
EEC เลื่อนพิจารณา 4 โปรเจ็กต์ลงทุน ‘เคาะสิทธิประโยชน์ 9.7 หมื่นล้าน, สิทธิประโยชน์ลงทุนเมืองการบินอู่ตะเภา, EEC Capital City และเพิ่มปราจีนบุรีเป็นจังหวัด EEC’ เหตุยุบสภาผู้แทนราษฎร
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 20 ธันวาคม 2568 นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า หลังจากมีการประกาศยุบสภา เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ทำให้สถานะของรัฐบาลปัจจุบันกลายเป็นรัฐบาลรักษาการ การดำเนินงานหลายเรื่องถูกจำกัดอำนาจตามกรอบของรัฐบาลรักษาการ รวมถึงการประชุม คณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ดกพอ.หรือ EEC) ด้วย
เลขาธิการ EEC กล่าวต่อว่า เดิมการประชุมบอร์ด EEC กำหนดไว้เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2568 ที่ผ่านมา แต่เมื่อมีการยุบสภาก็ไม่สามารถประชุมได้อีก ทำให้หลายวาระการประชุมที่เตรียมขับเคลื่อนต้องชะลอออกไป รอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา ซึ่งประกอบด้วย
1.ขออนุมัติ ให้สิทธิประโยชน์การลงทุน จำนวน 7 ราย วงเงินรวมประมาณ 97,000 ล้านบาท ประกอบด้วย อุตสาหกรรมด้านยานยนต์ พวกหัวฉีด และเกียร์อัตโนมัติสำหรับรถไฮบริด จำนวน 2 ราย , ด้านโลจิสติกส์ จำนวน 3 ราย ,อุตสาหกรรมผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องเก็บความเย็น จำนวน 1 ราย และอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กกล้าสีเขียวหรือเหล็กกล้ารักษ์โลก (green steel) จำนวน 1 ราย ที่ผ่านมา EEC ได้โรดโชว์นักลงทุนเข้ามา แต่เนื่องจากกระบวนการให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนมีความล่าช้า และต้องรอร่างประกาศฯสิทธิประโยชน์ให้แก่นักลงทุนในพื้นที่อีอีซี เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ในระหว่างรอ EEC ได้ พิจารณารายโครงการโดยใช้ร่างประกาศฯเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่นักลงทุนแต่ละราย เพื่อนำเสนอต่อบอร์ดกพอ.เห็นชอบก่อน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนแต่ตอนนี้ บอร์ด EECไม่ประชุมทำให้ต้องรอไปก่อน
นายจุฬากล่าวต่อว่า ทั้งนี้ EEC ตั้งเป้าในการลงทุนในพื้นที่ทุกอุตสาหกรรมปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งในปี 2568 มีมูลค่าลงทุนประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สภาพัฒน์ ฯจัดเก็บจากการลงทุนจริง และหากสิทธิประโยชน์การลงทุน จำนวน 7 ราย ผ่านการอนุมัติคาดว่า จะเริ่มเห็นเม็ดเงินการลงทุนในปี 2569 ซึ่งการผลิต green steel มูลค่าสูงสุดประมาณ 70,000 ล้านบาท รอมา 1 ปีหากกระบวนการอนุมัติล่าช้าอาจจะทำให้เปลี่ยนไปลงทุนที่อื่นได้
2.ขออนุมัติสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ให้บริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) เพื่อให้นำไปเจรจาและดึงนักลงทุนเข้ามาร่วมดำเนินการ โดย มีสิทธิประโยชน์ 14 เรื่อง ได้แก่ การลดหย่อนด้านภาษีต่างๆ ทั้งภาษีเงินได้ ภาษีที่ดิน เพื่อผลักดันในส่วนของการพัฒนาเมืองการบิน
3.ขออนุมัติรูปแบบการร่วมลงทุนตามระเบียบ PPP EEC Track โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง ภายใต้โครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ (EEC Capital City: EECiti) เพื่อเตรียมรองรับการพัฒนาทุกกิจกรรมในพื้นที่เมืองใหม่อัจฉริยะ ระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี
4.ขออนุมัติเพิ่มจังหวัดปราจีนบุรี เป็นพื้นที่อีอีซี จังหวัดที่ 4 หลังศึกษาแล้วพบว่าปราจีนบุรี มีความเหมาะสมมากที่สุด และมีความเป็นไปได้สูง สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมและการพัฒนาเมืองได้ ซึ่งนอกจากจะเกิดการลงทุนใหม่ ยังสามารถเปลี่ยนการลงทุนเดิม สู่อุตสาหกรรมใหม่สีเขียว โดยเฉพาะภาคบริการ เช่น บริการที่รองรับสังคมผู้สูงอายุ สุขภาพ การแพทย์ และการท่องเที่ยวคุณภาพสูง

จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา