‘ประยุทธ์’ แถลงผ่านทีวีพูล เผยเดินสายพบสมาคม-ภาคธุรกิจทั่วประเทศ รับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19 สั่งหน่วยงานรัฐจัดซื้อจัดจ้างจากเอกชนภาค SME ย้ำอยู่ในกรอบกฎหมาย ขอบคุณทุกห้างร้านพร้อมสู้โควิดฯทำให้ผ่อนปรนระยะ 2 ได้-เตรียมปลดล็อกการท่องเที่ยว หน่วยงานรัฐหากจัดสัมมนาให้ใช้พื้นที่โรงแรมกระตุ้นรายได้-แก้ปมแรงงานไม่ได้เงินชดเชย หารือสมาคมชาวนาแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ-ช่วยภาคประมงด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทีวีพูล) กรณีหารือพบกับสมาคมต่าง ๆ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 สรุปได้ว่า วิกฤตโควิด-19 ที่กำลังเผชิญอยู่นี้ ได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ไม่เพียงเป็นวิกฤติด้านสาธารณสุข แต่ยังเป็นวิกฤติที่รุนแรงมากที่ส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของประชาชน ในด้านสาธารณสุข ประเทศไทยประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีและรวดเร็ว หากเปรียบเทียบกับอีกหลายประเทศในโลก
@เดินสายพบสมาคม-ภาคธุรกิจทั่วประเทศ รับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากวิกฤติโควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังมีอีกหนึ่งวิกฤตที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ คือวิกฤตในเรื่องของการขาดรายได้ หาเลี้ยงปากท้องของพี่น้องประชาชน ดังนั้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยจัดการกับวิกฤตเรื่องปากท้อง จึงเดินทางไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ด้วยตัวเอง ในช่วง 2 ถึง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เน้นสมาคมที่เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก และคนทำมาหากินทั่วประเทศ เป็นสมาคมที่อาจจะไม่มีโอกาสได้พบปะมาก่อน แต่รู้ว่าเป็นภาคธุรกิจที่เจ็บปวดมากที่สุดจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น การที่ไปพบสมาคมภาคธุรกิจต่าง ๆ ด้วยตัวเอง โดยขอให้ทุกคนเล่าความเดือดร้อน รวมทั้งแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ให้ทราบ เพราะต้องการรับฟังโดยตรง เพื่อเข้าใจความเดือดร้อนที่แท้จริงที่เกิดขึ้น โดยเป้าหมายคือ หาวิธีแก้ปัญหาตรงหน้าที่จะสามารถทำได้ทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะสั้นก่อน
"ผมได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่างมากจากสมาคมต่าง ๆ การไปพบสมาคมภาคธุรกิจ ยังทำให้ผมได้รับกำลังใจกลับมาด้วย เมื่อผมได้เห็นว่า มีผู้มีความรู้ความสามารถมากมาย ที่เชี่ยวชาญและรู้ชัดว่า ต้องทำอย่างไรกับภาคธุรกิจของตัวเอง และสิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้น คือเค้าเหล่านั้นมีความรักความห่วงใยประเทศ เค้าไม่เพียงขอความช่วยเหลือให้กับภาคธุรกิจของตัวเอง แต่เค้ายังได้นำเสนอสิ่งที่จะดีสำหรับประเทศชาติด้วย วันนี้ ผมขอรายงาน ผลที่ได้จากการไปพบปะหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่าง ๆ มีหลายอย่างที่ผมได้สั่งการให้เกิดขึ้นแล้ว และอีกหลายอย่างที่ผมตัดสินใจแล้วว่า จะผลักดันให้เกิดขึ้น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
@สั่งหน่วยงานรัฐจัดซื้อจัดจ้างจากเอกชนภาค SME ย้ำอยู่ในกรอบกฎหมาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ประการแรก ได้สั่งการในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จะเป็นนโยบายกำหนดโควตาของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างที่ตั้งไว้แล้ว ต้องไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมไปถึงผู้ประกอบการเล็ก ๆ ในท้องถิ่นต่าง ๆ โดยพิจารณาให้อยู่ในกรอบของข้อกฎหมาย หมายความว่า เงินจะถูกกระจายออกไปเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจรากหญ้า ผู้ประกอบการขนาดเล็ก และกลุ่ม SME ทั่วประเทศ โดยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานรับรองตามกฎหมาย โดยจะต้องจัดทำบัญชีผลิตภัณฑ์ขึ้นทะเบียนให้ทราบล่วงหน้า เพื่อพิจารณา เช่น การขึ้นบัญชีนวัตกรรมที่ดำเนินการมาแล้ว
“เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่สั่งการ เกิดขึ้นจริง ตนจะติดตามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง โดยได้สั่งการให้หน่วยงานภาครัฐทำรายงานให้รับทราบตอนสิ้นปี นอกจากนั้นอยากขอความร่วมมือจากบริษัทขนาดใหญ่ต่าง ๆ หากท่านต้องซื้อของ หรือใช้บริการอะไร ขอให้ท่านช่วยกันสั่งซื้อของ และใช้บริการจากผู้ประกอบการ SME ในประเทศของเรา เนื่องจากกลุ่ม SME ได้สร้างงานสร้างอาชีพให้กับพี่น้องมากกว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ และเป็นฟันเฟืองที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
