'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสม 19.5 ล.- 'สหรัฐ-อินเดีย' เจอผู้ติดเชื้อรายใหม่ปท.ละ 6 หมื่น 'ฟาวซี่' ผอ.สถาบันโรคติดเชื้อฯ อเมริกา คาดวัคซีนช่วยป้องกันการระบาดได้แค่ 50 เปอร์เซ็นต์ ชี้ยังต้องยึดมาตรการทางสังคมต่อไป 'แคลิฟอร์เนีย' พบข้อผิดพลาดบันทึกผู้ป่วยเกือบ 3 แสนรายการ- 'ผู้ว่าโอไฮโอ' เข้าตรวจอีกรอบพบไม่ติดโควิด -อดีตนักวิจัยเตือน 'รัสเซีย' เร่งพัฒนาวัคซีนเร็วเกินไปเสี่ยงกระตุ้นแอนติบอดีผิดชนิด-ล่าสุด'ญี่ปุ่น' ทำสัญญา ตุนวัคซีนอีก 120 ล้านโดส หลังพบผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 1,600 ราย
........................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 8 ส.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 19,514,105 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 264,582 ราย เสียชีวิต 722,780 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 6,044 ราย
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 5,093,746 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 61,468 ราย เสียชีวิต 164,047 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,243 ราย ทำให้สหรัฐฯ กลับไปเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในโลกอีกครั้ง
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐแคลิฟอเนียร์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 7,755 ราย
ส่วนสถานการณ์อื่นๆในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีรายงานว่าพบข้อผิดพลาดเกี่ยวกับบันทึกในระบบลงทะเบียนรายการผู้เจ็บป่วยของรัฐแคลิฟอร์เนียจำนวน 250,000-300,000 รายการ ซึ่งกรณีดังกล่าวส่งผลทำให้มีผู้ป่วยโควิด 19 ที่ไม่ได้ถูกบันทึกในรายงานข้อมูลจำนวนหนึ่ง
ขณะที่ทางด้านของ นพ.แอนโทนี่ ฟาวซี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐฯ หนึ่งในคณะทำงานพิเศษเพื่อต่อต้านโรคระบาดของทำเนียบขาว ได้กล่าวว่า แม้ว่าจะมีวัคซีนรักษาไวรัสโควิด 19 ออกมาแล้ว แต่ก็คาดว่าวัคซีนจะมีส่วนช่วยในการควบคุมไวรัสได้แค่ 50-60 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น การยึดหลักมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำอยู่
นพ.ฟาวซี่ ยังกล่าวถึงผลการวิจัยวัคซีนจากบริษัทเมอร์เดอน่า ซึ่งเป็นวัคซีนไวรัสโควิด 19 ที่ก้าวหน้าที่สุดของประเทศสหรัฐฯว่า ผลการศึกษาวัคซีนนั้นน่าจะออกมาได้อย่างเป็นทางการในเดือน พ.ย.- ธ.ค.
โดยเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นพ.ฟาวซี่เคยกล่าวถึงผลการศึกษาวิจัยวัคซีนว่า เขาคาดว่าในช่วงต้นปี 2564 จะมีวัคซีนป้องกันโควิด 19 เป็นจำนวนประมาณ 10 ล้านโดส และน่าจะเป็นจำนวนนับพันล้านโดสในช่วงปลายปี 2564
นพ.แอนโทนี่ ฟาวซี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐฯ (อ้างอิงวิดีโอจากสำนักข่าวเอพี)
อย่างไรก็ตาม การออกมาให้สัมภาษณ์ของ นพ.ฟาวซี่ ในประเด็นเรื่องวัคซีนนั้นค่อนข้างขัดแย้งกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ระบุว่าวัคซีนจะสมารถใช้งานได้ก่อนวันที่ 3 พ.ย.ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ส่วนทางด้านของนายไมค์ ดีไวน์ ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ ที่ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ว่า ตัวเขาติดเชื้อไวรัสโควิด 19 หลังจากที่ได้รับการตรวจหาเชื้อตามขั้นตอนของทำเนียบขาวที่ สนามบินเบิร์กเลคฟร้อนท์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เขาจะเข้าพบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ส.ค. นายไมค์ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 อีกครั้งด้วยวิธีการตรวจแบบหาปริมาณดีเอ็นเอหรือการตรวจแบบ PCR ที่ห้องแล็บโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์เว็กซ์เนอร์ ในรัฐโอไฮโอ ปรากฏว่าเขามีผลตรวจเป็นลบหรือไม่มีเชื้อโควิด 19
ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีการตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของระบบการตรวจอย่างง่ายหรือระบบ Rapid Test ของทำเนียบขาว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการประเมินผลว่า ระบบดังกล่าวของทำเนียบขาวนั้นมีความน่าเชื่อถือหรือไม่
ส่วนสถานการณ์ที่ประเทศเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อสะสม 462,690 ราย ติดเชื้อใหม่ 6,590 ราย เสียชีวิต 50,517 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 819 ราย
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 2,967,064 ราย ติดเชื้อใหม่ 49,502 ราย เสียชีวิต 99,702 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,058 ราย
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 871,894 ราย ติดเชื้อใหม่ 5,267 ราย เสียชีวิต 14,606 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 116 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมในประเทศรัสเซีย ล่าสุดมีรายงานจาก นพ.อเล็กซานเดอร์ เชอร์เปอร์นอฟ (Alexander Chepurnov) อดีตหัวหน้าสถาบันโรคติดต่อเวคเตอร์ ที่ออกมาเตือนถึงความเร่งรีบในการพัฒนาวัคซีนของประเทศรัสเซีย โดย นพ.อเล็กซานเดอร์กล่าวว่าความเร่งรีบดังกล่าวนั้นอาจจะเป็นการละเลยต่อความแตกต่างของการกระตุ้นสารภูมิค้มกันหรือแอนติบอดี้ในร่างกายที่มีความแตกต่างกันออกไป โดยการกระตุ้นแอนติบอดี้บางชนิดก็สามารถจะตรวจจับและกำจัดวัคซีน และแอนติบอดี้บางชนิดก็จะทำให้การติดเชื้อรุนแรงขึ้นไปอีก
ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,086,864ราย ติดเชื้อใหม่ 61,455 ราย เสียชีวิตสะสม 42,578ราย เสียชีวิตใหม่ 940 ราย
ส่วน ที่ประเทศจีนมีผู้ติดเชื้อใหม่ 37 ราย เป็นการระบาดจากต่างประเทศจำนวน 10 ราย อีก 26ราย เป็นการระบาดในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และอีก 1รายเป็นการระบาดในกรุงปักกิ่ง
ขณะที่ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 89 ราย
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 1,602 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงสุดนับแต่มีการระบาดมา และมีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 462 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
ล่าสุดมีรายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัทแอสตร้า เซนเนก้า รายละเอียดข้อตกลง ทางบริษัทจะได้ส่งวัคซีนที่ขณะนี้กำลังร่วมกันพัฒนากับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มาให้กับประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวน 120 ล้านโดส ภายในก่อนสิ้นเดือน มิ.ย.ปี 2564
โดยคาดว่าวัคซีนจำนวนดังกล่าวนั้นจะสามารถครอบคลุมประชาชนในญี่ปุ่นได้เป็นจำนวน 60 ล้านคน
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 122,754 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,379 ราย เสียชีวิตสะสม 2,168 ราย เสียชีวิตใหม่ 24 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 5,593 ราย เสียชีวิตใหม่ 72 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสม และผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทยนั้น ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 25 ราย พม่ามีผู้ติดเชื้อ 2 ราย และเวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 45 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 545,476 ราย ติดเชื้อใหม่ 7,292 ราย เสียชีวิต 9,909 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 305 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 464 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่อีก 11 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 450 ราย และในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 11 ราย
ปาปัวนิวกินี มีผู้ติดเชื้อใหม่ 25 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage