ตีตกอีกกรณี! กกต.ยกคำร้องกล่าวหา ‘ฐิติมา ฉายแสง’ อดีตผู้สมัคร ทษช. ช่วยเหลือ ‘กิตติชัย เรืองสวัสดิ์’ ผู้สมัคร ส.ส.อนาคตใหม่ หาเสียง ชี้พรรคถูกศาล รธน.สั่งยุบไปแล้ว ถือว่าเป็นบุคคลมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งธรรมดา แถมได้เข้าเป็นผู้ช่วยหาเสียงด้วย ข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่ากระทำผิด ก่อนหน้านี้เคยถูกร้องมาแล้ว แต่ กกต.สั่งยุติเรื่อง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีคำวินิจฉัยที่ 118/2562 เรื่องการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตที่ 1 จ.ฉะเชิงเทรา กรณีก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง กกต. ได้รับคำร้องว่า นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 จ.ฉะเชิงเทรา พรรคอนาคตใหม่ นางฐิติมา ฉายแสง (น้องนายจาตุรนต์ ฉายแสง นักการเมืองดัง) ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 จ.ฉะเชิงเทรา พรรคไทยรักษาชาติ (ปัจจุบันถูกยุบแล้ว) และคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้ถูกร้องที่ 1-3 มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 22
กรณีนายกิตติชัย และนางฐิติมา หลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครอื่น หรือให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร ขณะที่คณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ รู้เห็นเป็นใจให้กระทำการทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย
กกต. พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้วเห็นว่า แม้ข้อเท็จจริงจะรับฟังได้ว่าในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง นางฐิติมา จะติดแผ่นป้ายโฆษณาและป้ายโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมีข้อความว่า นางฐิติมา ขอสนับสนุนและขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ฉะเชิงเทรา ลงคะแนนให้แก่นายกิตติชัยก็ตาม แต่ขณะนั้นปรากฏว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติที่นางฐิติมาเป็นสมาชิกไปแล้ว มีผลทำให้นางฐิติมาขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ นางฐิติมาจึงไม่อยู่ในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังคงมีสิทธิดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ดังนั้นการที่นางฐิติมาสนับสนุนนายกิตติชัย เป็นการใช้สิทธิในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อีกทั้งยังปรากฏว่านางฐิติมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งของนายกิตติชัยด้วย ประกอบกับถ้อยคำที่ใช้ในการสนับสนุนนายกิตติชัย เป็นถ้อยคำลักษณะปกติทั่วไป ไม่ได้เป็นการหลอกลวง บังคับขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม หรือใส่ร้ายด้วยความเท็จแต่อย่างใด
ส่วนกรณีกล่าวหาคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ โดยโฆษกพรรคอนาคตใหม่ (น.ส.พรรณิการ์ วานิช) ได้แถลงงข่าวขอบคุณนางฐิติมา ที่เชิญชวนให้ประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ฉะเชิงเทรา สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่นั้น เป็นเพียงการกล่าวขอบคุณนางฐิติมาที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น ข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายหรือทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือไม่เที่ยงธรรมตามที่กล่าวหา
จึงรับฟังไม่ได้ว่านายกิตติชัย นางฐิติมา และคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) และ พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ มาตรา 22 ตามคำร้องแต่อย่างใด จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นางฐิติมาเคยถูกร้องเรียนต่อ กกต. ร่วมกับนายกิตติชัย และนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 4 จ.ฉะเชิงเทรา พรรคอนาคตใหม่ มาแล้ว กรณีถูกกล่าวหาว่า ให้การสนับสนุนหรือช่วยหาเสียงเลือกตั้งแก่ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ อย่างไรก็ดี กกต. มีคำวินิจฉัยว่า นางฐิติมา นายกิตติชัย และนายจิรัฏฐ์ มิได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา และมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง (อ่านประกอบ : 2 อดีตผู้สมัคร ทษช.น้อง‘จาตุรนต์’รอด! กกต.ตีตกปมให้ฐานเสียงเทคะแนนหนุน อนค.)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ขอบคุณภาพประกอบจาก INN News