@ขอบคุณทุกห้างร้านพร้อมสู้โควิดฯทำให้ผ่อนปรนระยะ 2 ได้-เตรียมปลดล็อกการท่องเที่ยว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ประการที่ 2 ผลจากการหารือกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ทราบว่า สถานที่ค้าขายต่าง ๆ รวมทั้งศูนย์การค้า ห้างร้าน ต่างต้องการให้รีบเปิดสถานที่ค้าขายโดยเร็วที่สุด เพื่อกลับมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง โดยตัวแทนของภาคธุรกิจได้เล่าถึงวิธีการ และความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ห้างร้านต่าง ๆ ได้เตรียมการกันไว้อย่างเข้มงวด ทำให้สบายใจในระดับหนึ่ง จึงทำให้เริ่มเปิดห้างร้านต่าง ๆ ได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขอขอบคุณสำหรับการลงทุนและความเข้มงวด ที่ทุกคนพยายามช่วยกันดูแลรักษาสุขอนามัยให้ได้อย่างเหมาะสม และประการที่ 3 ในส่วนของภาคการท่องเที่ยว บอกกับตนชัดเจนว่าต้องการให้นักท่องเที่ยวกลับมาโดยเร็ว ประเด็นนี้จึงอยากบอกกับทุกคนว่ารับทราบ และเข้าใจความต้องการ และจะดำเนินการตามที่เสนอ
"เมื่อผมเห็นว่า ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดโควิด ลดลงไปอยู่ในระดับที่เราจะยอมรับความเสี่ยงนั้นได้ เพราะสิ่งที่เราต้องระมัดระวังอย่างมากก็คือ ถ้าเราเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยได้เร็วเกินไป หากนำเชื้อโควิดเข้ามาด้วย ทุกอย่างที่เราทำมาได้ดีทั้งหมดจะเสียเปล่า แล้วเราจะต้องกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ ปิดทุกอย่างอีกครั้ง ซึ่งนั่นจะเป็นหายนะอย่างแท้จริงสำหรับทุกคนในประเทศ นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หาจุดสมดุลของการดูแลเรื่องสาธารณสุข และการช่วยเหลือเรื่องการทำมาหากินของประชาชน ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่า ผมนึกถึงพี่น้องนับล้าน ๆ คนที่ต้องพึ่งพา หารายได้จากธุรกิจท่องเที่ยว อยู่ตลอด"นายกฯ กล่าว
@หน่วยงานรัฐหากจัดสัมมนาให้ใช้พื้นที่โรงแรมกระตุ้นรายได้-แก้ปมแรงงานไม่ได้เงินชดเชย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประการที่ 4 ได้สั่งการและสนับสนุนให้หน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐพิจารณาการใช้งบประมาณที่มีอยู่แล้วสำหรับการจัดประชุมสัมมนา ขอให้ออกไปใช้สถานที่ หรือโรงแรมในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยหวังว่านี่จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยกำชับด้วยว่า ขอให้เลือกใช้โรงแรมที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ประการที่ 5 จากการหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่าง ๆ ทำให้รับทราบว่า มีแรงงานในบางภาคธุรกิจ และในบางพื้นที่ ซึ่งนายจ้างจำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราว แต่แรงงานกลับไม่ได้รับเงินชดเชยประกันสังคม อาจจะด้วยปัญหาความไม่ชัดเจนในวิธีการพิจารณาและวิธีปฏิบัติ เมื่อทราบข้อเท็จจริง และพิจารณาเหตุผลต่าง ๆ แล้ว เห็นด้วยว่าเป็นประเด็นที่ต้องรีบแก้ไข จึงได้สั่งการและขณะนี้ได้ดำเนินการให้มีความชัดเจนแล้ว ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และแรงงานก็ได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคม
@หารือสมาคมชาวนาแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ-ช่วยภาคประมงด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ประการที่ 6 เป็นผลมาจากการหารือกับสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้รับทราบถึงสิ่งที่เกษตรกรกังวลใจมากที่สุด มากกว่าโควิด-19 นั่นคือ ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ จึงได้สั่งการไปแล้วว่าให้หาวิธีการรับมือกับสถานการณ์น้ำในช่วงนี้ก่อนโดยทันที ขอแจ้งให้ทราบว่า จากข้อมูลและข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์จากสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ขณะนี้ตัวแทนชาวนาและเกษตรกรกำลังจัดทำแผนปฏิบัติที่ตรงจุด โดยจะนำเสนอให้พิจารณาเร็ว ๆ นี้ และจะมารายงานให้ทุกคนทราบในโอกาสต่อไป และประการที่ 7 จากที่ได้ไปพบและหารือกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ได้นำเสนอข้อมูลและข้อเสนอแนะที่สำคัญให้ตนทราบ เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาในระยะยาวของภาคการประมง และสั่งการให้ตั้งทีมทำงานขึ้นมา เพื่อช่วยกันคิดวิธีแก้ปัญหา แล้วรายงานให้ทราบโดยตรง สิ่งสำคัญที่สุด คือ จะเชิญตัวแทนจากสมาคมประมง ทั้งประมงพาณิชย์ และ ประมงพื้นบ้าน เข้ามานั่งเป็นทีมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐด้วย เพื่อให้เราได้ยินเสียงจากคนที่ทำมาหากินอยู่ในอาชีพจริง ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทำให้เราหาวิธีแก้ไขปัญหา ได้อย่างถูกต้อง ตรงจุดและรวดเร็ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/