'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อล่าสุด 4.3 ล. ! 'โฆษกปูติน' ตรวจพบเป็นโรคโควิด -'สิงคโปร์' พบคนไทยป่วยเสียชีวิต 1 ราย มีเชื้อด้วย- 'ผอ.โรคติดต่อ' เตือนสหรัฐฯ เปิดภาคเศรษฐกิจเร็วไปเสี่ยงความตายเจ็บปวดอย่างเลี่ยงไม่ได้ - รพ.รัสเซีย เจอเหตุไฟไหม้เครื่องช่วยหายใจลัดวงจรคร่าชีวิตผู้ป่วย 5 ราย - 'เกาหลีใต้' ตายอีก 2 สั่งเลื่อนเปิดรร. หลังเกิดเหตุไนท์คลับอิแทวอน- 'แคนาดา-โรมาเนีย' ปท.ที่ 27-28 รักษาคนหายมากกว่าป่วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 13 พ.ค.2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meters รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 4,335,709 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 83,419 ราย มีผู้เสียชีวิต 292,291 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,160 ศพ
โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 1,407,284 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21,450 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 83,301 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,506 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสม สูงที่สุดในโลก
โดยนายแอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐฯและเป็นหนึ่งในทีมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างกักตัวเองเนื่องจากต้องสงสัยว่าได้ติดต่อกับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้ออกมาเปิดเผยผ่านการสื่อสารทางวิดีโอกับคณะกรรมการในวุฒิสภาสหรัฐฯว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด 19 ที่แท้จริงของสหรัฐฯนั้นอาจจะสูงกว่าตัวเลขทางการกว่า 80,000 รายตามที่มีการรายงานไป ซึ่งการที่สหรัฐฯได้พยายามเปิดภาคส่วนเศรษฐกิจขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งโดยที่ยังไม่พร้อมนั้น อาจจะเป็นการกระตุ้นทำให้เกิดการระบาดครั้งใหม่ขึ้นมาอีก อันจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด และความตายตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนนายโรเบิร์ต เรดฟิลล์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคติดต่อของสหรัฐฯหรือซีดีซีซึ่งกักตัวเองเช่นกัน ได้เปิดเผยกับทางวุฒิสภาว่า สหรัฐฯนั้นล้มเหลวในการควบคุมและจำกัดวงการติดเชื้อในประเทศ แม้ว่าจะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วได้ก็ตาม
นายแอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐฯ(อ้างอิงวิดิโอจากช่องรอยเตอร์)
ส่วนสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก ยังคงเป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 343,705 ราย และมีผู้เสียชีวิต 27,284 ศพ
สำหรับสถานการณ์รอบโลกนั้น ที่ประเทศรัสเซีย มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 232,243 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,899 ราย มีผู้เสียชีวิต 2,116 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 107 ศพ ทำให้รัสเซียเป็นประเทศที่มีการระบาดใหม่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ
ล่าสุดมีรายงานว่า นายดิมิตรี เพสคอฟ โฆษกส่วนตัวของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 และต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
ทั้งนี้ นายดิมิตรี ถือว่าเป็นบุคคลระดับสูงในรัฐบาลรัสเซียที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นางโอลก้า ลูบิโมวา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม,นายวลาดิเมียร์ ยาคูเชฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการก่อสร้าง,นายมิคาอิล มีชุสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย และนายเซอร์เกย์ คิริเยนโก้ รองประธานเสนาธิการร่วมทำเนียบเครมลิน ถูกตรวจพบว่าติดโรคโควิด 19 ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
นายดิมิตรี เพสคอฟ โฆษกส่วนตัวของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย(อ้างอิงรูปภาพจากสำนักข่าวมอสโคว์ ไทม์)
ส่วนสถานการณ์อื่นๆในประเทศรัสเซียนั้น มีรายงานว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาลเซนต์จอร์จ เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อันเนื่องมาจากเครื่องช่วยหายใจลัดวงจร จนเป็นเหตุทำให้มีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 5 ราย เสียชีวิต
ที่อังกฤษ มีรายงานตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 226,463 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,403 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 32,692 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 627 ศพ ทำให้อังกฤษเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมสูงที่สุดในยุโรป นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษว่ายอดผู้เสียชีวิตรายวันของอังกฤษนั้นยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ได้เผยแพร่ผลวิจัยว่า น่าจะมีอย่างน้อย 3 % ของบุคลากรทางการแพทย์ในประเทศอังกฤษที่ติดโรคโควิด 19 แบบไม่รู้ตัว และยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ ซึ่งหมายความว่า ณ เวลานี้อาจจะมีบุคลากรทางการแพทย์อย่างน้อย 15,000 รายที่ติดเชื้อโควิด 19 แล้ว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อนั้นอาจจะสูงกว่านี้ โดยเฉพาะในบ้างพื้นที่ของอังกฤษที่ยังคงประสบปัญหาขาดแคลนชุดป้องกันโรคโควิด 19 หรือชุด PPE
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าในวันที่ 13 พ.ค. นี้ อังกฤษจะมีการเปิดให้มีการดำเนินกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ต้องหยุดพักไปเมื่อประมาณ 7 สัปดาห์ก่อนหน้านี้
ส่วนสถานการณ์ในเอเชียนั้น ประเทศสิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 24,671 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 884 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 21 ศพ และไม่มีผู้เสียชีวิตใหม่ ทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
ขณะที่ สำนักข่าวสเตรทไทม์ของประเทศสิงคโปร์ รายงานข้อมูลว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้ง 21 รายนั้น มีชายไทยวัย 50 ปีรายหนึ่ง เสียชีวิตจากอาการเลือดออกในสมอง หลังจากที่ต้องเข้ารับการรักษาเนื่องจากมีภาวะหยุดหายใจเฉียบพลันเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ก็ถูกวินิจฉัยว่ามีเชื้อโควิด-19
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในสิงคโปร์นั้น มีการปล่อยตัวผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเป็นจำนวนทั้งสิ้น 626 ราย ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ที่สิงคโปร์เผชิญหน้ากับสภาวะโรคระบาดในช่วงที่ผ่านมา
ที่อินโดนีเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 14,749 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 484 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,007 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 16 ศพ ทำให้อินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในอาเซียน
ที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 11,350 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 264 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 751 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 25 ศพ ทำให้ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงที่สุดในอาเซียน
ที่มาเลเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 6,742 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 16 ราย มีผู้เสียชีวิต 109 ศพ และไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่
ทางด้านประเทศจีน มีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 82,919 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม4,633 ราย และยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่
ส่วนที่เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 10,936 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 27 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 258 ศพ มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2 ศพ
ล่าสุดมีรายงานว่าทางการเกาหลีใต้ได้ประกาศเลื่อนการเปิดโรงเรียนทั่วประเทศออกไป ภายหลังจากที่มีการแพร่ระบาดครั้งใหม่ที่ไนท์คลับในย่านอิแทวอนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่ญี่ปุ่น มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 15,891 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 71 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 671 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 17 ศพ
ส่วนอิหร่านมีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 110,767 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,481 รายมีผู้เสียชีวิต 6,733 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 48 ศพ
สำหรับสถานการณ์ในยุโรปนั้น ที่ประเทศสเปน มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 269,520 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,377ราย มีผู้เสียชีวิต 26,920 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 176 ศพ
ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 221,216 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,402 ราย มีผู้เสียชีวิต 30,911 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 172 ศพ
ที่ฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 178,060 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 637 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 26,991 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 348 ศพ
ส่วนเยอรมนี มีผู้ติดเชื้อสะสม 173,171ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 595 ราย มีผู้เสียชีวิต 7,738 ศพ และผู้เสียชีวิตรายใหม่ 77 ศพ
ส่วนสถานการณ์ในบราซิลนั้น มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 177,602 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,459 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 12,404 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 779 ศพ ทำให้บราซิลนับเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตรายวันสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
ส่วนความคืบหน้าประเทศที่สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้มากกว่าจำนวนผู้ป่วยสะสม ณ เวลานี้นั้น ล่าสุดมีรายงานว่าแคนาดาสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้ 34,042 ราย จากจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการตอนนี้ 31,946 ราย
โดยแคนาดามีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 71,157 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 1,176 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 5,169 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 176 ศพ
ส่วนโรมาเนีย ที่มีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 15,778 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 190 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,002 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 20 ศพ สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้ 7,685 ราย จากจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการตอนนี้ 7,091 ราย
จึงทำให้โรมาเนียและแคนาดา นับเป็นประเทศที่ 27 และ 28 ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสอย่างรุนแรง (ติดเชื้อเกิน 1,000 คน) แต่สามารถพลิกสถานการณ์ รักษาผู้ป่วยให้หายได้มากกว่าจำนวนผู้ป่วยที่กำลังป่วยเหลืออยู่ ต่อจากจีน เกาหลีใต้ อิหร่าน ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ไอซ์แลนด์ ไทย เยอรมนี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ลักเซมเบิร์ก สเปน อิรัก อาเซอร์ไบจาน ไอร์แลนด์ อิสราเอล เม็กซิโก โครเอเชีย กรีซ อุซเบกิสถาน ตุรกี อิตาลีและญี่ปุ่น ที่รายงานข่าวไปก่อนหน้านี้
เรียบเรียงจาก:,https://www.theguardian.com/world,https://www.bbc.com/news,https://mainichi.jp/english/,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://covid19japan.com/,https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-us-cases.html,https://www.straitstimes.com/singapore,https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.themoscowtimes.com/
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage