ทีดีอาร์ไอ เผยหลัง 30 เม.ย. อาจต้องมีมาตรการใหม่ ช่วย 'เเท็กซี่' หลังเจอพิษโควิด-19 จอดทิ้ง ลดบริการ เเม้รัฐให้เงินเยียวยาเเล้ว เสนอ ก.คมนาคมประเมินสถานการณ์ พร้อมดูเเลขนส่งมวลชนอื่น มอเตอร์ไซต์รับจ้าง -รถทัศนาจร
ดร.สุเมธ องกิตติคุณ นักวิชาการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา ถึงสถานการณ์การเเพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่ออาชีพขนส่งมวลชน โดยเฉพาะเเท็กซี่ ว่าเวลานี้รัฐบาลมีมาตรการเฉพาะหน้าออกมาช่วยเหลือ เช่น ลดค่างวดรถ เเละค่าช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งคาดว่าผู้ขับเเท็กซี่ทุกคนจะได้รับด้วย หลังจากเปิดให้ลงทะเบียน เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยหากประเมินคิดว่า มาตรการระยะสั้นนี้เพียงพอเเล้วในระดับหนึ่ง เเต่คำถาม คือ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากไวรัสฯ จะมีระยะเวลายาวนานเพียงใด เเละต้องจำกัดการเดินทางในอนาคตมากน้อยเพียงใดนั้น ขณะนี้ทีดีอาร์ไอกำลังประเมินสถานการณ์ จึงยังตอบไม่ได้
ทั้งนี้ หากอนาคตมีความชัดเจนว่า การเดินทางจะมีความเปลี่ยนเเปลงที่ส่งผลกระทบระยะยาว เช่น การเดินทางลดลง ไม่เหมือนปัจจุบันเเละไม่กลับไปเหมือนอดีต เช่นนั้นเเล้ว กลุ่มเเท็กซี่จะได้รับผลกระทบอย่างไร ดังนั้น ภาครัฐต้องประเมินบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งเชื่อว่า หลังวันที่ 30 เม.ย. 2563 อาจต้องมีมาตรการต่อไปออกมาช่วยเหลือ กรณีที่ไม่สามารถกลับไปสู่สภาพเดิมได้ในเวลาสั้น อย่างไรก็ตาม คิดว่า ผู้ขับรถเเท็กซี่เริ่มปรับตัวเเล้ว ลดปริมาณการให้บริการ
"วันนี้ทีดีอาร์ไอยังไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับกระทรวงคมนาคมโดยตรง เเต่ได้สื่อสารข้อเสนอเเนะผ่านสื่อต่าง ๆ ซึ่งเชื่อว่า กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการระดับหนึ่งเเล้ว เเต่ต้องยอมรับว่าสถานการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เเละไม่เชื่อว่าจะออกมาเเบบนี้ จึงต้องอาศัยเวลาช่วงนี้มาขบคิดวิเคราะห์จะปรับอย่างไร ใครจะเชื่อว่า อยู่ดี ๆ การเดินทางระหว่างประเทศหายหมด นักท่องเทียวชาวต่างชาติกลายเป็นศูนย์"
นักวิชาการ ทีดีอาร์ไอ ยังกล่าวว่า กลุ่มเเท็กซี่ ร้อยละ 20-30 อาศัยนักท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยเฉพาะจดทะเบียนที่สนามบินสุวรรณภูมิ ราว 7,000-8,000 คัน เเละสนามบินดอนเมือง 6,000-7,000 คัน มากกว่าร้อยละ 10 ของเเท็กซี่ในกรุงเทพฯ เเต่ปรากฎว่าไม่มีงานเเล้ว ดังนั้น จึงเป็นผลกระทบเเน่ ทั้งนี้ อาจต้องให้ความสำคัญกับมอเตอร์ไซต์รับจ้าง เเม้จะมีตลาดอีกด้านหนึ่ง รวมถึงรถทัศนาจรด้วย
ภาพประกอบ:TDRITV
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage