คำพิพากษาศาลฎีกาฯ!คดี ‘ระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง’รวยผิดปกติ 42 ล. ประเด็นรถบีเอ็มฯ อ้างได้เงินช่วยเหลืองานบวช ‘อริสมันต์’ 2 ล้าน รวมเงินกู้ ไปผ่อนดาวน์ ส่วนค่างวด มาจากเงินเดือน ส.ส. ศาลไม่เชื่อ คำเบิกความลอยๆ เก็บเงินสดไว้นาน 2 ปี ไม่ใช่จ่าย
สืบเนื่องจาก ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2562 นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภรรยานนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ 11 รายการรวม 42,816,226.64 บาทให้ยึดตกเป็นของแผ่นดิน (คดีหมายเลขแดงที่ อม.238/2562 วันที่ 16 ก.ย.2562) 1 ใน ทรัพย์สิน 11 รายการ ได้แก่ เงินดาวน์ผ่อนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู จำนวน 1 ล้านบาท และค่าเช่าซื้อ 12 งวด เป็น 805,272 บาท รวมจำนวน 1,805,272 บาท โดยบังคับจากผู้ถูกกล่าวหา แต่ให้คืนรถยนต์คันดังกล่าวให้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ลิสซิ่ง) ประเทศไทย จำกัด ผู้คัดค้านที่ 2 เนื่องจากเห็นว่า ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ตามคำร้อง ย่อมมีสิทธิ์ติดตามเอาทรัพย์สินที่ให้เช่าซื้อคืนได้ ทั้งผู้คัดค้านที่ 2 ยื่นคำคัดค้านขอคนรถยนต์ตามคำร้องเพื่อประโยชน์ของตนมิใช่ผู้ถูกกล่าวหา
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบคำพิพากษาของศาลฎีกาฯที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อเร็วๆ ประเด็นรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูนั้น ในชั้นไต่สวนของคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นางระพิพรรณอ้างว่า ในการทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าวเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2556 เงินดาวน์ รวม 2,336,448.60 บาท มีที่มาจาก เงินช่วยเหลืองานอุปสมบทของนายอริสมันต์ พงศ์ เรืองรอง (สามี) ผู้คัดค้านที่ 3 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2555 จำนวน 2 ล้านบาทที่เก็บรักษาไว้ รวมกับเงินกู้ยืมจากนายสมบัติ พิษณุไวศยวาท อีก 336,448.60 บาท ส่วนเงินค่างวด งวดละ 67,106 บาทรวม 38 งวด รวมเป็นเงิน 2,383,203.74 บาท มาจากเงินเดือน ส.ส. รวมเป็นเงินที่ชำระแล้ว 4,719,652.34 บาท
ศาลเห็นว่าแม้นายอริสมันต์อุปสมบทดังที่นำสืบจริง แต่ข้ออ้างที่ว่านายอริสมันต์ได้รับเงินช่วยงานบวช จำนวน 2 ล้านบาทอันเป็นที่มาของเงินดาวน์รถ คงมีแค่คำเบิกความลอยๆ ของผู้ถูกกล่าวและนายอริสมันต์เท่านั้น หากได้รับเงินช่วยจริงก็อาจนำใช้อย่างอื่นก็เป็นได้ ประการสำคัญ ที่อ้างว่าได้เก็บเงินช่วยงานอุปสมบทไว้ที่บ้านเป็นเวลานานเกือบ 2 ปีนั้น ไม่สมเหตุสมผล เช่นเดียวกับข้อที่อ้างว่าเก็บเงินไว้ที่บ้านก่อนจะทยอยนำฝาก ส่วนที่อ้างว่าเงินอีกส่วนหนึ่ง จำนวน 336,448.60 บาท ได้มาจากกู้ยืมเงินนายสมบัตินั้น ก็รับฟังไม่ได้ตามที่ได้วินิจฉัยในกรณีเงินฝากแล้ว คดีจึงฟังได้ว่างินดาวน์ จำนวน 1 ล้านบาทนี้เป็นทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของผู้ถูกล่าวหา
ศาลเห็นว่า ในส่วนเงินค่าเช่าซื้องวดละ 67,601 บาท รวม 12 งวด คิดเป็นเงิน 805,272 บาท นั้น ผู้ถูกกล่าวหาเบิกความอ้างว่า ผู้ถูกกล่าวหาผ่อนชำระค่างวดเช่าซื้อดังกล่าวโดยใช้เงินเดือนประจำตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เหลือเก็บอยู่ เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2556 ก่อนที่ผู้ถูกกล่าวหาจะต้องชำระค่าเช่าซื้องวดแรกวันที่ 2 ม.ค.2557 จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ถูกกล่าวหาจะนำเงินเดือนที่ได้รับในตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไปชำระค่าเช่าซื้อในแต่ละงวด ส่วนที่อ้างว่าเป็นเงินเหลือเก็บนั้น ทางไต่สวนของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการนำสืบลอยๆ ที่ง่ายแก่การกล่าวอ้าง จึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟังเป็นจริงดังที่อ้าง ข้อเท็จจริงต้องฟังว่า เงินที่นำมาชำระเป็นรายงวด จำนวน 12 งวด รวมเป็นเงิน 805,272 บาท เป็นทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของผู้ถูกกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากศาลพิพากษาถยึดทรัพย์ 42,816,226.64 ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว นางระพิพรรณยังถูกศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 2 เดือน ไม่รอการลงโทษ คดีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ และปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ห้ามดำรงตำแหน่งใดใดทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีนับจากวันที่ 9 ธ.ค.2556 ซึ่งเป็นวันพ้นตำแหน่ง กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากให้ลงโทษจำคุก 2 เดือน (คดีหมายเลขแดงที่ อม.237/2562 วันที่ 16 ก.ย.2562)
อ่านประกอบ:
INFO: 42 ล้าน อะไรบ้าง? ที่ศาลฎีกาฯสั่งยึดทรัพย์ ‘ระพิพรรณ’
‘ระพิพรรณ’มอบตัวศาลฎีกาหลังถูกสั่งคุก 2 เดือนแจ้งบัญชีเท็จ-ไม่รู้'อริสมันต์' อยู่ไหน
ออกหมายจับ! ศาลฎีกาฯคุกจริง 2 เดือน ‘ระพิพรรณ’ - ยึดทรัพย์รวยผิดปกติ 42 ล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
ภาพ ระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง จาก : โพสต์ทูเดย์