'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสมทะลุ 5 ล้าน ชนเผ่าพื้นเมืองอเมซอนตายนับร้อย 'รัสเซีย' สำรวจพบบุคลากรทางการแพทย์เสี่ยงตายมากกว่า ปท.อื่น 16 เท่า- 'อังกฤษ' เจอนักเตะ-ทีมงานพรีเมียร์ลีก ติดเชื้อ 6 ราย- 'ญี่ปุ่น' เตรียมแจกเงินช่วยค่าเทอมนักเรียนยากจนอีกรายละ 2 แสนเยน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 20 พ.ค.2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meters รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 4,980,532 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 92,408 ราย มีผู้เสียชีวิต 324,445 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 4,480 ศพ
ต่อมาในช่วงบ่ายของวันที่ 20 พ.ค. ได้มีการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 5,000,599 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17,662 ราย มีผู้เสียชีวิต 325,156 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 607 ศพ
โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น1,570,583 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20,289 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 93,533 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,552 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสม สูงที่สุดในโลก
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก ยังคงเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 357,757 ราย และมีผู้เสียชีวิต 28,437 ศพ
ที่ทำเนียบขาว นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงว่า การที่สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่สุดในโลก ถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศของประเทศ เพราะถือได้ว่าสหรัฐฯ มีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในหมู่ประชาชนมากที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาสหรัฐฯ สามารถดำเนินการตรวจหาเชื้อจากประชาชนได้สูงสุดถึงวันที่ 400,000 ราย ถือว่ามากที่สุดในโลก
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังได้ลงนามในคำสั่งอนุญาตให้หน่วยงานรัฐต่างๆนั้นสามารถผ่อนปรนมาตรการการเฝ้าระวังไวรัส เพื่อให้หน่วยงานเหล่านี้สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้
การแถลงข่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ (อ้างอิงวิดิโอจากช่องวอชิงตันโพสต์)
อย่างไรก็ดี สถาบันสุขภาพโลกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ออกคำเตือนว่า การที่สหรัฐฯจะสามารถเปิดประเทศได้นั้นจำเป็นต้องตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด จากประชาชนทั่วไปให้ได้อย่างน้อยวันละ 500,000 ราย
ขณะที่องค์การอนามัยโลก มีมติเห็นชอบให้ทุกประเทศมีสิทธิ์เข้าถึงยาและวัคซีนที่จะใช้ในการรักษาโรคโควิด ได้อย่างเท่าเทียม และเห็นชอบที่จะให้มีความร่วมมือในระดับนานาชาติเพื่อหาต้นตอของไวรัส
สำหรับสถานการณ์รอบโลก ที่ประเทศบราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 271,628 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,260 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 17,971 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 1,118 ศพ ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่และผู้เสียชีวิตใหม่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
ขณะที่องค์กรสุขภาพแพนอเมริกาหรือ The Pan American Health Organization (PAHO) ได้ออกประกาศเตือนว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดนั้นกำลังส่งกระทบกับชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกาใต้ที่อาศัยอยู่ในป่าอเมซอนที่กินบริเวณในประเทศบราซิล โคลอมเบีย และเปรู
โดยล่าสุดมีรายงานจากทาง องค์การสุขภาพชนเผ่าพื้นเมืองของรัฐบาลบราซิลว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีชนเผ่าพื้นเมืองอย่างน้อย 23 รายต้องเสียชีวิตจากโรคโควิด ซึ่งหนึ่งในความยากลำบากของการดูแลผู้ป่วยพื้นเมืองที่มีอาการรุนแรงก็คือการขนย้ายตัวผู้ป่วยมารักษา ซึ่งจะกระทำได้โดยใช้เครื่องบินอย่างเดียวเท่านั้น
ส่วนทางด้านของ APIB ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลชนเผ่าพื้นเมืองในบราซิล ได้รายงานว่า มีชนเผ่าพื้นเมืองเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 103 ศพ นับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.เป็นต้นมา
ที่ประเทศรัสเซีย มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 299,941ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,263 ราย มีผู้เสียชีวิต 2,837 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 115 ศพ ทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นอันดับหนึ่งในยุโรป
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า อัตราการเสียชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ในรัสเซียนั้น มีจำนวนสูงมากกว่า 16 เท่า ถ้าหากเทียบกับประเทศอื่นๆประสบปัญหาการติดเชื้อโควิด
ขณะที่ทางการกรุงมอสโก ได้ออกประกาศว่าภายในสิ้นเดือน พ.ค.นี้ จะเพิ่มอัตราการตรวจหาผู้ติดเชื้อให้ได้อย่างน้อย 200,000 รายต่อวัน
ในส่วนสถานการณ์ที่อังกฤษ มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 248,818 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,412 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 35,341 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 545 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนั้น ล่าสุดมีรายงานว่าได้มีการปูพรมตรวจนักเตะในสโมสรและทีมงานกว่า 748 รายจาก 19 สโมสร ที่เมืองนอร์วิช พบว่ามีนักเตะและทีมงานอย่างน้อย 6 รายพบว่าติดเชื้อโควิด โดยมีการเปิดเผยข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิดเบื้องต้นว่าคือนายเอียน โวนน์ (Ian Woan)โค้ชและผู้ช่วยผู้จัดการสโมสรฟุตบอลเบิร์นลี่ย์ นอกจากนี้ยังว่ามีนักเตะจำนวน 1 ราย และทีมงานอีก 2 รายจากสโมสรวัตฟอร์ดที่พบว่าติดเชื้อด้วย ส่วนผู้ติดเชื้ออีก 2 รายนั้นอยู่ที่สโมสรอื่น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด ทำให้การเริ่มกลับมาแข่งขันฟุตบอลในวันที่ 12 มิ.ย. อาจจะต้องถูกเลื่อนออกไป
นายเอียน โวนน์ (Ian Woan)โค้ชสโมสรฟุตบอลเบิร์นลี่ย์ที่ถูกวินิจฉัยว่าติดโควิด 19 (อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.worldfootball.net/player_summary/ian-woan/)
ส่วนสถานการณ์ในเอเชียนั้น ที่สิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 28,794 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 451 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 22 ศพ และไม่มีผู้เสียชีวิตใหม่ แต่สิงคโปร์ ก็ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 451 ราย ยังคงเป็นแรงงานต่างชาติ 450 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 18,496 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 486 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,221 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 30 ศพ ทำให้อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสมและรายวันสูงสุดในอาเซียน
โดยกรุงจาการ์ตา ได้มีการขยายมาตรการทางสังคมอย่างเข้มข้นออกไปอีกจนถึงอย่างน้อยในวันที่ 4 มิ.ย.
ที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 12,942 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 224 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 837 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 6 ศพ
ที่มาเลเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 6,978 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 37 ราย มีผู้เสียชีวิต 114 ศพ มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 ศพ
ส่วนที่บังกลาเทศ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 25,121ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,251 ราย มีผู้เสียชีวิต 370 ศพ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21 ศพ แต่ก็เริ่มมีความกังวลกันว่าสภาพความเป็นอยู่ในแคมป์ผู้ลี้ภัยของชาวโรฮิงญาที่อยู่กันอย่างหนาแน่นนั้นอาจจะทำให้เชื้อโควิดแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น
ทางด้านประเทศจีน มีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 82,960ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 4,634 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตใหม่
ที่อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 106,475 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,147 ราย มีผู้เสียชีวิต 3,302 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 146 ศพ
ส่วนที่เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 11,078 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 263 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ ขณะที่ทางการรเกาหลีใต้ได้ออกประกาศเตือนว่าการติดเชื้อใหม่จากไนท์คลับในย่านอิแทวอนนั้นอาจจะส่งผลทำให้มีการติดเชื้อในหมู่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตามมาด้วย
ที่ญี่ปุ่น มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 16,242ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 26 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 773 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 4 ศพ
ขณะที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ญี่ปุ่น ได้มีการอนุมัติมาตรการแจกเงินจำนวน 200,000 เยน (59,136 บาท) ให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยและนักเรียนที่มีปัญหาทางการเงินทั่วประเทศจำนวน 430,000 ราย เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าเทอม และค่าใช้จ่ายการชีวิตในช่วงที่สถานการณ์โควิดยังระบาดอยู่
โดยครอบครัวของนักเรียนที่ยากจนเหล่านี้จะได้รับการงดเว้นจากภาษีที่อยู่ และตัวนักเรียนเองก็จะได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 200,00 เยนเพิ่มเติมจากที่ก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศด้วยการแจกเงินจำนวน 100,000 เยน (29,550 บาท) ไปแล้ว
ที่อิหร่าน มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 124,603 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,111 รายมีผู้เสียชีวิต 7,119 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 62 ศพ
สำหรับสถานการณ์ในยุโรป นั้น ที่ประเทศสเปน มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 278,803 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 615ราย มีผู้เสียชีวิต 27,778 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 69 ศพ
ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 226,699 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 813 ราย มีผู้เสียชีวิต 32,169 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 162 ศพ
ที่ฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 180,809 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 882 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 28,022 ศพ ไม่มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่
สำหรับสถานการณ์ที่เยอรมนี มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 177,827 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 538 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 8,193 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 70 ศพ
ส่วนความคืบหน้าประเทศที่สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้มากกว่าจำนวนผู้ป่วยสะสม ณ เวลานี้นั้น ล่าสุดมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้ 31,634 ราย จากจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการ 27,891ราย
โดยซาอุดิอาระเบียมีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 59,854 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่2,509 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 329 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 9 ศพ
จึงทำให้ซาอุดิอาระเบีย นับเป็นประเทศที่ 31 ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสอย่างรุนแรง (ติดเชื้อเกิน 1,000 คน) แต่สามารถพลิกสถานการณ์ รักษาผู้ป่วยให้หายได้มากกว่าจำนวนผู้ป่วยที่กำลังป่วยเหลืออยู่ ต่อจากจีน เกาหลีใต้ อิหร่าน ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ไอซ์แลนด์ ไทย เยอรมนี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ลักเซมเบิร์ก สเปน อิรัก อาเซอร์ไบจาน ไอร์แลนด์ อิสราเอล เม็กซิโก โครเอเชีย กรีซ อุซเบกิสถาน ตุรกี อิตาลี ญี่ปุ่น โรมาเนีย ปานามาและเช็กเกีย ที่รายงานข่าวไปก่อนหน้านี้
เรียบเรียงจาก:,https://www.theguardian.com/world,https://www.bbc.com/news,https://mainichi.jp/english/,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://covid19japan.com/,https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-us-cases.html,https://www.straitstimes.com/singapore,https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.themoscowtimes.com/,http://www.arirang.com/News/News_Index.asp,https://www.thetablet.co.uk/news/12926/-terrifying-emergence-of-covid-19-in-refugee-camps,https://www.thejakartapost.com/
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage