'อรรถพล เจริญชันษา' อธิบดีกรมป่าไม้ เผยความคืบหน้ากรณีโค่นยางยักษ์พังงา 11ต้น ล่าสุด ลงนามตั้งคกก.ตรวจสอบเป็นทางการแล้ว มอบนักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษส่วนกลางเป็นปธ. ขีดเส้น 15 วัน หาข้อสรุป แจง ออป. ขนไม้ของกลางไปประมูลขายต่อทำตามขั้นตอนไม่ส่งผลกระทบคดี ชี้ประเด็นเอื้อปย.ค่าภาคหลวงเรื่องจิ๊บๆ หัวใจหลักอยู่ที่รายงานสภาพไม้ ยืนตาย ผุพัง จริงหรือไม่ ข้องใจทีมสำรวจก่อนเสนอเรื่องโค่น ลงพื้นที่ตรวจเอง ผิดพลาดหรือสะเพร่า
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ท้ายเหมือง จ.พังงา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ระบุชนิดต้นไม้ ในรายงานขอโค่นล้ม ริมถนนทางหลวงหมายเลข 402 ตอนโคกลอย - หมากปรก อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เป็นต้นไม้แซะ จำนวน 11 ต้น แต่กลับไปตัดโค่นต้นไม้ยางนายักษ์แทน ว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีนี้เป็นทางการแล้ว โดยมีนายเฉลิมเกียรติ สุดสาคร นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านเฉพาะด้านจัดการ เป็นประธาน กำหนดกรอบระยะเวลาการทำงานไว้ 15 วัน ตามที่ให้ข่าวไปก่อนหน้านี้
ส่วนกรณีที่ปรากฎข้อมูลว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้(ออป.) ได้ขนย้ายไม้ยางที่ตัดโค่น ออกไปจากริมถนนทางหลวงหมายเลข 402 แล้วนั้น นายอรรถพล กล่าวว่า การขนย้ายไม้ของออป.เป็นไปตามขั้นตอนตามระเบียบ เป็นงานคนละส่วนกับการสอบสวนข้อเท็จจริง ไม่เกี่ยวข้องกัน
"ไม้เมื่อมันมีการตัดไปแล้ว ออป.ซึ่งมีหน้าที่นำไปเปิดประมูลขาย ก็ขนย้ายออกไปตามขั้นตอน ขณะที่การขนย้ายไม้ออกไป ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงอะไร เพราะมีข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ครบถ้วนอยู่แล้ว แต่ในเรื่องการประมูลขายไม้ของออป.นั้น ผมได้ประสานไปยังผอ.ออป.ส่วนกลางเพื่อขอให้ควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดให้โปร่งใสมากที่สุดแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร"
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการระบุชนิดต้นไม้ผิด อาจจะมีความพยายามในการเอื้อประโยชน์เรื่องค่าภาคหลวงของเจ้าหน้าที่บางรายให้กับคนบางกลุ่ม
นายอรรถพล ตอบว่า "ผมคิดว่าเรื่องค่าภาคหลวงไม่น่าจะเป็นประเด็นใหญ่ เพราะมูลค่ามันน้อยมาก แต่ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ อยู่ที่สภาพไม้มากกว่า ว่าไม้ที่ตัดออกไปมันอยู่ในสภาพยืนตาย ผุพัง หรือยังสมบูรณ์ดี ตามที่มีการรายงานผลเข้ามาหรือไม่ ถ้ายังอยู่ในสภาพดี แล้วรายงานว่ายืนตายทำไม เป็นความจงใจหรือเป็นความผิดพลาดสะเพร่าของเจ้าหน้าที่ อันนี้เป็นประเด็นใหญ่ที่จะต้องเข้าไปดูไปหาคำตอบกัน"
เมื่อซักต่อว่า คณะกรรมการสำรวจไม้ ส่วนใหญ่ เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง มีประสบการณ์ ทำไมถึงระบุชนิดไม้ผิด นายอรรถพล ตอบว่า "ปัญหาคือ ในขั้นตอนการทำงานได้ลงพื้นที่ไปดูเองจริงๆหรือเปล่า หรือให้ใครไปทำแทน แล้วพอได้รับรายงานมาก็เชื่อตามไปหมดหรือเปล่า"
"ส่วนการระบุชนิดไม้ผิด รายงานต้นไม้ที่ตัดมาเป็นไม้แซะ แต่ไปตัดไม้ยางนาที่มีราคาสูงกว่า จะมีเจตนาจงเอื้อประโยชน์ใครหรือไม่ คงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนที่จะเข้าไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป เพราะได้มอบหมายภารกิจให้ไปแล้ว" อธิบดีกรมป่าไม้ ระบุ
อธิบดีกรมป่าไม้ ยังย้ำด้วยว่า "เกี่ยวกับกรณีต้นไม้ใหญ่ ริมถนน ขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า หน้าที่การดูแลรักษาควรเป็นของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเข้าไปช่วยกันดูแล ถ้าเราดูแลเต็มที่แล้วมันอยู่ในสภาพยืนต้นตายปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อประชาชน ถ้าจะต้องตัดก็ตัดไม่มีใครว่า แต่ถ้าสภาพมันยังสมบูรณ์ดีอยู่ แต่ไปปล่อยทิ้งไม่ดูแลอันนี้จะเป็นปัญหา เราต้องเข้าไปช่วยกันดูแล ไม่ใช่ไปเจออะไรขว้าง ก็คิดแต่จะมาขอตัดโค่นทิ้งไปหมด แบบนี้มันไม่ถูกต้อง เลิกคิดแบบนี้กันได้แล้ว"
อ่านประกอบ :
แฉรายงานไม่ตรงข้อเท็จจริง! อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งสอบด่วน จนท.ปิดถนนโค่นไม้ยางพังงา
กรณีโค่นยางยักษ์พังงา! อัยการชี้หากทำรายงานเท็จโทษเพียบ-คนในป่าไม้ ตั้งปมเอื้อค่าภาคหลวง
อธิบดีป่าไม้ ขีดเส้น15วัน สางปมลักไก่โค่นไม้ยางยักษ์พังงา- จี้ ออป.แจงจ้างลูกช่วงตัดแทน
เพจต้านทุจริตใต้โชว์คลิปมัด โค่นยางยักษ์สภาพดีเพียบ! ไฉนรายงานอธิบดีป่าไม้ สมบูรณ์ต้นเดียว
เปิดชื่อ4ตัวแทน สำรวจไม้แซะ ก่อนโค่นยางยักษ์11ต้น! แจงเหตุจนท.ดูชนิดไม้ผิด-ปัดเอื้อปย.ใคร
กรณีโค่นยางยักษ์พังงา! อัยการชี้หากทำรายงานเท็จโทษเพียบ-คนในป่าไม้ ตั้งปมเอื้อค่าภาคหลวง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/