
ป.ป.ช.ชี้มูล 'การุณ ศรีเด่น' อดีตนายกอบต.กมลา อำเภอกะทู้ ภูเก็ต-พวก ออกใบรับรองก่อสร้างอาคารโรงแรมกีมาลา ปี 58 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมสั่งให้แก้ไข/รื้อถอนส่วนที่ฝ่าฝืนตามอำนาจหน้าที่ ส่งสำนวน อสส.ฟ้องศาลดำเนินคดีอาญาตามขั้นตอนกฎหมาย-ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายการุณ ศรีเด่น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต กับพวก ออกใบรับรองการก่อสร้าง อาคารโรงแรมกีมาลา (KEEMALA) เมื่อปี 2558 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
โดย นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงรายละเอียดว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เดิมที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโครงการโรงแรมกีมาลา (KEEMALA) ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต เป็นกรรมสิทธิ์ของนายการุณ ศรีเด่น ซึ่งต่อมาได้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับบริษัท กมลา พาราไดซ์ จำกัด เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2551 และบริษัท กมลา พาราไดซ์ จำกัด ได้ขายที่ดินแปลงนี้ให้กับบริษัท ศรีจำรูญ จำกัด เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2555
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2556 นายการุณ ศรีเด่น ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร (แบบ อ.1) เลขที่ 144/2556 ให้กับบริษัท ศรีจำรูญ จำกัด เพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการโรงแรมกีมาลา (KEEMALA) ต่อมา ในวันที่ 2 ตุลาคม 2558 บริษัท ศรีจำรูญ จำกัด โดยนายสุรศักดิ์ สมนาม และนายมนตรี สมนาม กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ได้ยื่นคำขอใบรับรองการก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร (แบบ อ.6) ตามใบอนุญาตก่อสร้างอาคารฯ เลขที่ 144/2556 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2556 นายการุณ ศรีเด่นได้รับทราบตามที่นายช่างเขตได้รายงานผลการตรวจสอบเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2558 แล้วว่า ผังบริเวณที่ยื่นประกอบการขออนุญาตก่อสร้างอาคารของกลุ่มอาคาร 2 กลุ่ม ไม่ตรงกับผังการก่อสร้าง แต่กลับลงนามออกใบรับรองการก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือเคลื่อนย้ายอาคาร (แบบ อ.6) เลขที่ 003 – 005/2558 จำนวน 3 ฉบับ ให้กับบริษัท ศรีจำรูญ จำกัด ในวันเดียวกัน อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ต่อมาความปรากฏว่าการก่อสร้างอาคารโครงการโรงแรมกีมาลา (KEEMALA) มีการก่อสร้างกลุ่มอาคารสลับตำแหน่งไม่เป็นไปตามผังบริเวณที่ได้รับอนุญาต และอาคารมีความสูงเกินกว่า แบบแปลนที่ได้รับอนุญาตและที่ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่ และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2553 กำหนด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
กรณีออกใบรับรองการก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร (แบบ อ.6) โดยมิชอบ
1. การกระทำของนายการุณ ศรีเด่น มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
2. การกระทำของบริษัท ศรีจำรูญ จำกัด นายสุรศักดิ์ สมนาม และนายมนตรี สมนาม มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด
สำหรับกรณีข้อกล่าวหาว่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร (แบบ อ.1) โดยมิชอบ ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัย ไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป
ทั้งนี้ ให้แจ้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลาดำเนินการสั่งให้แก้ไขหรือรื้อถอนอาคารตามหน้าที่และอำนาจ ในกรณีที่มีการก่อสร้างอาคารไม่ตรงตามผังบริเวณ ไม่ตรงตามแบบแปลน และฝ่าฝืน ต่อประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา