'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสมเฉียด 5.3 ล้าน -'ทรัมป์' สั่งผู้ว่าการรัฐเปิดโบสถ์สุดสัปดาห์นี้ ไม่ทำตามขู่ปลด แม้ รธน.ไม่ให้อำนาจ เผยผลวิจัยใช้ยาคลอโรควินยอดตายสูงถึง 1 ใน 6- 'บราซิล' ยอดติดเชื้อสะสมทะลุ 3.3 แสน แซงหน้า 'รัสเซีย' ขึ้นอันดับ 2 ทั่วโลก- 'อังกฤษ' ออกกฎกักตัวคนเดินทางเข้าประเทศ 14 วัน- 'ญี่ปุ่น' จ่อเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วปท.- 'คิวบา' พบยา 2 ตัว ลดอัตราเสียชีวิตคนป่วยได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 23 พ.ค.2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meters รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 5,296,944 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 106,453 ราย มีผู้เสียชีวิต 339,362 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,189 ศพ
โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 1,644,061 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,164 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 97,608 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,254 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้เสียชีวิตสะสม ผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในโลก
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก ยังคงเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 362,991 ราย และมีผู้เสียชีวิต 28,802 ศพ
ขณะที่ทำเนียบขาว นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศในระหว่างการแถลงข่าวเพียงสั้นๆว่า ตัวเขาต้องการให้ผู้ว่าการรัฐเปิดสถานที่ซึ่งมีความสำคัญ ที่ควรจะเปิดให้บริการทันที ได้แก่ โบสถ์ มัสยิด สถานที่ทางศาสนา มิฉะนั้นภายในสุดสัปดาห์นี้ก็จะมีการปลดหรือลบล้างคำสั่งผู้ว่าการรัฐฯ ถ้าหากยังไม่เปิดศาสนสถานตามที่ได้ออกคำสั่งไป ซึ่งหลังจากการแถลงข่าวนายทรัมป์ได้ออกจากห้องสัมภาษณ์ไปทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆอีก
ทั้งนี้ การแถลงข่าวของนายทรัมป์ครั้งนี้ ได้สร้างความสับสนเป็นอย่างมาก เพราะรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้รัฐบาลกลางล้วงลูกคำสั่งบริหารของรัฐบาลท้องถิ่นได้ โดยมีการคาดการณ์ว่าสาเหตุที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แถลงคำสั่งดังกล่าวเป็นเพราะต้องการที่จะเอาใจฐานเสียงที่เป็นกลุ่มชาวคริสเตียน
การแถลงข่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ (อ้างอิงวิดีโอจากเดอะการ์เดี้ยน)
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในสหรัฐฯนั้น มีรายงานว่านิตยสารการแพทย์ The Lancet ได้เปิดเผยผลการใช้ไฮโดรคลอโรควินและยาครอโรควิน ซึ่งเป็นยาที่นายทรัมป์ได้แนะนำให้ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 ว่า ผลการรักษาผู้ป่วยจำนวน 96,000 ราย ใน 671 ประเทศ ใน 6 ทวีปทั่วโลกนับตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. – 14 เม.ย. พบว่า 1 ใน 6 ของผู้ที่ใช้ยาเสียชีวิต
ขณะที่ 1 ใน 5 ของผู้ที่ใช้ยาครอโรควินคู่กับยาปฏิชีวนะอื่นๆเสียชีวิต และยังพบว่า 1 ใน 4 ของผู้ที่ใช้ยาคลอโรควินกับยาปฏิชีวนะอื่นๆนั้นก็เสียชีวิตด้วย
โดยอัตราส่วนการเสียชีวิตของผู้ที่ไม่ได้ใช้ยานั้นอยู่ที่ 1 ใน 11
สำหรับสถานการณ์รอบโลก ที่ประเทศบราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 330,890 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 19,969 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 21,048 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 966 ศพ ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อใหม่ และมีผู้เสียชีวิตใหม่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
และตัวเลขล่าสุด ยังเป็นวันแรกที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมของบราซิลแซงหน้าประเทศรัสเซีย
ส่วนสถานการณ์ในรัสเซีย มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 326,448 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,894 ราย มีผู้เสียชีวิต 3,249 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่150 ศพ ทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นอันดับหนึ่งในยุโรป
โดยนางทาเทียน่า โกลิโคว่า รองนายกรัฐมนตรีของรัสเซียได้ออกมาเปิดเผยว่า ภายในช่วงก่อนสิ้นเดือน พ.ค.นี้ รัสเซียอาจจะต้องเผชิญกับตัวเลขผู้เสียชีวิตที่พุ่งสูงมากขึ้นจากตัวเลขในปัจจุบัน
ในส่วนสถานการณ์ที่อังกฤษ มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 254,195 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,287 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 36,393 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 351 ราย
ล่าสุดได้มีการออกประกาศว่านับตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.ผู้ที่เดินทางเข้าสู่ประเทศอังกฤษซึ่งไม่นับรวมผู้ที่เดินทางจากสาธารณรัฐไอร์แลนด์ เกาะไอล์ออฟแมน และหมู่เกาะแชนเนล จะต้องแจ้งต่อทางการอังกฤษถึงสถานที่ที่จะต้องกักตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วัน ถ้าหากมีการละเมิดข้อบังคับดังกล่าวจะต้องถูกปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 1,000 ปอนด์ (38,814 บาท)
อย่างไรก็ตาม ข้อบังคับดังกล่าว ได้มีการยกเว้นให้กับผู้ที่เป็นแรงงานคนขับรถ คนงานในฟาร์ม และทีมแพทย์ที่รักษาโรคโควิด 19
ส่วนสถานการณ์ในเอเชียนั้น ที่สิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 30,426 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 614 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 23 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตใหม่ สิงคโปร์จึงยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 614 ราย ยังคงเป็นแรงงานต่างชาติ 610 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 20,796 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 634 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,326 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 48 ศพ ทำให้อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสมและรายวันสูงสุดในอาเซียน
ที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 13,597 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 163 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 857 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 11 ศพ
ที่มาเลเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 7,137 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 78 ราย มีผู้เสียชีวิต 115 ศพ มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 ศพ
ที่บังกลาเทศ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 30,205 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,694 ราย มีผู้เสียชีวิต 432 ศพ มีผู้ติดเสียชีวิตใหม่ 24 ศพ
สำหรับสถานการณ์ในประเทศจีน มีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 82,971 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 4,634 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตใหม่
ที่อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 124,794 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,568 ราย มีผู้เสียชีวิต 3,726 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 142 ศพ และได้มีการผ่อนปรนมาตรการปิดเมืองแล้ว
ส่วนที่เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 11,142 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 264 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ และมีการยืนยันข้อมูลเป็นทางการว่า มีผู้ป่วยจำนวน 215 ราย ที่มีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อที่ไนท์คลับในย่านอิแทวอน
ที่ญี่ปุ่น มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 16,390 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 24 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 815 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 9 ศพ และจะมีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 4 จังหวัดสุดท้าย วันที่ 25 พ.ค.ที่จะถึงนี้ ได้แก่ โตเกียว,คานากาว่า,ชิบะ,ไซตามะ และฮอกไกโด หลังจากที่จังหวัดเหล่านี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง
ที่อิหร่าน มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 131,652 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,311 รายมีผู้เสียชีวิต 7,300 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 51 ศพ
สำหรับสถานการณ์ในยุโรป นั้น ที่ประเทศสเปน มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 281,904 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,787 ราย มีผู้เสียชีวิต 28,628 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 688 ศพ และจะยกเลิกมาตรการปิดเมืองที่กรุงมาดริดในวันที่ 25 พ.ค.นี้
ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 228,658 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 652 ราย มีผู้เสียชีวิต 32,616 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 130 ศพ
ที่ฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 182,219 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 393 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 28,289 ศพ มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่ 74 ศพ
สำหรับสถานการณ์ที่เยอรมนี มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 179,713 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 692 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 8,352 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 43 ศพ
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับการรักษาโรคโควิด-19 นั้น ล่าสุดทางหน่วยงานด้านสาธารณสุขของคิวบาได้รายงานผลถึงการใช้ยาจำนวน 2 ชนิดที่ผลิตโดยบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของคิวบาว่าสามารถลดการอักเสบอันรุนแรงในหมู่ผู้ป่วยโรคโควิด ที่มีอาการร้ายแรงได้ ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตที่จะตามมา
โดยยาทั้ง 2 ชนิดได้แก่ 1. ยา itolizumab ซึ่งเป็นยาผลิตสารภูมิต้านทานโมโนโคลน และ 2. ยา peptide ที่เป็นยารักษาโรคไข้อักเสบ ซึ่งบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพจะได้มีการทดสอบยาตัวนี้ในขั้นตอนทดลองการรักษาต่อไป
ยา itolizumab
เรียบเรียงจาก:,https://www.theguardian.com/world,https://www.bbc.com/news,https://mainichi.jp/english/,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://covid19japan.com/,https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-us-cases.html,https://www.straitstimes.com/singapore,https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.themoscowtimes.com/,http://www.arirang.com/News/News_Index.asp,https://www.thetablet.co.uk/news/12926/-terrifying-emergence-of-covid-19-in-refugee-camps,https://www.thejakartapost.com/,https://apnews.com/99b341e9be11ffc3b5436e2c4c719df6
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage