ป.ป.ช. แพร่ผลคดีชี้มูลความผิด 'จันทร์ วงค์คำมา' อดีตปลัดเทศบาลบ้านโป่ง เชียงใหม่ เสนอเงินผู้ซื้อซองสอบราคาจ้างเหมาประกอบอาหารกลางวันเด็กศูนย์พัฒนาฯ เลี่ยงแข่งขัน ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ สั่งลงโทษจำคุกเพิ่มเป็น 5 ปี ตาม พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 หลังชั้นต้นโดนแค่ 2 ปี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ผลการพิจารณาคดี นางจันทร์ วงค์คำมา อดีตปลัดเทศบาลตำบลบ้านโป่ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ในคดีเสนอให้เงินแก่ผู้ซื้อเอกสารสอบราคาโครงการจ้างเหมาประกอบอาหารกลางวันสำหรับเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหมู่ที่ 6 ตำบลบ้านโป่ง เพื่อมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10 และมาตรา 12 เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2558
ความคืบหน้าคดีนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2561 ว่า นางจันทร์ วงค์คำมา มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าหน้าที่มีอำนาจในการอนุมัติเกี่ยวข้องกับการเสนอราคา รู้หรือมีพฤติการณ์แจ้งชัดว่าควรรู้ว่าการเสนอราคามีการกระทำความผิด ละเว้นไม่ดำเนินการเพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอราคาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 90 ลงโทษจำคุก 2 ปี
ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2561 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิด ตามพ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 อีกหนึ่งบทด้วย การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.90 ลงโทษจำคุก 5 ปี
ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดซึ่งมีอำนาจหรือหน้าที่ในการอนุมัติการพิจารณาหรือการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาครั้งใด รู้หรือมีพฤติการณ์แจ้งชัดว่าควรรู้ว่าการเสนอราคาในครั้งนั้นมีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ละเว้นไม่ดำเนินการเพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอราคาในครั้งนั้น มีความผิดฐานกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปี ถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
มาตรา 12 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ มีความผิดฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีการประชุมลงมติ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2562 เห็นชอบตามความเห็นของอัยการสูงสุด (อสส.) ที่จะไม่ฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.ชง อสส.ฎีกาสู้ต่อ! หลังศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง‘ชนม์สวัสดิ์’คดีจ้างเก็บขยะมูลฝอย 128 ล.
คุก 135 ปี โดนจริง 50 ! พนง.เทศบาลมาบอำมฤต รับสารภาพทุจริตเบียดบังเงินราชการ
ยอมจ่าย 6 แสน ก็ไม่รอการลงโทษ! คุก 2 ปี 6 ด. อดีตนายกฯ ดงคอน ชัยนาท ขุดดินที่สาธารณะ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/