'ญี่ปุ่น' ผ่อนปรนผู้ถือวีซ่าถาวร,นร.แลกเปลี่ยนเข้าประเทศได้ผ่านกระบวนการตรวจเชื้อ-กักตัว -ล่าสุด 'เอกชนญี่ปุ่น'เกินครึ่งค้านจัดโอลิมปิกปีหน้า
-----------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานคว ามคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 21 ส.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 22,848,021ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 265,528 ราย เสียชีวิต 796,330 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 6,140 ราย
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 5,745,712 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 44,781 ราย เสียชีวิต 177,394 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,060 ราย
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 6,055ราย
ล่าสุดมีรายงานว่านายบิล แคสซิดี้ ส.ว.รัฐหลุยส์เซียน่าจากพรรครีพับลิกันติดเชื้อโควิด 19 เช่นกัน โดยสำนักงานของนายแคสซิดี้ได้ระบุว่านายแคสซิดี้จะดำเนินการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันหลังจากที่ทราบผลดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา
นายบิล แคสซิดี้ ส.ว.รัฐหลุยส์เซียน่าจากพรรครีพับลิกัน (อ้างอิงรูปภาพจาก https://kpel965.com/bill-cassidy-responds-to-vocal-kavanaugh-protester-video/)
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในสหรัฐฯ ล่าสุดมีรายงานว่า ตัวเลขผู้ว่างงานในสหรัฐฯอยู่ที่ 1.1 ล้านคน ทำให้สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 2 ที่สหรัฐมีตัวเลขผู้ว่างงานสูงกว่า 1 ล้านคน
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 3,505,097 ราย ติดเชื้อใหม่ 44,684 ราย เสียชีวิต 112,423 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,234 ราย ทำให้บราซิลกลับมาเป็นประเทศที่มีตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดในโลกอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในประเทศบราซิล มีรายงานว่ารัฐสภาบราซิลทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบร่วมกันในการออกข้อบัญญัติซึ่งจะมีผลบังคับให้ทุกคนต้องใส่หน้ากากในสถานที่ปิด อาทิในร้านค้า ในสถานที่ทำงาน ในศาสนสถานและในโรงเรียน
ซึ่งผลของการลงมติร่วมเห็นชอบของทั้ง 2 สภาดังกล่าวนั้นถือเป็นการพลิกมติคัดค้าน (วีโต้) ของนายฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิลที่ได้คัดค้านในข้อบัญญัติเรื่องการใส่หน้ากากก่อนหน้านี้
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 942,106 ราย ติดเชื้อใหม่ 4,785 ราย เสียชีวิต 16,099 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 110 ราย
สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีนของประเทศรัสเซีย ล่าสุดมีรายงานว่าจะมีการทดลองวัคซีนสปุ๊ตนิก 5 ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว โดยจะทดลองในระยะที่ 3 ในกลุ่มทดลองจำนวนกว่า 40,000 คน ในสัปดาห์หน้า ที่ประเทศเม็กซิโก และจะมีหน่วยงานสนับสนุนการวิจัยต่างประเทศของประเทศเม็กซิโกเป็นผู้กำกับดูแลการวิจัย
ล่าสุดมีรายงานว่าประเทศเม็กซิโกได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยจำนวน 2,000 โดส เพื่อนำไปใช้ในการทดลอง
ส่วนที่ฝรั่งเศสซึ่งมีผู้ติดเชื้อใหม่ 4,771 ราย ขณะที่ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 845 ราย
ขณะที่ประเทศไอร์แลนด์มีรายงานว่านายดาร่า คัลเลียรี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของประเทศไอร์แลนด์ได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณชน หลังจากที่เขาได้ฝ่าฝืนมาตรการเฝ้าระวังไวรัสโควิด 19 ด้วยการไปร่วมงานเลี้ยงที่จัดโดยสมาคมกอล์ฟออร์รีชแทช (Oireachtas Golf Society) ที่โรงแรมสเตชั่นเฮาส์ เมืองคลิฟเดน
โดยงานเลี้ยงดังกล่าวนั้นมีผู้ร่วมงานมากกว่า 80 คน ซึ่งส่วนมากมาจากสมาชิกพรรครัฐบาลของไอร์แลนด์ และมีรายงานว่านายฟิล โฮแกน ผู้แทนการค้าของสหภาพยุโรป (EU) ก็ได้ไปร่วมงานเลี้ยงนี้ด้วยเช่นกัน
นายดาร่า คัลเลียรี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของประเทศไอร์แลนด์ (อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.thejournal.ie/golf-event-dara-calleary-5181529-Aug2020/)
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,904,329 ราย ติดเชื้อใหม่ 68,507 ราย เสียชีวิตสะสม 54,975 ราย เสียชีวิตใหม่ 981 ราย จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ขณะที่ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 18 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
ส่วนที่ประเทศเกาหลีใต้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 288 ราย เสียชีวิต 1 ราย
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 1,183 ราย เสียชีวิตใหม่ 8 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 339 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆนประเทศญี่ปุ่นมีรายงานว่าประเทศญี่ปุ่นได้ออกมาตรการผ่อนปรนการเข้าประเทศสำหรับชาวต่างชาติที่ถือวีซ่าสำหรับผู้พักอาศัย โดยมาตรการผ่อนปรนนั้นจะเริ่มต้นในเดือน ก.ย.
โดยผู้ที่ถือวีซ่าผู้อยู่อาศัยถาวร และนักเรียนแลกเปลี่ยนจะสามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบเพื่อหาไวรัสโคโรน่าและกระบวนการกักตัว 14 วันที่ประเทศญี่ปุ่น
ขณะที่ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการจัดกีฬาโอลิมปิก ล่าสุดมีรายงานว่าสำนักข่าวเกียวโดะของญี่ปุ่นได้ทำโพลสำรวจบริษัทกว่า 13,000 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่นเกี่ยวกับกรจัดกีฬาโอลิมปิกในปลายเดือน ก.ค. 2564
โดยผลโพลสำรวจพบว่าบริษัทจำนวน 53.6 เปอร์เซ็นต์ยังคงไม่เห็นด้วยกับการจัดโอลิมปิกในช่วงเวลาดังกล่าว อีก 46.2 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าควรจัดกีฬาโอลิมปิกในรูปแบบอื่นๆ
ซึ่งใน 46.2 เปอร์เซ็นต์ แบ่งออกเป็นผลสำรวจบริษัทจำนวน 22.5 เปอร์เซ็นต์เห็นว่าควรจัดโอลิมปิกตามที่ได้มีการวางแผนกันไว้ อีก 18.4 เปอร์เซ็นต์เห็นว่าควรจะจัดกีฬาโอลิมปิกแบบมีผู้เข้าชมน้อยลง และอีก 5.3 เปอร์เซ็นต์เห็นว่าควรจะจัดกีฬาโอลิมปิกแบบไม่มีผู้เข้าชม
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 178,022 ราย ติดเชื้อใหม่ 4,339 ราย เสียชีวิตสะสม 2,883 ราย เสียชีวิตใหม่ 88 ราย ทำให้ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดในอาเซียน
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 6,418 ราย เสียชีวิตใหม่ 72 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย พม่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย และเวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 13 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 599,940 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,880 ราย เสียชีวิต 12,618 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 195ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 246 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่อีก 13 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 240 ราย และในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 5 ราย
ส่วนที่ประเทศนิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย และประเทศปาปัวนิวกินีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 14 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak,https://mainichi.jp/english/
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage