มท.1 ฟิลิปปินส์ ติดโควิด หลังเคยถูกตรวจติดเชื้อตอนเดือน มี.ค. สธ.ฟิลิปปินส์เร่งสอบติดเชื้อซ้ำหรือไม่-ล่าสุด 'มาเลเซีย' พบเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ระบาดมากกว่าเดิม 10 เท่า
------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19 หรือโคโรน่าไวรัสเพิ่มเติมในช่วงบ่าย โดยมีรายงานจากที่ประเทศฟิลิปปินส์ว่าที่ พล.อ.เอดูอาร์โด อาโญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาลท้องถิ่น ผู้รับผิดชอบในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศฟิลิปปินส์ และอดีตผู้บัญชาการทหารบกฟิลิปปินส์ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่เขาเคยถูกตรวจพบว่าติดโควิด 19 มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 19 มี.ค. โดย ณ ขณะนี้ทางการฟิลิปปินส์กำลังตรวจสอบว่าการติดเชื้อของ พล.อ.เอดูอาร์โดนั้นเป็นการติดเชื้อซ้ำหรือไม่
โดย พล.อ.เอดูอาร์โดกล่าวว่าเขาเข้ารับการตรวจเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมาหลังจากที่พบว่ามีอาการคล้ายไข้หวัด แต่สำหรับการติดเชื้อในวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมาเป็นการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ
สำหรับการติดเชื้อโควิด 19 นั้น ที่ผ่านมามีผลการวิจัยระบุออกมาว่าร่างกายของผู้ติดเชื้อโควิด 19 จะสร้างสารภูมิคุ้มกันการติดเชื้อภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ หรือขณะที่เริ่มมีอาการของไวรัสโควิด 19
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์เริ่มมีความไม่แน่ใจแล้วว่าระบบร่างกายจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสหรือการติดเชื้อได้ตลอดไปหรือไม่ หรือภูมิคุ้มกันจะอยู่แค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น และถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง ภูมิคุ้มกันจะสมารถอยู่ได้นานเท่าไร
โดยผลการศึกษาบางรายการระบุว่าผู้ป่วยที่ฟื้นตัวจากไวรัสโควิด 19 อาจจะสูญเสียภูมิคุ้มกันไปภายในระยะเวลาหลายเดือนหรือหลายสัปดาห์
ขณะที่ทางด้านของนางมาเรีย โรซาริโอ เวอร์เกอเร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขของประเทศฟิลิปปินส์กล่าวว่า ณ เวลานี้ผู้เชี่ยวชาญกำลังวินิจฉัยอาการของ พล.อ.เอดูอาร์โด รวมไปถึงกรณีที่เขาเคยถูกตรวจพบว่าติดโควิด และตรวจสอบผลแล็บ เพื่อจะดูว่านี่เป็นการติดเชื้อซ้ำหรือไม่
พล.อ.เอดูอาร์โด อาโญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาลท้องถิ่น (อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.insider.com/philippines-us-dna-tests-confirm-death-of-is-linked-leader-2019-4)
“อย่าเพิ่งเรียกว่าเป็นการติดเชื้อซ้ำ เพราะขณะนี้แวดวงวิทยาศาสตร์ยังไม่ยอมรับว่าเชื้อโควิด 19 นั้นสามารถติดซ้ำได้แต่อย่างใด”นางเวอร์เกอเรกล่าว
ซึ่ง ณ เวลานี้ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือภูมิภาคอาเซียน โดยมีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 164,474 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,314 ราย เสียชีวิตสะสม 2,681 ราย เสียชีวิตใหม่ 18 ราย
สำหรับความเคลื่อนไหวอื่นๆในเกี่ยวกับไวรัสโควิด 19 ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่าประเทศมาเลเซียตรวจพบสายพันธุ์โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า
โดยสายพันธุ์ของการกลายพันธุ์ของไวรัสดังกล่าวถูกเรียกสายพันธุ์ว่า D614G พบได้ในอย่างน้อย 3 ใน 45 รายในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่เริ่มต้นจากเจ้าของร้านอาหารที่เดินทางกลับจากอินเดียและฝ่าฝืนการกักกันที่บ้าน 14 วัน ซึ่งชายผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการกักตัวถูกตัดสินจำคุก 5 เดือนและถูกปรับไปแล้ว
นอกจากนี้ยังพบสายพันธุ์ดังกล่าวในกลุ่มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่เดินทางกลับจากฟิลิปปินส์
ขณะที่นายนูร์ ฮิชาม อับดุลลาห์ อธิบดีกรมสาธารณสุขกล่าวว่าการกลายพันธุ์นี้อาจหมายความว่าการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาวัคซีนที่มีอยู่ อาจไม่สมบูรณ์หรือไม่มีประสิทธิผลต่อการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนทางด้านของ นพ.แอนโทนี่ ฟาวซี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐฯ หนึ่งในคณะทำงานพิเศษเพื่อต่อต้านโรคระบาดของทำเนียบขาวกล่าวยอมรับว่าการกลายพันธุ์นั้นอาจจะส่งผลทำให้การระบาดรวดเร็วยิ่งขึ้น
โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่าไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์ที่กลายพันธุ์จากการระบาดที่เมืองอู่ฮั่นนั้นกำลังเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดอยู่ในประเทศสหรัฐฯและในทวีปยุโรป ณ เวลานี้
อย่างไรก็ตามทางองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ก็ได้ออกมายืนยันว่ายังไม่พบว่าการกลายพันธุ์จะส่งผลทำให้ไวรัสมีความร้ายแรงมากขึ้นแต่อย่างใด
ขณะที่รายงานจากสำนักพิมพ์ Cell Press ก็ได้ระบุก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกันว่าการกลายพันธุ์ของไวรัสนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบที่สำคัญของประสิทธิภาพของวัคซีนที่กำลังทดลองแต่อย่างใด
เรียบเรียงจาก:https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-08-17/malaysia-detects-virus-strain-that-s-10-times-more-infectious,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage