ทำหลักฐานซื้อแอร์เท็จ ! คุก 6 ด. อดีตนายกฯ ท่าขอนยาง มหาสารคาม ไม่รอการลงโทษ

ป.ป.ช. แพร่ผลคดีชี้มูลความผิด 'ศุภชัย บุตราช' อดีตนายกเทศมนตรีท่าขอนยาง มหาสารคาม - พวก 3 ราย จัดทำหลักฐานซื้อแอร์เท็จ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 สั่งลงโทษจำคุกคนละ 1 ปี ปรับ 6 พัน รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือ 6 เดือน ปรับ 3 พัน แต่เฉพาะตัวอดีตนายกฯ เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ไม่อาจรอการลงโทษได้

pictagagg25 9 19

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ผลการพิจารณาคดี นายศุภชัย บุตราช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าขอนยาง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม และพวก 3 ราย ประกอบไปด้วย พ.อ.อ.พรเทพ คันทะพรม นางจรรยา ดอกคำ และนายกอบชัย จำวัน กรณีจัดทำเอกสารหลักฐานการจัดซื้อและการตรวจรับเครื่องปรับอากาศเป็นเท็จเพื่อเบิกจ่ายเงินค่าจัดซื้อโดยมิชอบ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 83 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2560 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 พ.ย.2561 ว่า นายศุภชัย บุตราช มีความผิดตามมาตรา 157 ส่วน พ.อ.อ.พรเทพ คันทะพรม นางจรรยา ดอกคำ และนายกอบชัย จำวัน ผิดตามมาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 83

สั่งลงโทษจำคุก นายศุภชัย บุตราช 1 ปี ส่วนพ.อ.อ.พรเทพ คันทะพรม นางจรรยา ดอกคำ และนายกอบชัย จำวัน จำคุกคนละ 1 ปี และปรับคนละ 6,000 บาท

เบื้องต้น จำเลยทั้ง 4 ให้การรรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 78 คงลงโทษจำคุก นายศุภชัย บุตราช 6 เดือน ส่วน พ.อ.อ.พรเทพ คันทะพรม นางจรรยา ดอกคำ และนายกอบชัย จำวัน จำคุกคนละ 6 เดือน และปรับคนละ 3,000 บาท

แต่นายศุภชัย บุตราช เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงไม่อาจรอการลงโทษได้

ส่วน พ.อ.อ.พรเทพ คันทะพรม นางจรรยา ดอกคำ และนายกอบชัย จำวัน เห็นสมควรรอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามมาตรา 56 หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29,30

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 162 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติการตามหน้าที่

(1) รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ

(2) รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันมิได้มีการแจ้ง

(3) ละเว้นไม่จดข้อความซึ่งตนมีหน้าที่ต้องรับจด หรือจดเปลี่ยนแปลงข้อความเช่นว่านั้น หรือ

(4) รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ

ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติ เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2562 เห็นชอบตามความเห็นของอัยการสูงสุด (อสส.) ที่จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4

picpppddddd25 9 19