'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสมทะลุ 5.9 ล้าน -'ทรัมป์' ทวิสข้อความเสียใจคนสหรัฐฯ ตายเกิน 1 แสน- 'บราซิล' ติดเชื้อรายวันพุ่ง 24,151 ราย อันดับ 1 โลก - 'อังกฤษ' อนุญาตรวมกลุ่มได้ไม่เกิน 6 คน -'อินเดีย'ติดเชื้อขึ้นอันดับ 1 เอเชีย - 'เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น' ส่อเจอระบาดระลอก 2
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 29 พ.ค.2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meters รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 5,900,907 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 116,304 ราย มีผู้เสียชีวิต 361,549 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,059 ศพ
โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 1,768,461 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22,658 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 103,330 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,223 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้เสียชีวิตสะสมและผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในโลก
ขณะที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ส่งข้อความผ่านทวิตเตอร์แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 หลังจากที่ยอดผู้เสียชีวิตของสหรัฐฯนั้นเกิน 1 แสนศพ โดยยอมรับว่า นี่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างมาก
ทวิตเตอร์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก ยังคงเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 371,559 ราย และมีผู้เสียชีวิต 29,438 ศพ
ส่วนสถานการณ์รอบโลกนั้น ที่ประเทศบราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 438,812 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24,151 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 26,764 ศพ มีตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 1,067 ศพ ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้เสียชีวิตรายวันสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยวันนี้ยังเป็นวันที่ 2 ที่บราซิลมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกแซงหน้าสหรัฐฯ
ที่รัสเซีย มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 379,051 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,371 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,142 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 174 ศพ ทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นอันดับหนึ่งในยุโรป
ที่อังกฤษ มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 269,127 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,887 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 37,837 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 377 ราย ทำให้อังกฤษเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็นอันดับสองของโลก และเป็นอันดับหนึ่งของยุโรป
ขณะที่ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงข่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป ทางการอังกฤษจะอนุญาตให้มีการรวมกลุ่มของประชาชนได้ไม่เกิน 6 ราย ส่วนที่สก็อตแลนด์ จะมีการผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง ในวันที่ 29 พ.ค.นี้
สำหรับสถานการณ์ในเอเชียนั้น สิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 33,249 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 373ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 23 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตใหม่ สิงคโปร์ ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 373 ราย ยังคงเป็นแรงงานต่างชาติ 372 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 24,538 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 687 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,473 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 55 ศพ ทำให้อินโดนีเซียมี ผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสมและรายวันสูงสุดในอาเซียน
ที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 15,588 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 539 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 921 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 17 ศพ
ที่มาเลเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 7,629 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 10 ราย มีผู้เสียชีวิต 115 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่
ที่บังกลาเทศ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 40,321 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 2,029 ราย มีผู้เสียชีวิต 559 ศพ มีผู้ติดเสียชีวิตรายใหม่ 15 ศพ
สำหรับสถานการณ์ในประเทศจีน มีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 82,995 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 4,634 ราย โดยมีรายงานของผู้ติดเชื้อโควิดที่ไม่มีอาการอีก
ที่อินเดีย มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 165,386 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,300 ราย มีผู้เสียชีวิต 4,711 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 177 ศพ
อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา ส่งผลทำให้อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสมขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของทวีปเอเชีย แซงหน้าประเทศตุรกีที่มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้นในวันที่ 28 พ.ค. จำนวน 160,979 ราย
ที่อิหร่าน มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 143,849 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,258 ราย มีผู้เสียชีวิต 7,627 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 63 ศพ
ส่วนที่เกาหลีใต้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 11,344 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 79 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 269 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่
แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อดังกล่าวนั้นถือว่าสูงที่สุดในรอบ 53 วันที่ผ่านมา ทำให้ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ต้องออกมาตรการปิดเมืองและมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มข้นอีกครั้งหนึ่ง โดยมีคำสั่งให้สวนสาธารณะ สวนสนุก และหอศิลป์ทั่วกรุงโซลนั้นปิดทำการเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย นับตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค.เป็นต้นไปและเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบที่ทำการย่อยต่างๆของบริษัท Coupang ซึ่งเป็นบริษัทที่พบตัวพนักงานหญิงซึ่งติดโรคโควิด เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา และแพร่เชื้อต่อไปยังบุคคลอื่นๆอีกอย่างน้อย 36 ราย โดยมีการประมาณการว่าน่าจะมีผู้ติดเชื้อโควิดที่มีต้นตอจากพนักงานหญิงรายนี้มากถึง 86 รายด้วยกัน
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 16,598 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 61 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 881 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 7 ศพ
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นได้ส่งหน่วยงานตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ลงพื้นที่ ณ เมืองคิตะคิวชู ในจังหวัดฟูกูโอกะโดยทันที หลังจากมีรายงานปรากฎว่ามีการติดเชื้อใหม่เกิดขึ้นที่เมืองนี้เป็นจำนวนมากในช่วงวันที่ 28 พ.ค.
โดยทางด้านของนายเคนจิ คิตาฮาชิ นายกเทศมนตรีเมืองคิตะคิวชู ได้ออกคำเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด ระลอกที่ 2 ตามมา จากหลังเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ตรวจพบประชาชนติดเชื้อใหม่จำนวน 22 ราย ทำให้เมืองคิตะคิวชูมีผู้ติดเชื้อที่ยังมีอาการจำนวน 98 ราย ซึ่งใน 22 รายนั้น พบว่าเป็นกลุ่มคนสูงอายุจำนวน 12 ราย ที่ได้ติดเชื้อและมีอาการปอดบวม ซึ่งทางการเมืองคิตะคิวชูจะร่วมมือกับหน่วยงานต่อต้านการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 เพื่อติดตามกิจกรรมของคนสูงอายุทั้ง 12 คนต่อไป
อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีรายงานการติดเชื้อใหม่ ทางการเมืองคิตะคิวชูได้ติดสินใจสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนทั้งสิ้น 43 แห่งในเมือง ซึ่งรวมถึงปราสาทโคคูระเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 18 มิ.ย. หลังจากเพิ่งเปิดสถานที่เหล่านี้ได้ไม่นานในช่วงที่ญี่ปุ่นประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายเคนจิ คิตาฮาชิ นายกเทศมนตรีเมืองคิตะคิวชู (อ้างอิงรูปภาพจาก:https://agbrief.com)
สำหรับสถานการณ์ในยุโรปนั้น ที่สเปน มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 284,986 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,137ราย มีผู้เสียชีวิต 27,119 ศพ มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 ศพ
ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 231,132 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 593 ราย มีผู้เสียชีวิต 33,142 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 70 ศพ ล่าสุดมีรายงานว่าอิตาลีจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากประเทศในภูมิภาคยุโรปเข้าเที่ยวประเทศได้นับตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. เป็นต้นไป
ที่ฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 186,238 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่3,325 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 28,662 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 66 ศพ และจะเริ่มมีการผ่อนปรนโดยเปิดร้านอาหารและสวนสาธารณะในวันที่ 2 มิ.ย.
ที่เยอรมนี มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 181,895 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 607 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 8,533 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 35 ศพ ล่าสุดมีรายงานจากหน่วยงานสาธารณสุขของเยอรมนีระบุว่า พร้อมที่จะรับผู้ป่วยจากประเทศรัสเซียของมารักษาในประเทศเยอรมนีทันทีหากได้รับการร้องขอจากทางกรุงมอสโก ซึ่งเยอรมนีได้เตรียมเตียงแพทย์ไว้ 30,000 เตียง สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว
ส่วนความคืบหน้าประเทศที่สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้มากกว่าจำนวนผู้ป่วยสะสม ณ เวลานี้นั้น ล่าสุดมีรายงานว่าคาซัคสถานสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้ 4,768ราย จากที่มีผู้ป่วยสะสม 4,499 ราย จึงทำให้คาซัคสถาน นับเป็นประเทศที่ 36 ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสอย่างรุนแรง (ติดเชื้อเกิน 1,000 คน) แต่สามารถพลิกสถานการณ์ รักษาผู้ป่วยให้หายได้มากกว่าจำนวนผู้ป่วยที่กำลังป่วยเหลืออยู่ ต่อจากจีน เกาหลีใต้ อิหร่าน ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ไอซ์แลนด์ ไทย เยอรมนี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ลักเซมเบิร์ก สเปน อิรัก อาเซอร์ไบจาน ไอร์แลนด์ อิสราเอล เม็กซิโก โครเอเชีย กรีซ อุซเบกิสถาน ตุรกี อิตาลี ญี่ปุ่น โรมาเนีย ปานามา เช็กเกีย ซาอุดิอาระเบีย สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน ตามที่รายงานข่าวไปก่อนหน้านี้
เรียบเรียงจาก:,https://www.theguardian.com/world,https://www.bbc.com/news,https://mainichi.jp/english/,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://covid19japan.com/,https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-us-cases.html,https://www.straitstimes.com/singapore,https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.themoscowtimes.com/,http://www.arirang.com/News/News_Index.asp,http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20200528000203
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage