'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดสะสม 12.6 ล้าน ติดเชื้อวันเดียวทะลุ 2 แสน - ผอ.สถาบันโรคติดเชื้อสหรัฐฯ ชี้ ฟลอริดา สถานการณ์แย่ เหตุยกเลิกมาตรการปิดเมืองเร็วเกินไป แฉไม่ได้รายงานสถานการณ์ระบาดให้ 'ทรัมป์' มา 2 เดือนแล้ว- 'WHO' จับตาผลกระทบโควิดผู้หญิงตั้งครรภ์ใกล้ชิด - 'ฝรั่งเศส' ยอดตายสะสมทะลุ 2 หมื่น - 'โตเกียว'จ่าย 5 แสนเยน ให้ธุรกิจกลางคืนหยุดกิจการ หลังยอดโคสิดรายวันพุ่ง 243 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 11 ก.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 12,604,913 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 225,252 ราย เสียชีวิต 561,778 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,155 ราย
ส่วนสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 3,285,568 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 65,569 ราย เสียชีวิต 136,570 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 748 ราย
สำหรับรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯคือ รัฐฟลอริดา มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 11,433 ราย
โดยนับตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.เป็นต้นมา เป็นช่วงเวลาที่ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในสหรัฐฯพุ่งสูงอีกครั้ง พร้อมกับที่หลายรัฐได้ทยอยผ่อนปรนมาตรการการเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด 19
ขณะที่ นพ.แอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐฯ หนึ่งในคณะทำงานพิเศษรับมือวิกฤตโควิด-19 ประจำทำเนียบขาว ให้ส้มภาษณ์เน้นย้ำว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐฟลอริดานั้นมาจากการที่รัฐได้ผ่อนปรนมาตรการในการเฝ้าระวังไวรัสโควิด 19 เร็วเกินไป
นพ.ฟาวซี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับตัวเขานั้นไม่ได้บรรยายสถานการณ์การระบาดให้กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้รับทราบแบบตัวต่อตัวมาเป็นระยะเวลา 2 เดือนแล้ว และยังไม่เคยเจอกับนายทรัมป์ นับตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมาเขาสื่อสารกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยการส่งข้อความรายงานสถานการณ์เท่านั้น
ส่วนความเคลื่อนไหว ของ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO โดยนางมาเรีย แวน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าฝ่ายโรคติดเชื้ออุบัติใหม่และโรคติดต่อของ WHO ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทาง WHO จะเฝ้าติดตามผลกระทบของไวรัสโควิด 19 ที่มีต่อผู้หญิงตั้งครรภ์อย่างใกล้ชิด หลังจากที่ เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯหรือซีดีซี ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และติดเชื้อโควิด 19 มีแนวโน้มที่จะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และต้องอยู่ในห้องรักษาพยาบาลที่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดหรือห้องไอซียูมากกว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
นางมาเรีย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่พบความแตกต่างของอาการป่วยระหว่างผู้หญิงที่ตั้งครรภ์กับผู้หญิงที่ไม่ตั้งครรภ์ซึ่งอยู่ในช่วงอายุเดียวกันแต่อย่างใด
นางมาเรีย แวน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าฝ่ายโรคติดเชื้ออุบัติใหม่และโรคติดต่อของ WHO (อ้างอิงรูปภาพจากซีเอ็นเอ็น)
ทวีปอเมริกาใต้ บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 1,800,827 ราย ติดเชื้อใหม่ 41,724 ราย เสียชีวิต 70,398 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,144 ราย ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตใหม่เป็นอันดับ 1 ของโลก
ทวีปยุโรปประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 713,936 ราย ติดเชื้อใหม่ 6,635 ราย เสียชีวิต 11,017ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 174 ราย
ขณะที่ประเทศฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อใหม่ 658 ราย และเสียชีวิตใหม่ 25 ราย จึงทำให้ฝรั่งเศสมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 30,004 ราย ฝรั่งเศสจึงเป็นประเทศลำดับที่ 6 ของโลกที่มีผู้เสียชีวิตเกิน 3 หมื่นราย
ทวีปเอเชียอินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 822,570ราย ติดเชื้อใหม่ 27,728 ราย เสียชีวิตสะสม 22,144 ราย เสียชีวิตใหม่ 521 ราย ส่งผลทำให้ อินเดียยังเป็นประเทศที่ 3 ของโลกที่มีผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 8 แสนราย
สำหรับ ประเทศจีน มีการระบาดใหม่จำนวน 4 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่จากต่างประเทศทั้งหมด
ขณะที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 38 ราย ซึ่งทางการฮ่องกงได้ออกคำสั่งให้ปิดโรงเรียนแล้วนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.เป็นต้นไป
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 430 ราย ซึ่งถือว่าสูงที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมียอดติดเชื้อใหม่อยู่ที่ 432 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 243 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในกรุงโตเกียว
ทั้งนี้ มีรายงานว่าทางการกรุงโตเกียว ได้เริ่มจ่ายเงินให้กับสถานประกอบธุรกิจกลางคืน อาทิ ไนต์คลับ โฮสต์คลับ และโฮสเทสคลับ เป็นจำนวน 5 แสนเยน (146,571 บาท) เพื่อแลกกับการที่ธุรกิจเหล่านี้จะหยุดกิจกรรมเป็นระยะเวลา 10 วัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าการระบาดในกรุงโตเกียวนั้นมีที่มาจากสถานบันเทิงในย่านคาบูกิโจ ชินจูกุ ในกรุงโตเกียว
นอกจากนี้ ทางการญี่ปุ่น ยังได้จ่ายเงินจำนวน 1 แสนเยน (29,301 บาท) ให้กับพนักงานโฮสต์และโฮสเทสที่พบว่าให้บริการลูกค้าซึ่งติดโควิด 19 เพื่อแลกกับการที่พนักงานเหล่านี้ต้องหยุดทำงาน
ย่านสถานกลางคืนในกรุงโตเกียว (อ้างอิงรูปภาพจากเดอะการ์เดี้ยน)
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ในภูมิภาค มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 72,347 ติดเชื้อใหม่ 1,611 ราย เสียชีวิตสะสม 3,469 ราย เสียชีวิตใหม่ 52 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสม และผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทยนั้น ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 13 ราย พม่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 7 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 250,687 ราย ติดเชื้อใหม่ 12,348 ราย เสียชีวิต 3,860 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 140 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวในภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 307 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 288 ราย รัฐนิวเซาท์เวลส์ 14 ราย
ขณะที่ ประเทศนิวซีแลนด์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 2 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage