'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดผู้ติดเชื้อทะลุ 11 ล้าน - 'ฟลอริดา' ติดเชื้อวันเดียวเกิน 9 พันราย ไมอามี่ ประกาศใช้เคอร์ฟิววันชาติสหรัฐหวังลดผู้ติดเชื้อ -'บราซิล'ยอดติดเชื้อสะสมทะลุ 1.5 ล้าน-รมว.ต่างประเทศ ปากีสถานติดโควิดด้วย- ฝรั่งเศส สอบสวนอดีต 'นายกฯ -รมต.' ล็อกโควิดเร็วเกินไป - 'ญี่ปุ่น' ยอดติดเชื้อโควิดใหม่เกิน 254 ราย เล็งแก้กม.เอาผิดสถานประกอบการฝ่าฝืนมาตรการต้านโควิด-ล่าสุด'ฟิลิปปินส์' พบติดเชื้อใหม่เกิน 1,500 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสล่าสุดว่า ในช่วงเช้าวันที่ 4 ก.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 11,176,682 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 203,766 ราย เสียชีวิต 528,333 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,091 ราย
ส่วนสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 2,887,863 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 52,179 ราย เสียชีวิต 132,068 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 583 ราย
โดยรัฐฟลอริดาเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดอยู่ที่ 9,488 ราย
ขณะที่เมืองไมอามี่ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐฟลอริดา ได้มีการออกมาตรการเคอร์ฟิวบังคับใช้อย่างไม่มีกำหนดวัน ตั้งแต่เวลา 22.00 - 06.00 น. โดยมาตรการเคอร์ฟิวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐฯ
สำหรับสถานการณ์โควิด ที่ประเทศเม็กซิโก มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 238,511 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 6,741 ราย เสียชีวิต 29,189 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 679 ราย
ทวีปอเมริกาใต้ บราซิล มียอดผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 1,543,341 ราย ติดเชื้อใหม่ 41,988 ราย เสียชีวิต 63,254 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,264 ราย ทำให้บราซิลมียอดผู้เสียชีวิตใหม่สูงที่สุดในโลก
ทวีปยุโรปประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 667,883 ราย ติดเชื้อใหม่ 6,718 ราย เสียชีวิต 9,859 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 176 ราย
ส่วนสถานการณ์ในประเทศนั้น กระทรวงคมนาคมของรัสเซีย ได้มีการขยายมาตรการห้ามเที่ยวบินจากต่างประเทศเข้าประเทศรัสเซียไปจนถึงวันที่ 1 ส.ค.
ที่ประเทศอังกฤษ มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ล่าสุด 519 ราย แต่อย่างไรก็ตาม นายบอร์ริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังคงยืนยันอนุญาตให้เปิดบริการให้บริการผับ บาร์ และร้านอาหารในวันที่ 4 ก.ค.นี้
ที่ประเทศฝรั่งเศส มีรายงานว่านายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้แต่งตั้งนายฌอง คาสเท็กซ์ (Jean Castex) ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายเอดัวร์ ฟิลิปป์อดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสที่เพิ่งประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยมีรายงานว่าหลังจากการลาออกของนายเอดัวร์พร้อมด้วยรัฐมนตรีอีกหลายคนภายในไม่กี่ชั่วโมง ศาลชำนาญการฝรั่งเศสได้ดำเนินการสอบสวนรัฐมนตรีหลายคนรวมไปถึงนายฟิลิปส์ ในข้อหาดำเนินการปลดล็อกมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 เร็วเกินไป
นายฌอง คาสเท็กซ์ (Jean Castex) นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสคนใหม่ (อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.moroccoworldnews.com)
ทวีปเอเชีย อินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 649,889 ราย ติดเชื้อใหม่ 22,721 ราย เสียชีวิตสะสม 18,669 ราย เสียชีวิตใหม่ 444 ราย
ขณะที่ประเทศปากีสถานมีรายงานว่านายชาห์ มาห์มูด คิเรชิ (Shah Mahmood Qureshi) รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถานได้ออกมาเปิดเผยว่าตัวเขานั้นติดเชื้อโควิด 19 เช่นกัน โดยมีอาการเป็นไข้เล็กน้อย
นายชาห์ มาห์มูด คิเรชิ (Shah Mahmood Qureshi) รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน (อ้างอิงรูปภาพจาก:http://www.silkroadgazette.com/)
ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันของปากีสถานนั้นอยู่ที่ 4,087 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 221,896 ราย
ส่วนที่ประเทศจีน มีการระบาดใหม่จำนวน 5 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศในกรุงปักกิ่ง 2 ราย
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 242 ราย ในจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 124 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในกรุงโตเกียว โดยผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 124 รายนั้น พบว่าจำนวน 97 ราย เป็นผู้ที่อยู่ในช่วงวัย 20-30 ปี
ด้านนางยูริโกะ โคอิเกะ ผุ้ว่าการกรุงโตเกียว ได้แถลงย้ำว่า ตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นเป็นตัวเพราะการตรวจเชิงรุกของทางกรุงโตเกียวที่ต้องการจะหาผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ไปเที่ยวย่านสถานบันเทิง อาทิ โฮสต์และโฮสต์เทสคลับ ในย่านชินจูกุ และมีรายงานว่าขณะนี้ญีปุ่นกำลังทบทวนการแก้ไขกฎหมายเพื่อจะกำหนดบทลงโทษกรณีประกอบการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของภาครัฐในการปิดสถานประกอบธุรกิจ เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาด
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน นั้น อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ในภูมิภาค มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 60,695 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,301 ราย เสียชีวิตสะสม 3,036 ราย เสียชีวิตใหม่ 49 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสม และผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงที่สุดในอาเซียน
ที่ประเทศฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 1,531 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 40,336 ราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวทำให้ฟิลิปปินส์มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทยนั้น ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย ส่วนพม่ามีผู้ติดเชื้อใหม่อีก 2 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 168,061 ราย ติดเชื้อใหม่ 8,728 ราย เสียชีวิต 2,844 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 95 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวในภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 254 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ที่รัฐวิกตอเรีย 66 ราย และอีก 189 รายเป็นผู้ติดเชื้อใหม่บนเรือสำราญเทียบท่าที่ออสเตรเลีย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak,https://www.bbc.com/news/coronavirus
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage