สำนักงาน ก.พ.ร. ชงปรับแนวทางประเมินส่วนราชการ-องค์การมหาชนปี 63 ใหม่ หลังเกิดวิกฤติโควิด-19 เผยมี 60 ส่วนราชการ-27 หน่วยองค์การมหาชน ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสระบาด อาจทำให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายตัวชี้วัดได้ ครม.เห็นชอบ เน้นวิธีปฏิบัติแบบยืดหยุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นด้วยกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ที่เสนอให้คณะรัฐมนตรี เรื่องการปรับแนวทางประเมินส่วนราชการและองค์การมหาชนประจำปีงบประมาณ 2563 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19)
โดยรายละเอียดของสำนักงาน ก.พ.ร. ระบุสาระสำคัญว่า สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในไทยส่งผลให้การปฏิบัติราชการของหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากหน่วยงานต้องทุ่มเททรัพยากรในการแก้ไขปัญหาและป้องกันสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่ทำให้การดำเนินงานของหน่วยงานไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ เช่น ด้านการท่องเที่ยว การลงทุน การส่งออก เป็นต้น
จากการประเมินเบื้องต้น สำนักงาน ก.พ.ร. คาดว่าจะมีส่วนราชการจำนวน 60 ส่วนราชการ จาก 152 ส่วนราชการ (ร้อยละ 39.47) จำนวน 70 จังหวัดจาก 76 จังหวัด (ร้อยละ 92.10) และองค์การมหาชน 27 หน่วยงาน จาก 34 หน่วยงาน มีตัวชี้วัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรค ทำให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของตัวชี้วัดที่กำหนด เนื่องจากหลายหน่วยงานมีหน้าที่โดยตรงในการแก้ไขปัญหา เช่น กรมควบคุมโรค ที่ดำเนินการตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินระดับประเทศ เพื่อดำเนินการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มข้น จึงต้องระดมสรรพกำลังทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเพื่อตอบโต้ภาวะฉุกเฉินนี้ และอีกหลายหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ และต้องทำหน้าที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ควบคู่ไปกับการดำเนินภารกิจปกติ
ดังนั้นเพื่อให้หน่วยงานปฏิบัติราชการภายใต้วิกฤติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดภาระของหน่วยงานในการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายของตัวชี้วัด รวมทั้งให้หน่วยงานสามารถระดมทรัพยากรเพื่อแก้ไขวิกฤติของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างทันการณ์ จึงเห็นควรให้มีการปรับแนวทางการประเมินส่วนราชการและองค์การมหาชนประจำปีงบประมาณ 2563
ให้หน่วยงานปรับเปลี่ยนตัวชี้วัดตามภารกิจปกติ ที่คาดว่าจะถูกกระทบจากวิกฤติ โดยให้จัดเตรียมข้อมูลปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ไว้ เพื่อนำไปใช้ประกอบการพิจารณาปรับค่าเป้าหมาย ปรับน้ำหนักตัวชี้วัด ปรับรายละเอียดตัวชี้วัด หรือการยกเลิกตัวชี้วัด
ในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. 2563 ให้หน่วยงานรวบรวมและจัดทำข้อมูลส่งให้สำนักงาน ก.พ.ร. ในเบื้องต้น และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง สำนักงาน ก.พ.ร. จะนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาปรับตัวชี้วัดให้แก่หน่วยงานต่อไป สำนักงาน ก.พ.ร. ตระหนักว่า การแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน ดังนั้นการกำหนดแนวทางปฏิบัติและวิธีการในรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องนี้จึงมีหลักการว่าจะต้องไม่เป็นภาระแก่หน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงในการแก้ไขวิกฤติดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้คณะรัฐมนตรี ได้ประชุมปรึกษากันแล้วเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2563 ลงมติว่า เห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อ และรับทราบแนวทางให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ กรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของสำนักงาน ก.พ. และให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณากำหนดแนวทางการปฏิบัติงานนอกสถานที่ หรือกำหนดวิธีปฏิบัติราชการแบบยืดหยุ่น กรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ตามความเหมาะสมในแต่ละกรณีต่อไป โดยให้คำนึงถึงคุณภาพชีวิต และความปลอดภัยของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งไม่ส่งผลกระทบหรือเกิดผลเสียหายต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบริหารราชการแผ่นดินและการบริการประชาชน
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage