‘แรมโบ้อีสาน’ รอดอีกคดี! กกต.สั่งยุติปมถูกกล่าวหาปั้นเรื่องใส่ร้ายผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทยแจกเงินเลือกตั้ง เหตุโดนทำพยานหลักฐานเท็จ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2563 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยที่ 25/2563 กรณีหลังประกาศผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 กกต. ได้รับรายงานกรณีมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏต่อ กกต. ว่า นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 10 จ.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ (ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี) นายธวัชชัย ลาภกระโทก ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเขต 10 จ.นครราชสีมา และ น.ส.ลักษมีกานต์ วาจาสิทธิ์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเขต 10 จ.นครราชสีมา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-3 ถูกกล่าวหาว่า กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 143 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง กรณีกระทำการอันเป็นเท็จ ให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ เพื่อจะแกล้งให้ผู้สมัครนั้นถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
โดย กกต. พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว ได้ความว่า เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2562 นายสุภรณ์ ได้มายื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 10 จ.นครราชสีมา อ้างว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2562 บริเวณเทศบาลตำบลบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา น.ส.ลักษมีกานต์ ได้รับเงินจำนวน 2,000 บาท จากการไปฟังการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และกรณีเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2562 น.ส.ลักษมีกานต์ ได้รับเงินจากตัวแทนหรือหัวคะแนนของผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย
จากการไต่สวน น.ส.ลักษมีกานต์ ให้ถ้อยคำว่า ไม่ได้ไปฟังการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง และไม่ได้รับเงินจากผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย แต่อย่างใด ส่วนภาพถ่ายเงินจำนวน 200 บาท และ 500 บาท ได้ถ่ายภาพเงินส่วนตัวของตนเองแล้วส่งให้แก่นายธวัชชัย เนื่องจากได้รับแจ้งจากนายธวัชชัยว่า หากมีข้อมูลเกี่ยวกับการแจกเงินของผู้สมัคร ส.ส. รายใด ให้นำมาแจ้งแก่นายธวัชชัย โดยจะมีค่าตอบแทนให้
นายสุภรณ์ และนายธวัชชัย ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า นายสุภรณ์ ได้รับแจ้งข้อมูลจากนายธวัชชัย โดยได้แสดงข้อความการสนทนาในแอปพลิเคชั่นไลน์ระหว่างนายธวัชชัย และ น.ส.ลักษีกานต์ และคลิปวีดีโอการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย นายสุภรณ์ จึงไปยื่นคำร้องโดยเชื่อตามข้อมูลที่ได้รับจากนายธวัชชัย
ประกอบกับไม่มีพยานยืนยันว่านายสุภรณ์ และนายธวัชชัย เป็นผู้ก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้ น.ส.ลักษมีกานต์ กระทำการดังกล่าว พยานหลักฐานจึงรับฟังไม่ได้ว่า นายสุภรณ์ และนายธวัชชัย กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายตามข้อกล่าวหา ส่วน น.ส.ลักษมีกานต์ ให้ถ้อยคำรับว่า ได้จัดทำพยานหลักฐานเป็นเท็จ เพื่อประสงค์ได้รับค่าตอบแทนจากนายธวัชชัย พยานหลักฐานจึงรับฟังได้ว่า น.ส.ลักษมีกานต์ กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ มาตรา 143
จึงมีคำสั่งให้ยุติเรื่องแก่นายสุภรณ์ และนายธวัชชัย และให้ดำเนินคดีอาญาแก่ น.ส.ลักษมีกานต์ ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ มาตรา 143
อ่านรายละเอียดฉบับเต็ม : https://www.ect.go.th/ect_th/download/article/article_20200513115013.pdf
อ่านประกอบ :
‘แรมโบ้อีสาน’โดน กกต.ไต่สวนเพิ่ม! ปมให้‘หัวคะแนน’ใส่ร้ายผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย
กกต.ฟันอาญาอ้างหัวคะแนน‘แรมโบ้อีสาน’วางแผนแจกเงินใส่ร้ายผู้สมัครอื่นด้วยความเท็จ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/