สปสช.รับนโยบาย อนุทิน เร่งสางเอาผิด พร้อมจัดระบบป้องกันทุจริตเบิกจ่ายเงินกองทุนบัตรทอง เผยคกก.สอบข้อเท็จจริง 18 คลินิกเบิกงบ 74 ล้าน ประชุมนัดแรกวันนี้
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2563 นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า วานนี้ (13 ก.ค.) ตนและทีมผู้บริหาร สปสช.ได้เข้าร่วมประชุมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ทำเนียบรัฐบาล กรณีที่ สปสช.ตรวจพบการทุจริตการเบิกจ่ายเงินค่าบริการคัดกรองโรคในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ของคลินิกเอกชน 18 แห่ง ในพื้นที่ กทม. โดย สปสช.ได้รับเงินจากการเรียกคืนแล้วกว่า 60 ล้านบาท พร้อมกันนี้ได้ดำเนินการตามกฎหมายทั้งในคดีแพ่งและอาญา
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า การประชุมวานนี้ ท่านรองนายกฯ ได้กำชับ สปสช.ให้เร่งรัดดำเนินการอย่างโปร่งใส และชี้แจงกับประชาชนทุกขั้นตอน ซึ่งขณะนี้ สปสช.ได้ยกเลิกสัญญากับคลินิกทั้ง 18 แห่งแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ในส่วนของประชาชนที่ขึ้นทะเบียนคลินิกดังกล่าว ก็ดำเนินการจัดหาหน่วยบริการแห่งใหม่รองรับไว้แล้ว ด้านการดำเนินคดี ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2563 พร้อมส่งเอกสารหลักฐานการทุจริตดังกล่าวเพื่อให้กองบังคับการปราบปรามดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และวันนี้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวที่มี นายจิรวุสฐ์ สุขได้พึ่ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธาน จะประชุมครั้งแรก เพื่อพิจารณารายละเอียดของปัญหาอย่างเป็นระบบ การบริหารจัดการภายในของ สปสช. รวมทั้งระบบการตรวจสอบการเบิกจ่ายค่าบริการและคุณภาพบริการ เพื่อป้องกันการทุจริตในการเบิกจ่าย และเพื่อดูว่ามีจุดใดที่ต้องพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติม และจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาการดำเนินงานต่อไป
เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า การดำเนินการทั้งหมด สปสช.จะรายงานให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากนี้จะมีการจัดทำ Facebook Live เพื่อรายงานความคืบหน้าการดำเนินให้สังคมได้รับทราบเป็นประจำ และเปิดให้ประชาชนแจ้งข้อร้องเรียนร้องทุกข์เข้ามาเพื่อการดำเนินการต่อไป