‘โรงสี’ แย่งซื้อข้าวเปลือกเจ้าดันราคาแตะตันละ 1 หมื่นบาท ดีสุดในรอบ 3 ปี รับราคาข้าวขาวในตลาดโลกพุ่งเกินตันละ 500 ดอลล์ ขณะที่ ‘สมาคมโรงสีข้าว-สมาคมชาวนาฯ’ ยันข้าวบริโภคในประเทศไม่ขาดแคลน และมีเหลือส่งออก แม้ปีนี้จะเจอภัยแล้ง เหตุชาวนาปรับตัวเจาะน้ำบาดาลขึ้นมาทำนา ทำให้การปลูกข้าวนาปรังเพิ่มเป็น 7 ล้านไร่
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงสถานการณ์ข้าวไทยในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยยืนยันว่า ปริมาณข้าวสำหรับใช้บริโภคในประเทศจะมีเพียงพอและไม่มีการขาดแคลนแน่นอน แม้ว่าปีนี้จะเกิดสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ก็ตาม แต่ยอมรับว่าราคาข้าวในประเทศจะผันผวนตามราคาข้าวในตลาดโลก
“เราเจอภัยแล้งก็จริง แต่กระทรวงเกษตรฯประเมินว่า ผลผลิตข้าวเปลือกปีการผลิต 2562/63 จะอยู่ที่ 28.44 ล้านตัน หรือคิดเป็นข้าวสาร 18 ล้านตัน เราบริโภคในประเทศเฉลี่ย 90-100 กิโลกรัมต่อคนต่อปี และนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งสองส่วนนี้รวมกันจะอยู่ที่ 8 ล้านตัน เหลืออีก 10 ล้านตัน ซึ่งปีนี้เราก็คาดว่าจะมีการส่งออกใกล้เคียงกับปีที่แล้ว คือ 7.5-7.6 ล้านตัน จะมีข้าวส่วนเกิน 2 ล้านตัน ฉะนั้น สต็อกข้าวบริโภคในประเทศไม่ขาดแน่นอน” นายเกรียงศักดิ์ระบุ
นอกจากนี้ จากข้อมูลการปลูกข้าวนาปรังรอบล่าสุด ซึ่งเริ่มเก็บเกี่ยวในเดือนมี.ค.ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนเม.ย.นี้ พบว่า พื้นที่ปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสานบางส่วนเพิ่มไปอยู่ที่ 7 ล้านไร่ สูงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4.5 ล้านไร่ เพราะนอกจากมีการใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติแล้ว ยังมีการเจาะบ่อบาดาลนำน้ำขึ้นมาทำนาด้วย ส่งผลให้ผลผลิตข้าวเปลือกเพิ่มขึ้นจากที่กระทรวงเกษตรฯคาดไว้เดิมอีก 2.5 ล้านตันเปลือก หรือคิดเป็นข้าวสารกว่า 1 ล้านตัน
นายเกรียงศักดิ์ ระบุว่า แม้ในช่วงที่ผ่านมาราคาข้าวไทยในตลาดโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าวขาว 5% ที่เพิ่มขึ้นรุนแรง เมื่อเทียบกับข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวที่ราคาเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่ตรงนั้นอาจเป็นสถานการณ์ชั่วคราวก็ได้ เพราะยังต้องติดตามว่าอินเดียและเวียดนามจะกลับมาส่งออกข้าวเมื่อใด ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่าเวียดนามเตรียมจะส่งออกข้าว 4 แสนตัน หากเวียดนามส่งออกข้าวจริง หรืออินเดียส่งออกข้าวได้ตามปกติ ราคาข้าวในตลาดโลกจะลดลง
“มีคำสั่งซื้อข้าวเข้ามาก็จริง แต่ด้วยราคาข้าวขาว 5% ของไทยที่ขึ้นไปเกิน 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จากเดิม 370-380 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายต่างก็ระวัง ตอนนี้จึงมีแต่ราคา ยังไม่มีวอลุ่มไม่มากนัก แต่ก็ทำให้ราคาข้าวเปลือกเจ้า 5% เพิ่มเป็น 10,500 บาทต่อตัน จากที่เคยอยู่ที่ 7,600-7,800 ต่อตันมา 3 ปีแล้ว และทำให้ราคาข้าวสารในประเทศค่อยๆปรับขึ้นช้าๆ ซึ่งถ้าการซื้อข้าวของเมืองนอกหยุดเมื่อไหร่ ราคาในประเทศจะลง” นายเกรียงศักดิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายเกรียงศักดิ์ มองว่า ราคาข้าวในประเทศจะเพิ่มขึ้นไม่มากหรือไม่เพิ่มเลย เพราะตามปกติแล้วข้าวถุงที่ขายในชั้นวางของห้างฯจะสั่งซื้อและยืนราคาล่วงหน้า 2-4 เดือน ดังนั้น ในระยะสั้นราคาข้าวส่วนนี้จะไม่เพิ่มขึ้น แต่ราคาข้าวถุงในห้างฯจะแพงกว่าข้าวที่ขายทั่วไป เนื่องจากมีค่าวางสินค้า 20% ส่วนข้าวสารที่ขายในตลาดทั่วไปนั้น ตลาดจะมีการแข่งขันกันเอง เช่น บางรายจะไม่ขึ้นราคาหรือลดราคาลงมา เพื่อทำกำไรจากการขายในปริมาณมากแทน
ด้านนายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า ถึงแม้ว่าปีนี้จะเกิดสถานการณ์ภัยแล้ง แต่ยังผลผลิตข้าวไทยจะยังออกมาต่อเนื่อง เนื่องจากหลายจังหวัดมีการเจาะบ่อน้ำบาดาลขึ้นมาทำนา เสริมกับแหล่งน้ำที่มีอยู่ตามธรรมชาติและน้ำที่ค้างอยู่ในระบบชลประทาน ส่งผลให้พื้นที่ปลูกข้าวนาปรังรอบที่ 1 เพิ่มเป็น 7 ล้านไร่ และบางจังหวัดเริ่มมีการทำนาปรังรอบ 2 แล้ว จึงยืนยันได้เลยว่าคนไทยจะมีข้าวบริโภคในประเทศอย่างเพียงพอแน่นอน
“ยืนยันได้เลยว่าปีนี้ข้าวไม่ขาด จะมีเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ และมีเหลือส่งออกด้วย แม้ว่าไวรัสโควิดจะอยู่ต่อไปอีก 5-6 เดือน และจากข้อมูลที่ได้รับทราบมาตอนนี้ยังมีข้าวสารในสต็อก 4-5 ล้านตัน และจะมีข้าวเปลือกนาปรับรอบ 1 และ 2 ทยอยออกมาอีก 5-6 ล้านตัน อย่างตอนนี้ที่อยุธยา กำแพงเพชร เริ่มทำนาปรังรอบ 2 กันแล้ว เพราะยังมีน้ำและมีเจาะบ่อบาดาลมานำน้ำมาทำนาด้วย และเมื่อถึงหน้าฝนแล้วน้ำมาเราจะปลูกข้าวได้อีก” นายปราโมทย์กล่าว
ปราโมทย์ เจริญศิลป์
นายปราโมทย์ ยังกล่าวด้วยว่า คำสั่งซื้อข้าวขาว 5% จากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ล่าสุดราคาข้าวเปลือกเจ้าเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 9,000-10,000 บาทต่อตันแล้ว เพราะโรงสีเข้าไปแย่งซื้อข้าวกัน และทำให้ราคาข้าวสารขยับขึ้นไปอยู่ที่ 17 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมที่อยู่ที่กิโลกรัมละ 11.80-12 บาท ซึ่งเป็นตามกลไกตลาด แต่ส่วนตัวยังห่วงว่าราคาจะอยู่ในระดับนี้ได้นานแค่ไหน เพราะจะมีข้าวนาปรังทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ชาวนาเราก็ได้อานิสงค์ตรงนี้ เราขายข้าวได้ราคาดี จากในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยได้ราคานี้ และผมเชื่อว่าราคาข้าวเปลือกที่เราขายได้ตอนนี้ น่าจะเป็นช่วงสั้นๆ และเมื่อข้าวประดังออกมา ราคาก็จะลง เหมือนกับข้าวเหนียวที่ก่อนหน้านี้ราคาเคยขึ้นไปมาก เราตื่นเต้นอยู่พักเดียว แต่พอมีผลผลิตออกมาราคาก็ลง” นายปราโมทย์กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ณ วันที่ 1 เม.ย.2563 ราคาข้าวขาว 5% ของไทย (F.O.B) อยู่ที่ 564 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน โดยราคาเพิ่มขึ้นจากสัปกดาห์ก่อน 62 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่วนราคาข้าวหอมไทยราคาเพิ่มไปอยู่ที่ 758 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่ข้าวหอมมะลิ (ปี 2562/63) ล่าสุดราคาทรงตัวอยู่ที่ 1,103 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และราคาข้าวเหนียว 10% ราคาทรงตัวอยู่ที่ 1,107 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
อ่านประกอบ :
‘ต่างชาติ’ ตื่นซื้อข้าวไทย ตุนรับมือโควิด-19 ดันราคาพุ่ง 50 ดอลล์
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/