ส่งออกเดือนมี.ค.พลิกบวก 4.17% สูงสุดในรอบ 8 เดือน เหตุสงครามการค้าคลี่คลาย-บาทอ่อน-ส่งออกอาหารแปรรูปเพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยประจำเดือนมี.ค.2563 ว่า การส่งออกไทยในเดือน มี.ค.2563 มีมูลค่า 22,404.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 4.17% สูงที่สุดในรอบ 8 เดือน ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเป็นหลัก แต่หากหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำและอาวุธออกไป การส่งออกไทยยังขยายตัวได้ที่ 2.12% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,812.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 7.25%
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาตัวเลขการการส่งออกเป็นรายสินค้าพบว่า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวได้ 17.59% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 21 เดือน เนื่องจากผลกระทบของสงครามการค้าที่เบาบางลง การส่งออกสินค้าเครื่องปรับอากาศที่ขยายตัว 8.1% อย่างไรก็ตาม การส่งออกรถยนต์และอุปกรณ์หดตัวค่อนข้างมากที่ระดับ 28.7% โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดออสเตรเลีย ส่วนการส่งออกสินค้าเกี่ยวกับน้ำมันที่ยังหดตัวต่อเนื่อง
"สาเหตุที่ทำให้การส่งออกเดือนมี.ค.เป็นบวก ปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่ง คือ ผลกระทบของสงครามการค้าที่หายไปค่อนข้างเยอะแล้ว ทำให้สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เราเป็นซัพพลายเชนมีการส่งออกได้เยอะ การส่งออกอาหารแปรรูป แช่เย็น แช่แข็ง อาหารกระป๋อง ทำได้ดีหลายรายการ ซึ่งเป็นผลจากการที่คนในหลายประเทศทั่วโลกอยู่บ้าน แต่อาหารที่เป็นกลุ่มโภคภัณฑ์ข้าว มันฯ ยาง ปาล์ม ยังติดลบอยู่ เพราะมีปัญหาเรื่องโลจิสติกส์ ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงไปที่ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ"น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว
สำหรับ 3 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.2563) มูลค่าการส่งออกไทยอยู่ที่ 62,672.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 0.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 58,738.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบ 1.92% ทำให้ไทยมีการเกินดุลการค้า 3,933.7 ล้านดอลลลาร์สหรัฐ
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage