อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า หรือโรคโควิดยอดสะสม 21.3 ล. -'ซีดีซี' เผยติดเชื้อแล้ว ถ้าแสดงอาการซ้ำในช่วง 3 เดือนต้องกลับมาตรวจใหม่-นิตยสารการแพทย์ สหรัฐฯ เผยผลทดลองวัคซีนจีนปลอดภัย กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้- พบผู้ว่าฯเมืองหลวง 'เวเนซุเอลา'เสียชีวิตจากไวรัส-'ฝรั่งเศส'ประกาศ 'กรุงปารีส-เมืองท่ามาร์แซล' พื้นที่ระบาดสูงหลังยอดติดเชื้อแตะ 2,846 ราย - 'บาร์เซโลน่า'เจอนักเตะติดโควิด 2 ราย-'เกาหลีเหนือ'สั่งปิดเมืองแกซอง-ชายแดนเกาหลีใต้หลังเจอเหตุระบาด - 'สื่อญี่ปุ่น'เผยแอนติบอดี้โควิด ส่อเสื่อมสภาพหลังผ่านไปได้ 3 เดือน - 'ออสเตรเลีย' ตั้ง กก.สอบปมปล่อยผู้โดยสารเรือสำราญติดเชื้อ 700 รายขึ้นฝั่งเมื่อช่วง มี.ค.- ล่าสุดนิวซีแลนด์สั่งปิดโอ๊คแลนด์ 12 วัน ความหาต้นตอการระบาด
...............................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 15 ส.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 21,328,199 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 268,922 ราย เสียชีวิต 762,283 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,564 ราย
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 5,473,254 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 57,588 ราย เสียชีวิต 171,443 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,028 ราย ทำให้สหรัฐฯกลับมาเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดอีกครั้งหนึ่ง
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 9,267 ราย
ขณะที่นิตยสารทางการแพทย์ของสหรัฐฯชื่อว่า Journal of the American Medical Association ได้ออกบทความเกี่ยวกับวัคซีนทีพัฒนาโดยบริษัทซีโน่ฟาร์มของประเทศจีน ระบุว่าวัคซีนซึ่งมีการทดลองการรักษาในระยะ 2 นั้นมีความปลอดภัยและสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายได้ แม้จะมีผลข้างเคียงได้แก่อาการเป็นไข้ก็ตาม
บทความในนิตยสารระบุต่อไปว่ายังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมว่าวัคซีนนั้นจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่จะสามารถต่อต้านไวรัสโควิด 19 ได้หรือไม่
ส่วนทางด้านศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯหรือซีดีซี ได้ปรับรูปแบบการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด 19 ใหม่ โดยระบุว่าผู้ที่ติดเชื้อโควิด 19 และฟื้นตัวจากการติดเชื้อแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจอีกภายในระยะเวลา 3 เดือน ยกเว้นแต่ว่าบุคคลนั้นจะแสดงอาการของการติดเชื้อซ้ำอีกครั้งหนึ่ง
ล่าสุดมีรายงานด้วยว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้เดินทางมาเยี่ยมน้องชาย โรเบิร์ต ทรัมป์ วัย 72 ปี ซึ่งกำลังป่วยหนัก ที่โรงพยาบาลนิวยอร์ก-เพรสไบทีเรียน ในนครนิวยอร์ก เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังไม่แน่ชัดว่านายโรเบิร์ต ทรัมป์ ป่วยด้วยโรคอะไร
โดยนายทรัมป์ซึ่งสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า หวังว่าน้องชายจะปลอดภัย
ส่วนสถานการณ์ที่ประเทศเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อสะสม505,751 ราย ติดเชื้อใหม่ 7,371 ราย เสียชีวิต 55,293 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 627 ราย
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 3,275,520 ราย ติดเชื้อใหม่ 45,899 ราย เสียชีวิต 106,523 ราย เสียชีวิตใหม่ 959 ราย
ส่วนที่ประเทศเวเนซูเอลา มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,012 ราย ล่าสุดมีรายงานว่านายดาริโอ วิวาส ผู้ว่าการกรุงการากัส เมืองหลวงของเวเนซูเอลาเสียชีวิตจากไวรัสโควิด 19 เช่นกัน
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 912,823 ราย ติดเชื้อใหม่ 5,065 ราย เสียชีวิต 15,498 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 114 ราย
ขณะที่ประเทศฝรั่งเศส ได้ประกาศให้กรุงปารีสและเมืองท่ามาร์แซลเป็นเมืองที่เสี่ยงต่อโรคระบาด หลังยอดคิดโควิด 19 ของประเทศฝรั่งเศสพุ่งสูงเกิน 2,500 ราย เป็นวันที่ 3 โดยยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ของประเทศฝรั่งเศสล่าสุดอยู่ที่ 2,846 ราย
ส่วนที่ประเทศสเปนมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่จำนวน 2,987 ราย โดยทางสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาก็ได้ออกทวิตข้อความว่านายซามูแอล อุมติตี้ และนายฌ็อง-แกลร์ โตดีโบ นักเตะชาวฝรั่งเศส ถูกตรวจพบว่าติดไวรัสโควิด-19 เช่นกัน
นายซามูแอล อุมติตี้
นายฌ็อง-แกลร์ โตดีโบ
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,525,222 ราย ติดเชื้อใหม่ 65,609 ราย เสียชีวิตสะสม 49,134 ราย เสียชีวิตใหม่ 990 ราย จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ส่วนที่ประเทศจีน มีผู้ติดเชื้อใหม่ 30 ราย เป็นการระบาดจากต่างประเทศจำนวน 22 ราย และอีก 8 ราย เป็นการระบาดในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
ขณะที่ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 48 ราย และเสียชีวิต 2 ราย
ส่วนที่เกาหลีเหนือ นายคิมจองอุน ผู้นำเกาหลีเหนือได้สั่งปิดเมืองแกซองและเมืองใกล้เคียงที่อยู่ใกล้กับชายแดนเกาหลีใต้เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด 19
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 1,358 ราย เสียชีวิตใหม่ 7 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 389 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
ล่าสุด สำนักข่าวเจแปนไทม์ของญี่ปุ่นได้ออกรายงานข่าวฉบับหนึ่งระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่สารภูมิคุ้มกันไวรัสหรือแอนติบอดี้โควิด 19 จะหายหรือเสื่อมสภาพเมื่อผ่านไปเป็นระยะเวลาหลายเดือน แต่ทางนักวิจัยกล่าวว่าระยะเวลาที่สารภูมิคุ้มกันจะหายไปนั้นต้องขึ้นอยู่กับอาการของผู้ติดเชื้อโควิด 19 ด้วย
โดยผู้ที่ติดเชื้อแบบแสดงอาการจะมีสารภูมิคุ้มกันนานกว่าผู้ที่ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการหรือแสดงอาการน้อย
ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นอ้างอิงจากมหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษระบุว่า มีจำนวนผู้ติดเชื้อแค่ 16.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จะมีจำนวนสารภูมิคุ้มกันที่สูงเป็นระยะเวลานานกว่า 3 เดือน
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 153,660 ราย ติดเชื้อใหม่ 6,216 ราย เสียชีวิตสะสม 2,442 ราย เสียชีวิตใหม่ 16 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 6,021 ราย เสียชีวิตใหม่ 53 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตรายวันและผู้เสียชีวิตสะสมสูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 20 ราย กัมพูชามีผู้ติดเชื้อ 1 ราย พม่ามีผู้ติดเชื้อ 8 รายและเวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 18 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 579,140 ราย ติดเชื้อใหม่ 6,275 ราย เสียชีวิต 11,556 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 286 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 386 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่อีก 14 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 372 ราย และในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 9 ราย
ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่าทางการออสเตรเลียได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีเรือสำราญรูบี้ปริ๊นเซสเทียบท่าที่เมืองซิดนีย์เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยเรือลำนี้ถูกกำหนดว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่ำ ส่งผลทำให้ผู้โดยสารกว่า 2,700 รายสามารถเดินทางเข้าออสเตรเลียได้โดยไม่ผ่านการตรวจเชื้อ
อย่างไรก็ตามมีการตรวจพบในภายหลังว่ามีผู้โดยสารบนเรือนี้อย่างน้อย 700 รายติดเชื้อโควิด 19
ส่วนนิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 13 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage