แผนฟื้นฟูการบินไทย ยังไม่ถึง ครม.! ‘บิ๊กตู่’ ให้คมนาคมดูรายละเอียดอยู่ ย้ำจำเป็นต้องแก้ไข ไม่อย่างนั้น 2 หมื่นคนในองค์กรเดือดร้อนแน่ ยืนยันไม่เคยสั่งทำโพลสำรวจความเห็นต่ออายุ พ.ร.ก. อ้างมีสื่อทำแล้ว 88% เห็นด้วยให้ต่ออายุอีกรอบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาแผนฟื้นฟูบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม ยังไม่ได้นำมาพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกันว่าอย่าเพิ่งไปให้ข่าวกันจนมากเกินไป วันนี้ตนย้ำอย่างเดียวว่า ต้องเข้าสู่แผนการฟื้นฟูที่มีประสิทธิผล ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายตัวด้วยกัน ฉะนั้นขอร้องให้บุคลากรทั้งในและนอกองค์กร รวมถึงสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจฯ ต้องช่วยกัน ไม่อย่างนั้นการฟื้นฟูจะไปต่อไม่ได้ และสุดท้ายทุกคนจะไม่มีอาชีพ ไม่มีแรงงาน ไม่มีลูกจ้าง ไม่มีเงินจ้างพนักงาน ถือเป็นการล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และตนไม่อยากให้เดินไปถึงจุดดังกล่าว และแผนฟื้นฟูยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม ทั้งหมดต้องดำเนินการอีกหลายอย่างกว่าจะเข้าสู่การพิจารณาใน ครม. ดังนั้นขอความร่วมมือจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย
“ผมจำเป็นต้องแก้ไข ไม่อย่างนั้นพวกท่านก็เดือดร้อน องค์กรของท่าน 2 หมื่นคนจะเกิดปัญหาทันที และถ้าท่านไม่ช่วยกัน แล้วใครจะช่วย ผมไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับใคร และไม่เคยมีผลประโยชน์อะไรกับการบินไทยอยู่แล้ว ส่วนรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ก็มีแผนการฟื้นฟูอยู่แล้ว แต่การบินไทยไม่ได้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูเดิม จึงต้องทำแผนใหม่ขึ้นมา ส่วนการค้ำประกันเงินกู้ วันนี้ยังไม่ได้พูดถึง ผมต้องรับฟังเสียงประชาชนด้วย แต่จะทำอย่างไรให้ไปต่อได้ขึ้นอยู่กับองค์กรและบุคลากรของท่าน รวมถึงสหภาพฯด้วย ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนกระแสข่าวที่มีการจัดทำโพลเพื่อสำรวจความเห็นเกี่ยวกับการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนยืนยันมาตลอดว่าการพิจารณาเรื่องนี้ต้องคำนึงถึงมาตรฐานสาธารณสุขเป็นหลัก ไม่ว่าใครทำโพลก็เป็นเรื่องของโพล แต่เท่าที่ทราบมีบางสื่อไปสำรวจความเห็นมาแล้ว มีคนเห็นชอบให้ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 88% ไม่เห็นชอบและขอให้เลิก 12% นั่นคือสิ่งที่สื่อทำ ตนไม่ได้ทำและไม่ได้สั่งการให้ใครทำ อาจจะเป็นความเข้าใจผิดเรื่องนี้ ดังนั้นต้องดูมาตรฐานสาธารณสุขเป็นหลัก จำนวนคนติดเชื้อน้อยลงก็ยังนอนใจไม่ได้ ต้องดูความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ทำให้ตัวเลขติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ถ้าอยู่ในเกณฑ์รับได้ ก็พอที่จะเดินหน้าผ่อนปรนในระยะต่อไปได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ขอชื่นชมภาคเอกชนและประชาชนที่จัดทำตู้แบ่งปัน แต่มีอีกเรื่องที่เป็นห่วงคือผู้ที่รับสิ่งของเหล่านั้นจะต้องสร้างจิตสำนึก ร่วมกันด้วย ภาพที่ออกมาเวลานี้ตนถือว่ายอมรับไม่ได้ ขออย่าให้เกิดขึ้นอีก ทุกคนต้องช่วยกันห้ามปราม แต่อย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน ถ้าทำสิ่งเหล่านี้กันได้ทุกพื้นที่ คนที่อยากช่วยเหลือสังคมก็อยากจะร่วมแบ่งปันสิ่งของเหล่านั้น ขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้เกิดความสบายใจทั้งผู้ให้และผู้รับทั้ง 2 ฝ่าย
“ส่วนในวันที่ 15 พ.ค. ศบค.จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในสถานที่ที่จะปลดล็อกระยะที่ 2 เพื่อดูความพร้อมการปฏิบัติตามมาตรการของรัฐ ทั้งนี้ยืนยันว่า อะไรก็ตามที่เปิดได้ ก็ปิดได้ ไม่อย่างนั้นก็ลืมตัวกันไปเรื่อยๆ ไม่ร่วมมือ ไม่รักษาระยะห่าง ไม่สวมหน้ากากอนามัย ถ้าอยากให้ผ่อนปรนก็ต้องร่วมมือกับ ศบค.” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับการเมือง โดยเฉพาะกรณีที่มีการยิงแสงเลเซอร์เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในสถานที่ต่างๆ โดยระบุว่า “วันนี้มีหลายคำถามเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความมั่นคง ผมขอไม่ตอบ เพราะเป็นเรื่องของความมั่นคงที่ต้องไปดูว่าเป็นการกระทำความผิดหรือไม่ ในช่วงเวลานี้ถือว่าไม่เหมาะสม ในการนำหลายเรื่องมาพัวพันกับโควิดที่กำลังแก้ปัญหาเร่งด่วน เพราะประชาชนเดือดร้อน”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า วันนี้อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวอย่างอื่นให้เกิดความสับสนอลหม่าน ประชาชนต้องตัดสินใจว่าจะสนับสนุนการทำงานกันอย่างไร หรือมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมาทำให้เกิดความสับสนเวลานี้ ท่านต้องตัดสินใจและคิดเรื่องนี้แล้ว วันนี้ตนต้องการความรักความสามัคคีของทุกคนที่เป็นคนไทย ส่วนใหญ่ก็ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลไปแล้ว ตนไม่ได้ทำเพื่อการเมือง แต่ทำเพื่อคนไทยที่เดือดร้อนจากโควิด ใครเดือดร้อนน้อยขอให้ดูแลคนที่เดือดร้อนมากกว่า และขอบคุณภาคธุรกิจที่ดูแลลูกจ้างมากพอสมควร ในส่วนรัฐบาลจะพยายามดูแลให้มากที่สุด แต่จำเป็นต้องอาศัยข้อกฎหมายหลายตัวด้วยกัน การทำงานของรัฐบาลจำเป็นต้องดูข้อกฎหมายเป็นหลักเสมอ ไม่สามารถใช้หรือทำอะไรที่นอกเหนือกฎหมายได้ วันนี้เราต้องการความรักสามัคคี เราจะต้องรอดไปด้วยกัน เผื่อแผ่แบ่งปันน้ำใจไปด้วยกัน นั่นคือ new normal ของประเทศไทย
ขณะที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวถึงเหตุผลที่ยังไม่เสนอแผนฟื้นฟูการบินไทยให้ ครม.พิจารณา ว่า ยังอยู่ระหว่างให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เข้ามาช่วยจัดทำรายละเอียดในแผนปฏิบัติการให้ชัดเจน เช่น แผนการหารายได้ แผนการใช้รายจ่าย การบริหารหนี้ และวางสมมติฐานถึงผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
“การที่จะดำเนินการอะไรก็ตาม จะต้องไม่มีความเสี่ยง และควรที่จะแก้ปัญหาเรื่องความเสี่ยงให้เรียบร้อย ถ้าแก้ไม่ได้ ก็ยังทำอะไรไม่ได้ จะให้นำเงินเข้าไปในลักษณะที่มีความเสี่ยงก็ไม่เกิดผล ส่วนความเร่งด่วนของเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการบินไทยที่เป็นผู้จัดทำแผน เพราะฉะนั้นจะต้องทำให้สมบูรณ์ หากทำไม่สมบูรณ์จะให้อนุมัติได้อย่างไร” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้การบินไทยรายงานว่ามี 23 เรื่องที่เป็นความเสี่ยง แต่ส่วนตัวเห็นว่าแค่เรื่องเดียวยังทำไม่ได้ ดังนั้นต้องคิดให้รอบคอบ เพราะสิ่งทีผ่านมาในอดีตตามที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวไว้คือไม่ดำเนินการมา 5 ปี และวันนี้เราต้องดูเรื่องด้วยใจที่ปราศจากอคติ และดูว่าสิ่งที่เป็นทางออกที่ดีที่สุดของการบินไทยเพื่อทำให้เกิดความแข็งแรงและกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ
“วันนี้ถ้าคุณไม่เขียนแผน Action Plan มา ไม่มีความชัดเจน ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร รายได้ รายจ่าย และการบริหารหนี้ เป็นอย่างไร รวมถึงที่จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิค-19 การบินไทยวางสมมติฐานไว้อย่างไร การนำเงินภาษีประชาชนไปใช้จำนวนมากๆ ในขณะที่ประเทศชาติมีความจำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณในเรื่องของการป้องกันสถานการณ์โควิด-19 เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูอะไรสำคัญกว่ากัน” นายศักดิ์สยาม กล่าว
ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. ไม่มีการหารือกันเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูหรือการให้รัฐบาลค้ำประกันเงินกู้ให้การบินไทย และเป็นเรื่องที่ต้องรอให้กระทรวงคมนาคมเสนอเข้ามาก่อน ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสานงานกับกระทรวงการคลังมาโดยตลอด
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage