อัยการยื่นฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ‘นริศร ทองธิราช’ อดีต ส.ส.เพื่อไทย เสียบบัตรแทนกันช่วงแก้ไข รธน.แก้ที่มา ส.ว. ผิดอาญา 157-พ.ร.บ.ป.ป.ช. ด้วย หลังถูก ป.ป.ช. ชี้มูลตั้งแต่ปี’59 เผยเป็นแค่สำนวนเดียว ยังเหลืออีกเพียบ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 14 ส.ค. 2562 ที่ศาลฎีกา (สนามหลวง) ฝ่ายพนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายนริศร ทองธิราช อดีต ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กรณีเสียบบัตรแทนกันในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. โดยมิชอบ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123
รายงานข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งว่า คดีนี้ในส่วนของถอดถอนสิ้นสุดลงไปแล้ว ได้ส่งเรื่องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ดำเนินการหมดแล้ว ส่วนคดีดังกล่าวเป็นเพียงสำนวนเดียวในคดีอาญาจากอีกหลายสำนวนที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. และมี 2 สำนวนที่ถูกส่งให้กับ อสส. แล้ว แต่มีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการและ ป.ป.ช. ได้แก่ คดีกล่าวหานายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กรณีไม่ตรวจสอบร่างรัฐธรรมนูญว่าสมาชิกดำเนินการถูกระเบียบหรือไม่ และนายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีต ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กรณีสลับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปลายปี 2559 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา และถอดถอนนายนริศร นายสมศักดิ์ และนายอุดมเดช โดยกรณีนายนริศร พบพฤติการณ์ปรากฏจากคลิปวีดีโอว่า นายนริศร มีการเสียบบัตรแสดงตนในเครื่องคนอื่น และดึงออกมาเสียบใหม่ โดยเป็นการโหวตในมาตรา 9 และมาตรา 10 ของการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว ทั้งที่สมาชิกรัฐสภามีเสียงเดียว เสียบบัตรแทนกันไม่ได้ ดังนั้นการกระทำของนายนริศร จึงเข้าข่ายมีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123 และ 123/1 รวมถึงจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหน้าที่นั้น ๆ ทั้งที่ไม่ได้มีตำแหน่งเช่นที่ว่า แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ทำให้การลงคะแนนเสียงถูกบิดเบือน
ส่วนนายอุดมเดช มีความผิดฐานสับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญ ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1 โดยจะส่งสำนวนและความเห็นแก่อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงส่งสำนวนและความเห็นให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาถอดถอนต่อไป
นอกจากนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังตรวจสอบพบพฤติการณ์ของนายสมศักดิ์ ในฐานะประธานรัฐสภา ที่ไม่ตรวจสอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวก่อนจะนำเข้าสู่วาระการประชุม ทั้งที่มีหน้าที่พิจารณาเอกสารให้ครบถ้วน และยิ่งการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง ต้องตรวจดูว่าร่างดังกล่าวสมาชิกรัฐสภาลงนามครบหรือไม่ มีการทำถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ อีกทั้งภายหลังรับหลักการแล้ว ไม่ชัดเจนในคำสั่งการแปรญัตติ มีการสรุปวันแปรญัตติภายใน 15 วัน ซึ่งตามปกติควรนับตั้งแต่วันที่มีการโหวต แต่นายสมศักดิ์นับเวลาตั้งแต่วันที่รับหลักการ ส่งผลให้เหลือเวลาแปรญัตติแค่ 1 วัน ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยแล้วว่า กระทำไปโดยมิชอบ ดังนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงชี้มูลความผิดทางอาญาแก่นายสมศักดิ์ด้วย ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 123/1
ทั้งนี้นายอุดมเดช นายนริศร และนายสมศักดิ์ เคยถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถอดถอนจากตำแหน่งไปแล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
นริศร ทองธิราช : จะเสียบบัตรแก้กม.ส.ว.หรือเงินกู้ 2 ล้านล. ผมคือเหยื่อ?
'นริศร-อุดมเดช'ไม่รอด! สนช.เสียงท่วมท้นถอดถอนเสียบบัตรแทนกัน-สลับร่าง รธน.
แซด! ‘นักการเมืองหญิง-บิ๊ก สนช.’ ล็อบบี้ช่วย ‘อุดมเดช’รอดถอดถอนสลับร่าง รธน.
'นริศร-อุดมเดช-ขุนค้อน'ไม่รอด! ป.ป.ช. ฟันอาญาปมเสียบบัตร-สลับร่าง รธน.