มติ ก.บ.ศ. ออกประกาศจัดการคดีภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ให้ทุกศาลเลื่อนนัดพิจารณาคดี 24 มี.ค.-31 พ.ค. เว้นคดีจำเลยถูกคุมขังระหว่างพิจารณา-คดีอาญาสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ-คดีแพ่งจัดการมรดก-ขอให้มีคำสั่งสาบสูญ คดีอื่นที่องค์คณะเห็นว่าสมควรทำต่อ หากเลื่อนอาจทำคู่ความเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2563 มีการประชุมของคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ครั้งที่ 3/2563 โดยมีนายสไลเกษ วัฒนพันธุ์ เป็นประธานการประชุมฯ มีวาระคือการบริหารจัดการศาลในภาวระการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) โดยนายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวภายหลังการประชุม ก.บ.ศ. ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ออกประกาศ ก.บ.ศ. เรื่อง การบริหารจัดการคดีภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirs Disease : COVID-19) โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
กรณีที่ 1 การเลื่อนวันนัดคดีจัดการพิเศษ
1.ให้ศาลชั้นต้นทุกศาลเลื่อนนัดพิจารณาคดีจัดการพิเศษทุกคดีที่นัดไว้ในระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-31 พ.ค. 2563 โดยกำหนดวันนัดใหม่ในเวลาที่เหมาะสม ยกเว้นคดีดังต่อไปนี้
1.1 คดีอาญา เช่น นัดสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ นัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่จำเลยต้องขัง เป็นต้น
1.2 คดีแพ่ง เช่น คดีร้องขอจัดการมรดก คดีร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเป็นผู้สาบสูญ คดีร้องขอเป็นผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ หรือขออนุญาตทำนิติกรรมแทนผู้เยาว์ เป็นต้น
1.3 คดีอื่นๆ ที่เจ้าของสำนวนและองค์คณะพิจารณาเห็นว่าสามารถดำเนินกระบวนพิจารณาไปได้โดยไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้เกี่ยวข้อง และหากเลื่อนคดีไปอาจทำให้คู่ความทั้งสองฝ่ายหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหาย โดยคำนึงถึงความยินยอมของคู่ความ
ทั้งนี้ ตามข้อ 1.1 - 1.3 ให้คำนึงถึงจำนวนคดี จำนวนคู่ความในห้องพิจารณา และจำนวนบุคคลที่จะต้องมารวมกันที่ศาล และหากมีความจำเป็นไม่อาจดำเนินกระบวนพิจารณาโดยปลอดภัยแก่ทุกฝ่าย ก็อาจใช้ดุลพินิจให้เลื่อนคดีไปได้
2.การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีดังกล่าว ให้ถือปฏิบัติตามคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Corona Disease : COVID – 19) (ฉบับที่ 2)
กรณีที่ 2 การเลื่อนนัดพิจารณาคดีต่อเนื่อง
1.ให้ศาลชั้นต้นทุกศาลเลื่อนนัดพิจารณาคดีต่อเนื่องทุกคดีที่นัดไว้ในระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-31 พ.ค.2563 โดยกำหนดวันนัดใหม่ในเวลาที่เหมาะสม ยกเว้นคดีดังต่อไปนี้
1.1คดีอาญาที่จำเลยต้องขังระหว่างพิจารณาคดี
1.2 คดีอื่นๆ ที่คู่ความพร้อมและต้องการจะสืบพยาน หรือคดีที่เจ้าของสำนวนและองค์คณะพิจารณาเห็นว่าสามารถดำเนินกระบวนพิจารณาไปได้โดยไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้เกี่ยวข้อง และหากเลื่อนคดีไปอาจทำให้คู่ความทั้งสองฝ่ายหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหาย โดยคำนึงถึงความยินยอมของคู่ความ
ทั้งนี้ ตามข้อ 1.1 - 1.2 ให้คำนึงถึงจำนวนคดี จำนวนคู่ความในห้องพิจารณา และจำนวนบุคคลที่จะต้องมารวมกันที่ศาล และหากมีความจำเป็นไม่อาจดำเนินกระบวนพิจารณาโดยปลอดภัยแก่ทุกฝ่าย ก็อาจใช้ดุลพินิจให้เลื่อนคดีไปได้ โดยได้รับอนุญาตจากอธิบดีผู้พิพากษาหรือผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบราชการศาล แล้วแต่กรณี
2.การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีดังกล่าว ให้ถือปฏิบัติตามคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease : COVID – 19) (ฉบับที่ 2)
ส่วนนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า หลังจากที่ ก.บ.ศ. มีมติจากการประชุมออกมาแล้ว ทางสำนักงานศาลยุติธรรม ดำเนินการร่างระเบียบ ก.บ.ศ.เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเสนอประธานศาลฎีกา วันนี้พิจารณาและลงนาม เพื่อเผยแพร่แนวทางปฏิบัติของศาลยุติธรรมทั่วประเทศต่อไป
อ่านประกอบ : ที่แรก! ศาลมีนบุรีไฟเขียว อัยการ-ทนาย ไม่ต้องใส่สูท-ผูกไท-สวมครุย ป้องโควิด-19
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/