เสวนาถอดบทเรียน 'บอส อยู่วิทยา' แนะอย่าตื่นตระหนกยังมีช่องทางรื้อคดี หากพบหลักฐานใหม่ 'คำนูณ-รสนา' จี้รัฐต้องตอบให้ชัดทุกขั้นตอน หวั่นซ้ำรอยคดีทุ่งใหญ่ฯ ปี 2516 ชนวนเหตุ '14 ตุลาฯ' - 'วีระ สมความคิด' เชื่อร่องรอยคนทำผิดอยู่ในเอกสาร กมธ.กฎหมายฯ ยุค สนช.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค. สถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) ร่วมกับเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ และคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) จัดเวทีเสวนาสาธารณะ ‘บทเรียนกรณีบอสกระทิงแดง : จะปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมอย่างไรไม่ให้คนผิดลอยนวล’ เพื่อแสดงความคิดเห็นกรณีที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555
@จี้ทุกฝ่ายทำความจริงให้ชัด ห่วงซ้ำรอยคดีทุ่งใหญ่ฯ
นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ต้องเรียกว่าเป็นความอับอาย คับข้อง คุกกรุ่นของทุกคนในสังคม โดยเฉพาะสิ่งที่ตนได้รับรู้รับทราบทั้งการรับรู้แบบเป็นทางการและรับรู้แบบไม่เป็นทางการ ทำให้เกิดอีกคำหนึ่งขึ้นมาว่า รู้สึกสะอิดสะเอียน เพราะปัญหานี้ได้สั่นสะเทือนไปถึงรากฐานของสังคมไทย และระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยด้วย เนื่องจากสถานการณ์เวลานี้มีความขัดแย้งใหม่เกิดขึ้นอีกมิติหนึ่ง คือการเคลื่อนไหวชุมนุม ที่ทำให้เห็นภาพความขัดแย้งของคนสองรุ่น และทำให้คิดถึงเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 ที่ก่อนหน้านั้นมีคดีทุ่งใหญ่นเรศวร จนกระทั่งปะทุลุกลามจนเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในปีนั้น
ดังนั้นผู้ถือครองอำนาจรัฐเวลานี้ ควรที่จะต้องดำเนินการทุกขั้นตอนเพื่อให้นำไปสู่การตอบคำถามของสังคมให้ได้ อย่างไรก็ตนเห็นว่า ผู้ถือครองอำนาจรัฐเวลานี้ได้ตอบคำถาม และแก้ปัญหาไปแล้วอย่างน้อย 2 ประการ 1.ตั้งคณะกรรมการระดับชาติ ที่มีนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธาน ซึ่งหลายคนเชื่อมั่นในตัวนายวิชาอยู่แล้ว และ 2.กรณีมีสั่งอายัดศพ นายจารุชาติ มาดทอง พยานคนสำคัญในคดีนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีได้ยินและรับรู้ความสำคัญของประเด็นเหล่านี้ และเห็นว่าสิ่งที่ควรจะทำต่อไปในอนาคตคือการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ที่อาจเริ่มต้นจากการเร่งส่งร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และ ร่าง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญา เข้าสู่การพิจารณาของสภา เพื่อนำไปสู่การเดินหน้าปฏิรูปทั้งระบบต่อไป
“เรายังไม่ได้สรุปว่าเหตุการณ์เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่เพื่อคลายความข้องใจของสังคม ผู้ครองอำนาจปัจจุบันได้ดำเนินการไปแล้ว 2 ขั้นตอน ทั้งนี้หากในอนาคตผู้ครองอำนาจรัตอบคำถามสังคมได้ไม่เคลียร์ ก็เชื่อว่าอาจจะเป็นชนวนของสิ่งที่ใหญ่กว่าเรื่องนี้ ส่วนจะเกิดอย่างไร หรือเกิดขึ้นหรือไม่ เป็นสิ่งที่ตัวผมเองก็ไม่อาจจะพยากรณ์ได้เช่นกัน” นายคำนูณ กล่าว
เช่นเดียวกับ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า กรณีของนายวรยุทธ เป็นปัญหาบนยอดภูเขาน้ำแข็ง ที่เป็นอีกครั้งที่มีการสะท้อนให้เห็นปัญหาในระบบอุปถัมภ์ และเป็นเรื่องที่กลายเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะเวิลด์ ไปแล้ว โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับความเห็นของนายคำนูณ เรื่องกรณีคดีทุ่งใหญ่นเรศวรเมื่อปี 2516 ที่จะสุดท้ายกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายของปัญหา และสาระสำคัญของการชุมนุมในเวลานั้น ก็ไม่ได้มีแค่การเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ประเด็นสำคัญคือการรับไม่ได้กับปัญหาทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นมากกว่า
“ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงอยากขอให้ผู้เกี่ยวข้อง อย่าเสียสละระบบเพื่อบุคคลบางกลุ่ม และควรที่จะทำให้สิ่งที่ประชาชนเห็นว่าเป็นปัญหาต้องได้รับการแก้ไข ทำให้ความจริงปรากฏ แต่ถ้าพยายามจะกลบสิ่งเหล่านี้ไปเรื่อยๆ สิ่งนี้อาจจะกลายเป็นระเบิดที่พร้อมจะระเบิดขึ้นมาได้ช่วงใดช่วงหนึ่ง โดยเฉพาะเวลาที่มีวิกฤติในสังคมไทยขณะนี้” นางสาวรสนา กล่าว
@ขออย่าตื่นตระหนกกฎหมายเปิดช่องยื่นรื้อคดีได้
นายน้ำแท้ มีบุญสล้าง อัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า สิ่งที่ปรากฏเป็นข่าว ทำให้เห็นว่า เมื่อก่อนยังพบปัญหาแค่การบิดเบือนกฎหมาย แต่วันนี้เราเดินทางมาถึงขั้นบิดเบือนวิทยาศาสตร์กันแล้ว ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไปกันใหญ่ เพราะแม้แต่ความเร็วของรถก็บิดเบือนกันได้ ทั้งนี้หากเราปล่อยให้คดีที่ไม่มีความชัดเจนในเรื่องพยานหลักฐานขึ้นไปสู่ศาลจะเกิดอะไรขึ้น อาจเกิดการยกฟ้อง และกลายเป็นเรื่องฟอกขาวให้บุคคล
“ที่ผ่านมาหลายคดีพยายามที่จะดิ้นเพื่อไปถึงการพิสูจน์กันในศาล แต่ความจริงถ้าพยานหลักฐานไม่ชัดเจน ก็จะกลายเป็นการฟอกขาว อย่างการสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้ ถ้าพรุ่งนี้เรามีหลักฐานใหม่ เป็นสิ่งที่ไม่เคยอยู่สำนวน กฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 147 ก็ให้รื้อคดีได้แล้ว ดังนั้นอย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจกัน” นายน้ำแท้ กล่าว
ส่วน นายนคร ชมพูชาติ ทนายความสิทธิมนุษยชน และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ กล่าวว่า การรื้อฟื้นคดีใหม่ยังคงเป็นแนวทางที่สามารถทำได้ และไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ว่า ต้องมีการค้นพบพยานหลักฐานใหม่เสียก่อน สำหรับกรณีของนายวรยุทธ เกิดความไม่มั่นใจสังคมว่า ไม่ว่าจะตำรวจหรืออัยการ จะขวนขวายหาหลักฐานใหม่กันหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าจับตาดูกันอย่างใกล้ชิด
@พยานบุคคลผิดพลาดคลาดเคลื่อนสูง - ชวนสังคมช่วยคำนวณความเร็วรถ
ขณะที่ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า สถานการณ์เวลานี้ กระบวนการยุติธรรมกำลังถูกท้าทาย และต้องเรียกว่าเป็นความยุติธรรมที่อำมหิตที่สังคมรับรู้กันมานานสำหรับคนจน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นเวลานี้ ทำให้เห็นความฉ้อฉลคนละไม้คนละมือของผู้เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีอัยการอาจจะเป็นแค่จิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายก็ได้ เพราะเมื่อย้อนดูคดีนี้จะพบความผิดปกติหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการรอ 10 ชั่วโมงเพื่อตรวจร่างกาย ทั้งที่อ้างเหตุจำเป็นเร่งด่วนก็ค้นบ้านและตรวจร่างกายได้ตั้งแต่แรก ยังไม่นับรวมกับกรณีคำนวณความเร็วรถ หรือแม้กระทั่งการเชื่อคำให้การจากพยานบุคคลที่เป็นรับรู้กันทั่วไปว่ามีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนสูง
“พยานบุคคลอันตรายมาก แม้จะสอบปากคำโดยสุจริตก็ผิดพลาดได้ หากไม่สุจริตก็ยิ่งไปกันใหญ่ อย่างกรณีนายวรยุทธ ผมดูภาพจากกล้องวงจรปิด ก็ได้แต่สงสัยว่าว่ามีรถอยู่ไม่กี่คัน เห็นรถแท็กซี่ขับถัดตามหลังจากรถของนายวรยุทธ นี่อาจหมายความว่า พยานที่เป็นมียศ พล.อ.ท. จะต้องขับแท็กซี่อยู่หรือไม่ ถึงจะเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว” พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าว
พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวอีกว่า ส่วนการคำนวณความเร็ว ควรจะยุติไปแล้วตั้งสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (พฐ.) คำนวณได้ 177 กม./ชม. ส่วนใครจะนำสูตรคำนวณอื่น มาคิดคำนวณใหม่ ควรเป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากันในศาล และการไม่เชื่อผลคำนวณของเจ้าหน้าที่ แต่ไปเชื่อผลคำนวณของนักวิชาการคนหนึ่ง ที่บอกว่าความเร็วรถไม่ถึง 80 กม./ชม. ถ้าความจริงเป็นเช่นนั้น เห็นว่าคงต้องยุบ พฐ.กันเลยหรือไม่ เพราะคำนวณคลาดเคลื่อนกันเช่นนี้
ด้าน พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธุ์ ส.ส.ก้าวไกล และอดีตเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานคดีนายวรยุทธ กล่าวว่า สิ่งที่น่าเชื่อถือในการทำคดีต่างๆ คือพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และถือว่ามีความสำคัญมากกว่าพยานบุคคลที่จะให้การอย่างไรก็ได้ ซึ่งตนเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ได้คำนวณความเร็วขณะเกิดเหตุ ก็พบว่าผลคำนวณได้ 177 กม./ชม. บวกลบไม่เกิน 17 กม./ชม. และปัจจุบันภาพจากกล้องวงจรปิดก็ถูกเปิดเผยอยู่ในสังคม นับเป็นพยานหลักฐานที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตามที่มีความรู้ทางด้านฟิสิกส์ ก็สามารถหยิบขึ้นมาคำนวณใหม่ได้
@'วีระ'ชี้ช่องกล่องดำคดีบอส จี้ขอดูเอกสารทั้งหมดของ กมธ.กฎหมายฯ สนช.
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า หลังสำนักข่าวต่างประเทศรายงานเรื่องของนายวรยุทธ ตนได้รับโทรศัพท์จากอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่เอาข้อมูลมาให้ จึงเป็นที่มาของเปิดเผยเอกสารสำคัญหลายฉบับในเฟซบุ๊กส่วนตัว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า มีความพยายามช่วยนายวรยุทธ ตั้งแต่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการส่งพ่อบ้านมารับผิด ตลอดจนข้อมูลสำคัญหลายเรื่องหายไปจากคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ นอกจากนั้ยังมีความพยายามร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง ที่ก่อนหน้านี้อัยการไม่ได้รับไว้พิจารณา เพราะไม่ปรากฏหลักฐานใหม่ จึงเป็นที่มาของการใช้ช่องทาง กมธ.กฎหมายฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
“ก่อนหน้านี้ผมเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่า กล่องดำของคดีนี้อยู่ที่ กมธ.กฎหมายฯ สนช. ต้องไปเรียกดูเอกสารให้หมด ผมเชื่อว่ามีร่องรอยอยู่ในนั้น และเป็นกระบวนการในการตามหาคนผิด ส่วนเรื่องคดีของนายวรุยทธ เราไม่ต้องไปทำอะไร เพราะคำสั่งไม่ฟ้องนั้นไม่ชอบ เพราะไม่มีพยานหลักฐานใหม่ เมื่อไม่ชอบก็ไม่มีผล ดังนั้นคำสั่งฟ้องของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ยังสมบูรณ์อยู่ เพียงแต่เราต้องไปหาคนผิดให้ได้ว่า ขบวนการสมคบคิดและวางแผนนี้ ใครอยู่เบื้องหลัง” นายวีระ กล่าว
อ่านประกอบ
ญาติ 'จารุชาติ' เซ็นยินยอมส่งศพไปชันสูตรที่เชียงใหม่แล้ว- ส.ว.สมชาย ชงกมธ.สอบ 3 ส.ค.นี้
‘วิชา’รับเสนอนายกฯอายัดศพ‘จารุชาติ’-เผยกรอบทำงาน กก.สอบฯคดี‘บอส’ 30 วันอาจไม่พอ
INFO : สรุปคดี 'บอส อยู่วิทยา' ก่อนอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง
ไม่มีอำนาจบงการ!'ธานี' ย้ำ กมธ.ยุค สนช.แค่ศึกษา-หาข้อเท็จจริง ปัดสอบพยานใหม่คดี'บอส'
ข้อมูลลับที่มา 'จารุชาติ' พยานคดี 'บอส' เคยเข้าให้การตั้งแต่ 3 วันแรกหลังเกิดเหตุแล้ว
ตายเพราะอุบัติเหตุกะทันหัน! ‘จารุชาติ มาดทอง’ พยานปากเอก พลิกคดี ’บอส อยู่วิทยา’
ฉบับเต็ม! สำนวนลับอัยการสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ พยาน 2 รายใหม่ อ้างขับรถแค่ 50-60กม.
เปิดอาณาจักร 62 บ.‘อยู่วิทยา’ ปี 62 ‘ที.ซี.ฟาร์มาฯ-กระทิงแดง’รายได้ 4 หมื่นล.
คำสั่งชอบหรือไม่-เหตุผลอะไร!คณะทำงานฯอัยการตั้ง 3 ประเด็นสอบปมไม่สั่งฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’
โชว์คำสั่ง อสส.ตั้งคณะทำงานสอบปมสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ - 'ปรเมศว์' ร่วมทีมด้วย
วงศ์สกุล'ตั้งทีม อสส.สอบปมสั่งไม่ฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’-'บิ๊กตู่'ไม่สบายใจ สั่งเกาะติดคดี
มูลนิธิเมาไม่ขับจี้ อสส.-ผบ.ตร.! ชี้แจงหลักการ-เหตุผลไม่สั่งฟ้อง‘วรยุทธ อยู่วิทยา’
โชว์หนังสืออัยการสั่งไม่ฟ้อง‘บอส อยู่วิทยา’ผบ.ตร.ไม่แย้ง-สตช.ยื่นศาลถอนหมายจับ
อสส. แจงอิศรายังไม่ทราบเรื่อง! ซีเอ็นเอ็น ตีข่าว 'อัยการ' ไม่สั่งฟ้อง 'บอส อยู่วิทยา'
ป.ป.ช.ฟันวินัยไม่ร้ายแรงอดีต‘ผบก.น.5-พวก’ปมช่วยเหลือ-ไม่ออกหมายจับ‘บอส กระทิงแดง’
ทายาทกระทิงแดงขอสอบพยานเพิ่มทำคดีขับชน ตร.ตายช้า! อสส.เร่งส่งฟ้องศาล
ไทม์ไลน์ทายาท‘กระทิงแดง’ขอเลื่อนพบอัยการ 7 ครั้งก่อนจ่อถูกหมายจับ?
เจาะอาณาจักรธุรกิจหมื่นล.‘อยู่วิทยา’ -‘วรยุทธ’กก. 3 บริษัทรายได้รวม 914 ล
ตามหาพยาน 6 ปาก คดี'บอส'! อิศรา ได้คุย'สมยศ' แล้ว ยังไม่ขอตอบปมคำนวณความเร็วเฟอร์รารี่
เปิดตัว 6 พยาน อัยการ-ตร.อ้างเป็นเหตุกลับคำสั่งไม่ฟ้อง 'บอส กระทิงแดง'
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage