'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อสะสมใกล้ 4 ล้าน ตัวเลขคนตกงานสหรัฐฯ พุ่งสูง 33 ล้าน ล่าสุด ทหารอารักขา 'ทรัมป์' ผลเลือดเป็นบวกด้วย เจ้าตัวไม่กังวลยันสบายดี - 'อังกฤษ' เจอชุด PPE 4 แสนชุดสั่งจาก'ตุรกี'ไร้คุณภาพ- 'สิงคโปร์' สั่งเปิดห้างใหญ่สถานที่แพร่เชื้อโควิด - เผยผลโพล'ญี่ปุ่น' เห็นด้วย 'อาเบะ' ขยายเวลามาตรการฉุกเฉิน-แล็บ'จีน'ทดสอบเจอเชื้อโควิดอยู่ในสเปิร์มผู้ป่วย-ล่าสุด'อิตาลี' ปท.ที่ 26 รักษาหายมากกว่าป่วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 หรือโคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ว่า ในช่วงค่ำวันที่ 7 พ.ค.2563 เว็บไซต์ World Meters รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 3,909,905 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 92,523 ราย มีผู้เสียชีวิต 270,297 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,460 ศพ
โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 1,290,242 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 27,150 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 76,864 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2,065 ศพ ทำให้สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้เสียชีวิตสะสม สูงที่สุดในโลก
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปในสหรัฐฯ นั้น รัฐนิวยอร์ก เป็นรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 332,931 ราย และมีผู้เสียชีวิต 26,601 ศพ
ที่ทำเนียบขาว มีรายงานว่านายทหารเรือที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นทหารอารักขาประจำทำเนียบขาวและเป็นผู้ติดตามประธานาธิบดีสหรัฐฯถูกตรวจพบจากทีมแพทย์ของทำเนียบขาวว่าติดเชื้อโควิด 19 จึงทำให้ทางทีมแพทย์ทำเนียบขาวต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 กันอีกครั้งในตัวนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ,นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และทีมงานบริหารระดับสูงทุกคนที่เคยเข้าใกล้นายทหารคนนี้
เบื้องต้นมีการแถลงการณ์จากทางทำเนียบขาวว่า ทั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯและรองประธานาธิบดียังคงมีสุขภาพแข็งแรง
ส่วน นายทรัมป์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะว่าสหรัฐฯเป็นประเทศที่มีระบบการตรวจหาโรคโควิด 19 ดีที่สุดในโลก ซึ่งตัวเขาเองและทีมงานต้องตรวจหาเชื้อโควิด 19 เป็นประจำทุกสัปดาห์ แต่พอเมื่อมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นก็คงต้องปรับการตรวจใหม่เป็นวันละครั้ง
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังกล่าวต่อว่า ตัวเขามีปฏิสัมพันธ์กับนายทหารที่ติดเชื้อรายนี้น้อยมาก จึงไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด
ขณะที่กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ตกงานในสหรัฐฯว่า นับตั้งแต่กลางเดือน มี.ค.เป็นต้นมา ที่สถานการณ์โควิด 19 เริ่มการแพร่ระบาด มีผู้ตกงานในสหรัฐฯเป็นจำนวนมากถึง 33.3 ล้านรายแล้ว
การให้สัมภาษณ์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ (อ้างอิงวิดิโอจากช่องรอยเตอร์)
สำหรับสถานการณ์รอบโลกที่น่าสนใจนั้น ที่ประเทศอังกฤษมีผู้ติดเชื้อสะสม 206,715 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,614ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 30,615 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 539 ศพ ทำให้อังกฤษเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมและรายวันสูงที่สุดในยุโรป และจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมยังเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวจากทางกองทัพอากาศอังกฤษว่า ชุดป้องกันการติดเชื้อจำนวน 400,000 ชิ้น ที่ทางกองทัพอากาศอังกฤษได้สั่งจากประเทศตุรกี และของเพิ่งจะถูกส่งมายังอังกฤษเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ไม่ผ่านมาตรฐานด้านสาธารณสุขของอังกฤษ ทำให้ทางการอังกฤษต้องหาทางเปลี่ยนสินค้าใหม่หรือไม่ก็ขอคืนเงิน
ส่วนสถานการณ์ในเอเชียนั้น ที่สิงคโปร์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 20,939 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 741 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 20 ศพ และไม่มีผู้เสียชีวิตใหม่ ทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าทางการสิงคโปร์ได้มีการอนุญาตให้เปิดห้างมุสตาฟาร์ เซ็นเตอร์ (Mustafa Center) ได้แล้ว โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 9.30 น.-23.30 น. และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ 24 ชั่วโมงในช่วงสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
โดยห้างแห่งนี้เคยถูกระบุว่าเป็นสถานที่แพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในหมู่แรงงานต่างชาติในประเทศสิงคโปร์ และมีผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์อย่างน้อย 124 ราย จากห้างฯ แห่งนี้
ห้างมุสตาฟาร์ เซ็นเตอร์ (อ้างอิงจากสำนักข่าวสเตรทไทม์)
ที่อินโดนีเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 12,776 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 338 ราย มีผู้เสียชีวิต 930 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 35 ศพ ทำให้อินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตสะสมและผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในอาเซียน
ที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 10,343 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 339 ราย มีผู้เสียชีวิต 685 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 27 ศพ
ที่มาเลเซีย มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 6,467 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 39 ราย มีผู้เสียชีวิต 107 ศพ ไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่
ที่ญี่ปุ่น มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 15,414 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 80 ราย มีผู้เสียชีวิต 580 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 9 ศพ
ขณะที่กรุงโตเกียวมีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 4,774 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 160 ศพ นับถือเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันที่กรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อใหม่ต่ำกว่า 100 ราย
ขณะที่ สำนักข่าวไมนิจิของประเทศญี่ปุ่น ได้ทำโพลสำรวจความเห็นของประชาชนต่อการที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ขยายมาตรการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปถึงช่วงสิ้นเดือน พ.ค. โดยผลโพล 66 เปอร์เซ็นต์เห็นด้วยกับมาตรการสถานการณ์ฉุกเฉิน 25 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าควรจะจำกัดบริเวณ และอีก 3 เปอร์เซ็นต์ไม่เห็นด้วยกับการขยายเวลา
ส่วนสถานการณ์ที่ประเทศจีน ห้องแล็บโรงพยาบาล ฉางกิ๋ว (Shangqiu) ได้มีการทดสอบผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 38 ราย พบว่าสเปิร์มของผู้เข้าทดสอบจำนวน 16 รายนั้น มีเชื้อโควิด 19 ประกอบอยู่ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ทางนักวิจัยที่ทำการทดสอบระบุว่า การทดสอบดังกล่าวเป็นการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างด้วยจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น จำเป็นต้องมีการทดสอบอีกหลายขั้นตอน เพื่อจะพิสูจน์ว่าเชื้อโควิด 19 จะสามารถแพร่เชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้หรือไม่
สำหรับสถานการณ์ในยุโรป ที่ประเทศสเปน มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 256,855 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 3,173 ราย มีผู้เสียชีวิต 26,070 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 213 ศพ หลังจากที่เพิ่งอนุญาตให้นักเตะสโมสรต่างๆกลับเข้าฝึกซ้อมที่สโมสรได้แล้ว แต่ต้องผ่านการตรวจหาโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด
ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 215,858 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 1,401 ราย มีผู้เสียชีวิต 29,958 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 274 ศพ
อย่างไรก็ดี ประเทศอิตาลีนั้นสามารถรักษาผู้ป่วยให้หายสะสมได้เป็นจำนวน 96,276 ราย จากจำนวนผู้ป่วยที่มีในขณะนี้ 89,624 ราย
ทำให้อิตาลีเป็นประเทศที่ 26 ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสอย่างรุนแรง (ติดเชื้อเกิน 1,000 คน) แต่สามารถพลิกสถานการณ์ รักษาผู้ป่วยให้หายได้มากกว่าจำนวนผู้ป่วยที่กำลังป่วยเหลืออยู่ ต่อจากจีน เกาหลีใต้ อิหร่าน ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ไอซ์แลนด์ ไทย เยอรมนี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ชิลี ลักเซมเบิร์ก สเปน อิรัก อาเซอร์ไบจาน ไอร์แลนด์ อิสราเอล เม็กซิโก โครเอเชีย กรีซ อุซเบกิสถาน และตุรกี ที่รายงานข่าวไปก่อนหน้านี้
ที่รัสเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 177,160 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,231 ราย มีผู้เสียชีวิต 1,625 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 88 ศพ โดยประเทศรัสเซียถือเป็นประเทศที่ 2 รองจากสหรัฐฯที่มีผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุดในโลก
ที่ฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 174,791 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 600 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 25,987 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 178 ศพ
สำหรับสถานการณ์ที่เยอรมนี มีผู้ติดเชื้อสะสม 168,162 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,155 ราย มีผู้เสียชีวิต 7,275 ศพ และผู้เสียชีวิตรายใหม่ 282 ศพ ทำให้รัสเซียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในยุโรป
ส่วนสถานการณ์ในบราซิลนั้น มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 135,106 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,495 ราย มีผู้เสียชีวิต 9,146 ศพ และมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตใหม่ 558 ศพ
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/,https://www.theguardian.com/world,https://www.bbc.com/news,https://mainichi.jp/english/,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://covid19japan.com/,https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-us-cases.html,https://www.japantimes.co.jp/,https://www.straitstimes.com/singapore,https://edition.cnn.com/,https://mainichi.jp/english/
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage