ชมรมต้านทุจริตภาคใต้ รวมพลยื่น ปธ.ป.ป.ช.-แจ้งความตร.สอบ4 หน่วยงานรัฐโค่นยางยักษ์100ปี

ชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตภาคใต้ ลุยยื่นหนังสือปธ.ป.ป.ช. -แจ้งความตร. สอบสวน 4 หน่วยงานรัฐ เอี่ยวโค่นยางยักษ์ 100 ปี โดยมิชอบ จี้เอาผิดปมรายงานเท็จ- รวมพลทำพิธีสาปแช่งผู้อยู่เบื้องหลังด้วย

Strong

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2562 ที่ จ.พังงา ชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตภาคใต้ นำโดย นายอนันต์ ทองศรีแก้ว รองประธานชมรมฯพังงา,นายปรารภ เหมทานนท์ โค๊ช ชมรมฯ ประธานชมรมนครศรีธรรมราช ชุมพร สุราษณ์ธานี ภูเก็ตพร้อมด้วยประชาชนจำนวนหนึ่งเดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ที่ จ.ภูเก็ต เพื่อขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีตามกฎหมายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตัดต้นยางนาโดยมิชอบกับ 4 หน่วยงาน ได้แก่ 1.องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ 2.กรมป่าไม้ 3.แขวงทางหลวง และ 4.หน่วยป้องการและพัฒนาป่าไม้ท้ายเหมือง

เนื้อหาหนังสือ ระบุว่าสืบเนื่องจากวันที่ 15 พ.ย 2562 เครือข่าย ชมรมSTRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตภาคใต้ ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน เรื่องการตัดโค้นต้นไม้ใหญ่ บริเวณบ้านต้นแซะ อ.โคกกรอย จ.พังงา บริเวณรอยต่อ จ.ภูเก็ต ในการนี้ทางชมรมได้รับเอกสารประกอบการร้องเรียนครั้งนี้ คือ บัญชีรายการไม้หวงห้าม,ใบอนุญาตทำไม้หวงห้าม,บันทึกข้อความ ที่ ทส.0602.35/17561 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2562 เรื่อง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ขออนุญาตทำไม้ในเขตทางหลวงเลข 402 และ หนังสือบันทึกการตรวจสอบ ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2561 ออกโดยหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ท้ายเหมือง ซึ่งในเอกสารการขออนุญาต เป็นต้นแซะจำนวน 11 ต้น โดยใช้เหตุผลในการขออนุญาตอ้างว่าต้นไม้ดังกล่าวยืนต้นตาย

ต่อมาเครือข่ายลงสำรวจพื้นที่ดังกล่าว ปรากฏว่าต้นไม้ที่ถูกโค้นลงไปนั้นเป็นต้นยางนาทั้งหมด แต่ที่ยืนต้นตายบางส่วน แค่ 3 ต้น ส่วนที่เหลือ เป็นต้นไม้ที่ยังสมบูรณ์ และไม้ถูกตัดและถูกยกออกจากพื้นที่ไป ซึ่งหลังจากที่ทำเรื่องเสนออธิบดีกรมป่าไม้ ยังไม่ปรากฏหลักฐานการอนุมัติของอธิบดี

เบื้องต้น ชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตภาคใต้ ได้ตั้งข้อสังเกตจากเอกสาร และ การลงพื้นที่สำรวจ พบความผิดปกติในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เข้าข่ายความผิด อาญา มาตรา 161,162 และ 157 ในฐานความผิดดังนี้

1. ออกเอกสารทางราชการเป็นเท็จ

2. รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา

3. การตัดไม้ที่ไม่ได้รับอนุญาต

4. การเพิกเฉยของเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อได้รับการร้องเรียน

5. ไม่มีการดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดให้ทำก่อนตัดต้นไม้ โดยเฉพาะความรับผิดชอบของจังหวัดพื้นที่ และการทำประชาพิจารณ์ที่เป็นจริง

ในการนี้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทุกส่วนต้องกระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องของความรู้สึกของประชาชนชาวจังหวัดพังงา และ ภูเก็ต ต่อกรณีการอนุรักษ์ เพราะต้นไม้บริเวณนี้ถือว่า เป็นต้นไม้ที่แสดงเชิงสัญญาลักษณ์การอนุรักษ์ของชาวพังงา ชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตภาคใต้ จึงเรียนท่านมาเพื่อให้ดำเนินคดีแก่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่สังคม และ หน่วยงานภาครัฐ ต่อไป

นอกจากนี้ชมรม STRONG- ยังได้ยื่นเอกสารอื่นๆประกอบกับหนังสือไปให้กับนายวัชรพลด้วยได้แก่ 1. บัญชีรายการไม้หวงห้าม 2. ใบอนุญาตทำไม้หวงห้ามธรรมดา 3. ภาพถ่ายประกอบ 4. หนังสือบันทึกการตรวจสอบ ลงวันที่26 ตุลาคม 2561 และ5. บันทึกข้อความ ที่ ทส.0602.35/17561 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2562

นายอนันต์ กล่าวภายหลังจากยื่นหนังสือให้กับ พล.ต.อ.วัชรพล ว่า ประธาน ป.ป.ช.ได้ให้ความสนใจต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเรื่องเชิงสัญญาลักษณ์และความรู้สึกต่อประชาชนที่ไม่อาจจะหาอะไรทดแทนได้

“ผมพบชาวบ้านที่สูงวัยคนหนึ่งในวันนี้ ท่านมาร้องไห้กับผม ท่านบอกว่าขณะนี้อายุ80 ปี แล้ว และ ช่วงเด็กๆก็พบว่าต้นไม้ทั้งหมดนี้โตแล้ว คิดว่าต้นยางนี้น่าจะมีอายุประมาณ150 ปี เจ้าหน้าที่ไม่น่าจะมาทำแบบนี้เลย ที่สำคัญส่วนราชการซึ่งจากเชิงข่าวน่าจะมาจากจังหวัดหรือ ทสจ.ทำป้ายมาขออภัยซ้ำเติมความเสียดายของชาวบ้านอีก ในเวลานี้ต้องการให้เอาไม้ที่ล้มอยู่มาต่อกันดูว่า ขนาดต้นที่หลายคนถ่ายภาพไว้และขนาดรอยต่อได้แนบติดกันหรือต่อกันได้หรือไม่เพราะเชื่อว่าไม้หายไปจำนวนหนึ่งหลายทอน” นายอนันต์กล่าว

สำนักข่าวอิศรา รายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้าที่ ชมรม STRONG เดินทางมาหนังสือต่อ ประธาน ป.ป.ช.ในครั้งนี้ ทางชมรมพร้อมด้วยชาวบ้านพร้อมด้วยพระสงฆ์และประชาชนที่สนใจ ร่วมกิจกรรมณรงค์การอนุรักษ์ต้นไม้ ที่บริเวณถนนสาย พังงา-ภูเก็ต ช่วง โคกกลอย-ท่านุน ตรงจุดที่มีการตัดต้นยาง 11 ต้น โดยสวดอายัดและติดป้ายข้อความ “ขอสาปแช่งผู้อยู่เบื้องหลังการตัดไม้ยางนา 100 ปี” หลังจากนั้นคณะได้เดินทางไปยัง สภ.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ร.ต.อ.พีรวิชญ์ ไชยชาญยุทธิ์ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 หน่วยงานดังกล่าว