'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสม 4.8 ล้าน - 'ทรัมป์'เผยกินยาทดลองต้านโควิดมา 2 สัปดาห์แล้ว ไม่กลัวผลข้างเคียง - 'รัสเซีย' ไม่รายงานยอดผู้เสียชีวิตที่ไซบีเรีย- 'อินโด' ยอดติดเชื้อรายวัน แซงหน้า 'สิงคโปร์'แล้ว -อินเดีย ปท.ที่ 11 ติดเชื้อเกิน 1 แสน- 'ปธน.บราซิล' ยันเปิดเมืองแน่ แม้ยอดติดเชื้อ-ตายรายวันพุ่งอันดับ 2 โลก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 19 พ.ค.2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meters รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 4,883,594 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 84,328 ราย มีผู้เสียชีวิต 319,699 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 3,179 ศพ
โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 1,547,296ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 19,632 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 91,792 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 814 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสม สูงที่สุดในโลก
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก ยังคงเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 356,278 ราย และมีผู้เสียชีวิต 28,302 ศพ
ที่ทำเนียบขาว นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเขาได้เริ่มบริโภคยาไฮดรอกซีควอเรควิน (Hydroxychloroquine) ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสโควิด- 19 ที่อยู่ในขั้นทดลองเป็นระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้ว และไม่ได้กังวลว่ายาตัวนี้จะมีผลในแง่ลบ เพราะเป็นยาที่มีการใช้การรักษาโรคมาเลเรียมาเมื่อ 40 ปีก่อนแล้ว และไม่ใช่เรื่องเสียหายที่จะกินยานี้เพื่อป้องกันโรคโควิด 19 หากยานี้มีผลข้างเคียงในแง่ลบ เขาจะบอกเองว่ายานี้มีปัญหา ซึ่งที่ผ่านมาก่อนที่จะใช้ยาตัวนี้ก็ได้มีการปรึกษากับทีมแพทย์ของทำเนียบขาวแล้วก็ไม่ได้มีการคัดค้านแต่อย่างใด
การแถลงข่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ (อ้างอิงวิดิโอจากช่อง Fox News)
ยาไฮดรอกซีควอเรควิน (อ้างอิงรูปภาพจาก https://www.assaygenie.com/)
แต่อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ เคยออกประกาศเตือนแล้วว่า ไม่ควรกินยานี้นอกเหนือจากในขั้นตอนการทดลองรักษา เพราะอาจจะมีผลข้างเคียงต่อการเต้นของจังหวะหัวใจได้
สำหรับสถานการณ์รอบโลกนั้น ที่ประเทศรัสเซีย มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 290,678 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,926 ราย มีผู้เสียชีวิต 2,722 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 91 ศพ ทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นอันดับหนึ่งในยุโรป
ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า รัสเซียได้หยุดการรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใน 2 เขตการปกครองซึ่งอยู่ในภูมิภาคไซบีเรียอย่างเขต Omsk และ Irkutsk โดยไม่ทราบสาเหตุ โดยในเขต Omsk ล่าสุดพบยอดผู้เสียชีวิตจำนวน 16 ศพ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเขต Irkutsk มียอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด 19 ก่อนหน้านี้ อยู่ที่ 6 ศพ แต่ทางศูนย์ภัยพิบัติของรัสเซียกลับรายงานว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตนั้นอยู่ที่ 4 ศพเท่านั้น โดยเป็นการรายงานครั้งล่าสุดเมื่อประมาณวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา
ในส่วนสถานการณ์ที่อังกฤษ มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 246,406 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,711 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 34,796 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 160 ราย
โดยนายแมท แฮนค็อก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ ได้ออกมาเปิดเผยกับรัฐสภาอังกฤษว่า ได้อนุมัติให้มีการตรวจหาโรคโควิด-19 ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5 ขวบขึ้นไป โดยเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการตรวจหาโรคเป็นจำนวนอย่างน้อย 100,678 ราย
ส่วนสถานการณ์ในเอเชียนั้น ที่สิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 28,343 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 305 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 22 ศพ และไม่มีผู้เสียชีวิตใหม่
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 305 ราย ยังคงเป็นแรงงานต่างชาติ 303 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 18,010 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 496 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,191 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 43 ศพ ทำให้อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสมและรายวันสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันของอินโดนีเซียยังได้แซงประเทศสิงคโปร์ไปแล้ว
ที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 12,718 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 205 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 831 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 7 ศพ
ที่มาเลเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 6,941 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 47 ราย มีผู้เสียชีวิต 113 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่
ส่วนที่บังกลาเทศ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 23,870 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,602 ราย มีผู้เสียชีวิต 349 ศพ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21 ศพ
ขณะที่ นาย Shahed Rafi Pavel ประธานมูลนิธิการแพทย์ของบังกลาเทศ ได้ออกมาแจ้งเตือนว่า บังกลาเทศจะมียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูงสุดในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ และตัวเลขดังกล่าวจะค่อยๆลดลงในช่วงต้นเดือน มิ.ย. นี้
ทางด้านประเทศจีน มีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 82,954 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 4,634 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ที่อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 100,340 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,642 ราย มีผู้เสียชีวิต 3,156 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 131 ศพ จึงทำให้อินเดียเป็นประเทศที่ 11 ของโลกที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 1 แสนราย
ส่วนที่เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 11,065 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 263 ศพ มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 ศพ
ที่ญี่ปุ่น มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 16,216 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 30 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 765 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 4 ศพ
ขณะที่ นายเคนจิ ชิบูย่า ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพประชากร มหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ ลอนดอน ได้ออกมาแจ้งเตือนว่า แม้ประเทศญี่ปุ่นจะประสบความสำเร็จในการป้องกันการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ไม่ให้ลุกลามได้เหมือนกับประเทศตะวันตก แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะเจอกับการระบาดเป็นครั้งที่ 2 รัฐบาลควรเฝ้าระวังและควบคุมกลุ่มติดเชื้อไม่ให้แพร่กระจายไปมากขึ้น พร้อมให้ความสำคัญในมาตรการการเว้นระยะทางสังคม
ที่อิหร่าน มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 122,492 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,294 รายมีผู้เสียชีวิต 7,057 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 69 ศพ
สำหรับสถานการณ์ในยุโรป นั้น ประเทศสเปน มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 278,188 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 469 ราย มีผู้เสียชีวิต 27,709 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 59 ศพ
ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 225,886 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 451 ราย มีผู้เสียชีวิต 32,007 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 99 ศพ โดยมีรายงานว่าอิตาลีจะเริ่มเปิดให้บริการบาร์และคาเฟ่ ในวันที่ 19 พ.ค.นี้
ที่ฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 179,927 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 358 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 28,239 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 131 ศพ
โดยมีรายงานหลังจากที่ฝรั่งเศสได้อนุญาตให้มีการเปิดโรงเรียนแล้ว พบว่ามีเด็กอย่างน้อย 70 รายพบว่ามีอาการป่วยด้วยโรคโควิด 19 ซึ่งทางด้านของนายJean-Michel Blanquer รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส ได้เปิดเผยว่าจำนวนเด็กที่ติดเชื้อนั้นยังเป็นส่วนน้อยอยู่ แต่ตอนนี้ได้มีคำสั่งออกไปแล้วว่าถ้าหากพบว่ามีสถานศึกษาใดพบว่ามีเด็กติดเชื้อก็ให้หยุดการเรียนการสอนได้ทันที
สำหรับสถานการณ์ที่เยอรมนี มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 177,289ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 638 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 8,123 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 74 ศพ
ขณะที่ นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี พร้อมด้วยนายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนการที่สหภาพยุโรปจะได้ผ่านงบประมาณ 5 แสนล้านยูโร (17,471,200,000,000 บาท) เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจยุโรปที่เสียหายจากไวรัสโควิด-19 ระบาด
ส่วนสถานการณ์ในบราซิลนั้น มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 254,220 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,140 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 16,792 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 674 ศพ ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่และผู้เสียชีวิตใหม่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
อย่างไรก็ดี นายฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิลยังคงยืนยันในการแถลงผ่านวิดีโอว่า จะพยายามทำทุกทางให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาสู่ภาวะปกติ พร้อมทั้งยกเลิกมาตรการปิดเมืองโดยเร็วที่สุด และการใช้ยาคลอโรควินที่ยังอยู่ขั้นทดลองอย่างแพร่หลายจะเป็นหนทางแก้ไขวิกฤติเหล่านี้ได้
เรียบเรียงจาก:,https://www.theguardian.com/world,https://www.bbc.com/news,https://mainichi.jp/english/,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://covid19japan.com/,https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-us-cases.html,https://www.straitstimes.com/singapore,https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.themoscowtimes.com/,http://www.arirang.com/News/News_Index.asp,https://www.wsj.com/articles/president-trump-says-he-is-taking-hydroxychloroquine-11589834484
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage