'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดสะสมทะลุ 14.1 ล้าน - 'ทรัมป์'ยันไม่สั่ง ปชช.ใส่หน้ากาก อ้างขัดหลักเสรีภาพ- 'WHO' เผย 'บราซิล'เริ่มคุมไวรัสอยู่แล้ว หลังไม่มีตัวเลขทวีคูณ-'รัสเซีย' ยันมีความร่วมมือกับ บ.อังกฤษไม่จำเป็นต้องแฮกข้อมูลวัคซีน -'ฮ่องกง' หวั่นเจอโควิดระลอก 3- รบ.ญี่ปุ่น ขอโทษ ปชช.โตเกียว หลังตัดออกจากโครงการท่องเที่ยวในประเทศ-ล่าสุดนายกฯ'ออสเตรเลีย'ขอเลื่อนประชุมสภา หลังผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 400 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 18 ก.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 14,172,284 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 232,936 ราย เสียชีวิต 598,362 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,380 ราย
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 3,763,977 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 68,952 ราย เสียชีวิต 141,930 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 812 ราย
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐฟลอริดา มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 11,466 ราย
ส่วนที่ทำเนียบขาว มีรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศว่าจะไม่มีการออกคำสั่งบังคับชาวอเมริกันทุกคนต้องใส่หน้ากากเพื่อควบคุมโรคแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าประชาชนนั้นควรจะต้องมีอิสรภาพในการตัดสินใจ
อนึ่ง การให้สัมภาษณ์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่นายนายแอนโทนี่ ฟาวซี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐ หนึ่งในคณะทำงานพิเศษเพื่อต่อต้านโรคระบาดของทำเนียบขาวออกมาเรียกร้องให้ผู้ว่าการรัฐและผู้นำท้องถิ่นต่างๆให้พยายามออกมาตรการในลักษณะบังคับให้ประชาชนสหรัฐฯสวมใส่หน้ากากให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อระงับการระบาดของไวรัส
สำหรับสถานการณ์ในประเทศเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 324,041 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 6,406 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 37,574 ราย เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 668 ราย
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 2,048,697 ราย ติดเชื้อใหม่ 33,959 ราย เสียชีวิต 77,932 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,110 ราย ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตใหม่เป็นอันดับ 1 ของโลก
อย่างไรก็ตาม ทางองค์การอนามัยโลกหรือ WHO โดยนายไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินของ WHO ได้ออกมาประกาศว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศบราซิล ณ เวลานี้นั้น ไม่พบการเพิ่มขึ้นของตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในรูปแบบตัวเลขยกกำลัง 2 แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีในการควบคุมการระบาดของไวรัสในประเทศ
นายไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินของ WHO (อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.who.int)
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 759,203 ราย ติดเชื้อใหม่ 6,406 ราย เสียชีวิต 12,123 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 186 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวในประเทศรัสเซีย กองทุนความมั่งคั่งของประเทศรัสเซียได้เปิดเผยว่า ณ เวลานี้ประเทศรัสเซียมีข้อตกลงร่วมกันกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาวัคซีนต้านโควิด 19 ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด
ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่ทางประเทศรัสเซียจะต้องไปขโมยข้อมูลวัคซีนจากต่างประเทศตามที่ถูกกล่าวหามาแต่อย่างใด
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในสหภาพยุโรปหรืออียู มีรายงานว่าขณะนี้สหภาพยุโรปกำลังเจรจาต่อรองกับบริษัทที่พัฒนาวัคซีนได้แก่บริษัทมอร์เดอร์นา บริษัทซาโนฟี่ บริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน บริษัทไบอนเทค และบริษัทเคียวแวค เพื่อจะจัดซื้อวัคซีนที่กำลังพัฒนาล่วงหน้าถ้าหากวัคซีนได้รับการอนุมัติแล้ว
ขณะที่ประเทศสเปน ทางการของแคว้นกาตาลุญญาได้ออกประกาศให้ประชาชนในแค้วนกว่า 4 ล้านคน อยู่แต่ในบ้านเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโควิดในแคว้นเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
อนึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่าที่แคว้นอารากอน เจ้าหน้าที่ทางการได้เปิดเผยว่าจะมีการฆ่าตัวมิงค์ในฟาร์มมิงค์ประมาณ 92,700 ตัว หลังจากตรวจพบว่ามีมิงค์ติดเชื้อ COVID-19 มากถึงร้อยละ 87
สำหรับยอดติดเชื้อใหม่ของประเทศสเปนใหม่ของสเปน ณ เวลานี้อยู่ที่ 1,400 ราย
ทวีปเอเชียอินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,040,457 ราย ติดเชื้อใหม่ 34,820 ราย เสียชีวิตสะสม 26,285 ราย เสียชีวิตใหม่ 676 ราย
สำหรับ ประเทศจีน มีการระบาดใหม่จำนวน 10 ราย โดยเป็นการระบาดจากต่างประเทศจำนวน 9 ราย และอีก 1 รายเป็นการระบาดในประเทศในเขตพื้นที่ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และยังพบผู้ติดเชื้อประเภทไม่แสดงอาการในเขตปกครองดังกล่าวอีกอย่างน้อย 11 ราย
ทำให้ทางการจีนต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินจำนวนหลายร้อยเที่ยวบินที่จะบินตรงไปยังเมืองอุรุมชี เมืองหลวงของเขตปกครองซินเจียง
ขณะที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 58 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีความกังวลว่าอาจจะเกิดการระบาดระลอกใหม่หรือการระบาดระลอก 3 ในพื้นที่เศรษฐกิจของฮ่องกง
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 594 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 293ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในกรุงโตเกียว
โดยทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศถึงโครงการสนับสนุนให้ประชาชนในประเทศญี่ปุ่นท่องเที่ยวในประเทศตัวเอง (Go To Travel Campaign) ว่าจะยังคงดำเนินโครงการต่อไป แต่จะไม่รวมพื้นที่โตเกียว
ซึ่งทางด้านของนายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้กล่าวขอโทษชาวโตเกียวที่วางแผนการท่องเที่ยวเอาไว้แล้ว และยอมรับว่าผู้ที่ยกเลิกการจองห้องพักอาจจะไม่ได้เงินคืนเต็มจำนวน
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ในภูมิภาค มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 83,130 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,462 ราย เสียชีวิตสะสม 3,957 ราย เสียชีวิตใหม่ 84 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนที่ประเทศฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,841 ราย ทำให้ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทยนั้น ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 18 ราย และกัมพูชามีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 337,594 ราย ติดเชื้อใหม่ 13,373 ราย เสียชีวิต 4,804 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 135 ราย
ส่วน อียิปต์ มีผู้ติดเชื้อสะสม85,771 ราย ติดเชื้อใหม่ 928 ราย เสียชีวิต 4,120 ราย เสียชีวิตใหม่ 53 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวในภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 438 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 428 ราย รัฐนิวเซาท์เวลส์ 8 ราย
เบื้องต้น มีรายงานว่านายสก็อต มอริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรออสเตรเลียเพื่อจะขอให้เลื่อนการเปิดสมัยประชุมรัฐสภาแล้ว โดยกล่าวในหนังสือไม่อาจจะยอมรับความเสี่ยง ที่มาจากการประชุมรัฐสภาได้
ขณะที่ นิวซีแลนด์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage